เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1029 นินทา



บทที่1029 นินทา

พ่อจางก็ตกใจตะลึงเช่นกัน ให้ลูกสาวเช็ดหน้าให้

เขายังไม่ทันได้พูดปฏิเสธ เสี่ยวเหยียนก็หันหลังไปรองน้ำใน ห้องน้ำแล้ว ผ่านไปไม่นานก็ออกมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กใน มือที่มีน้ำอยู่ครึ่งหนึ่ง จากนั้นวางผ้าเช็ดหน้าสีขาวลงไปหนึ่งผืน

ของพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของที่หล่อนเอามาเองจากที่บ้าน

วางไว้เพื่อรอให้พ่อฟื้นขึ้นมาจะได้ใช้การได้ทันที

เสี่ยวเหยียนยกกะละมังใบเล็กมาไว้บนตู้ข้างเตียง จากนั้นบิด น้ำออกจากผ้า โน้มตัวลงไปเตรียมจะเช็ดหน้าให้พ่อ

ตั้งแต่เสี่ยวเหยียนโตขึ้น สองคนพ่อลูกก็ไม่มีท่าที่จะทำอะไร สนิทกันแบบนี้เลย ดังนั้นตอนที่เสี่ยวเหยียนมาเช็ดหน้าให้เขาพ่อ จางจึงรู้สึกไม่เป็นตัวเองมาก

เช็ดไปสักพักใหญ่พ่อจางจึงพูดขึ้น: “เหยียนเหยียน ให้พ่อเช็ด

เองเถอะ”

เมื่อพูดจบพ่อจางกำลังจะแบมือรับผ้าจากหล่อน

แต่ทว่าเมื่อขยับได้นิดหน่อย ก็รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาทันที ปวดจน ควบคุมตัวเองไม่ได้ กัดฟันไว้แน่น

“พ่อ เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปทันที “เจ็บตรงไหนรึเปล่า?หนูไปเรียกหมอให้ไหม?”

พ่อจางเริ่มผ่อนคลายลง ส่ายหน้า: “ไม่เป็นไรๆ คงเป็นเพราะ เมื่อครูไม่ทันระวังไปโดนแผล

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเสี่ยวเหยียนจึงถอนหายใจโล่งอก: “บอก แล้วว่า ให้หนูเช็ดหน้าให้ ทำไมพ่อยังดื้อจะทำเอง? นอนนิ่งๆ ดีแล้ว หนูเป็นลูกของพ่อนะ ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย พ่อจะปฏิเสธ ทําไม?”

ขณะที่พูดเรื่องพวกนี้ น้ำเสียงของเสี่ยวเหยียนก็เริ่มต้นขึ้น จากนั้นนําผ้าไปซักใหม่หนึ่งรอบ และโน้มตัวลงเช็ดหน้าให้เขา อย่างตั้งใจอีกครั้ง และพูดต่อ: “พ่อไม่ได้กลัวว่าหนูเช็ดไม่สะอาด ใช่ไหม? พ่อสบายใจได้นะ หนูต้องเช็ดให้พ่อหลายรอบเลย รับรองว่าเมื่อแม่มาถึงแล้วต้องพอใจแน่นอน

พ่อจางมองดูลูกสาวที่อยู่ตรงหน้า

ห้าปีแล้ว

เขาไม่ได้เจอหน้าลูกสาวคนนี้มาห้าปีแล้วจริงๆ

ตอนนี้ลูกสาวอยู่เคียงข้างเขา และยังช่วยเช็ดหน้าให้เขาอีก ด้วย อีกทั้งยังใช้น้ำเสียงที่ดุดันพูดคุยกับเขาพ่อจางเคยคิดนับ ครั้งไม่ถ้วนว่าถ้าพวกเขาสองคนพ่อลูกเจอกันครั้งนี้จะเป็น อย่างไร

เขาคิดว่าเสี่ยวเหยียนยังคงเป็นเด็กเอาแต่ใจ และเขาก็ยังคง ทำสีหน้าบึ้งตึง
คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งสองจะกลับมาคืนดีกันได้เหมือนตอนแรก เช่นนี้

เมื่อคิดถึงตอนนี้ ใบหน้าที่เริ่มแก่ของพ่อจางเผยให้เห็นถึง ความปลื้มใจขึ้นมา “ลูกสาวของพ่อโตขึ้นแล้ว ตอนนี้รู้จักดูแล พ่อแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนหยุดชะงักไปทันที สบตามอง สายตาที่บ่งบอกถึงความรักและชื่นชมของพ่อ จากนั้นก็หวน คิดถึงเรื่องที่หลายปีมานี้หล่อนไม่ไม่ได้เจอหน้าพ่อเลย จึงรู้สึก ทุกข์ใจขึ้นมาอีกครั้ง

หล่อนกัดริมฝีปากแน่น น้ำเสียงสะอึกสะอื้น

“พ่อ ขอโทษนะคะ…”

พ่อจางตก ใจตะลึง

“ห้าปีที่แล้ว หนูไม่ควรทำแบบนั้นกับพ่อ หลายปีที่ผ่านมา นี้หนูผิดไปแล้ว พ่อให้อภัยหนูได้ไหมคะ? ต่อไปหนูจะอยู่เคียง ข้างพ่อ จะไปไหนอีกแล้ว”

พ่อจางคิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะกลายเป็นเด็กดีแบบนี้ คำพูด ของหล่อนทำให้น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที

“เหยียนเหยียน พ่อไม่ถือโทษโกรธลูกหรอก อย่าโทษตัวเอง เลย”

“จริงเหรอคะ? แต่ห้าปีที่ผ่านมานี้
“ลูกรู้ไหมว่าตอนที่พ่อโดนรถชนพ่อคิดถึงเรื่องอะไร?”พ่อจาง มองตรงไปที่หน้าลูกสาวของตัวเอง และยิ้มขึ้น จากนั้นเบี่ยง สายตาไปมองเพดานสีขาว

“ตอนที่เกิดเรื่อง พ่อรู้สึกเสียใจมาก เสียใจที่หลายปีที่ผ่านมา นี้ ทำไมลูกไม่โทรหาพ่อบ้าง ถ้า….ตอนนั้นพ่อเป็นฝ่ายโทรหา ลูก พวกเราสองคนพ่อลูกคงไม่ต้องห่างหายกันไปนานห้าปีแบบ นี้ แต่ยังโชคดีที่พระเจ้ายังสงสาร พ่อจึงยังไม่ตาย

และยังได้เจอลูกสาวด้วย

เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ แต่คิดไม่ถึง เลยว่าเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วน้ำตาจะไหลพรากอีกครั้ง หล่อนอดทนไว้ “พ่อ ไม่ต้องพูดแล้ว สิ่งที่พ่อคิดเหมือนกับที่หนู คิดเช่นกัน ดังนั้นต่อไปนี้ พวกเราจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วดีไหม คะ?”

พ่อจางยิ้มและพยักหน้าลง

“ต่อไปลูกคนนี้จะไม่ดื้ออีกแล้ว และก็ไม่ไปต่างประเทศอีกแล้ว และจะอยู่ดูแลเคียงข้างพ่อ เป็นลูกที่ดีของพ่อ”

ทันใดนั้นพ่อจางก็รู้สึกว่า เสี่ยวเหยียนกลับมาครั้งนี้ นิสัยของ หล่อนเปลี่ยนเป็นคนละคนจริงๆ สําหรับเสี่ยวเหยียนแล้ว หล่อนจะไม่เปลี่ยนได้ยังไง?

หล่อนเจ็บปวดเรื่องความรักจากหานชิง ตอนนี้ยังรักษาแผล ใจไม่หายดี พ่อของหล่อนก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตหลอน ทำให้ตาสว่างขึ้นมา

ทันใดนั้นหล่อนก็รู้สึกว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของพ่อ

แม่อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือความรัก ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า

พ่อแม่

หล่อนจึงตัดสินใจฮึดสู้ขึ้นมา

เมื่อหลัวหุยเหมียมาส่งข้าวให้ตอนกลางวัน เสี่ยวเหยียนเป็น ฝ่ายป้อนโจ๊กให้พ่อ เพราะเขาเพิ่งฟื้นขึ้นมา ระบบย่อยอาหารยัง อ่อนแอมาก ดังนั้นเขาจึงทานได้เพียงอาหารอ่อนที่มีรสชาติจืด และยังทานได้ไม่มากนัก

เสี่ยวเหยียนป้อนเขาอย่างช้าๆด้วยท่าทางที่ตั้งใจมาก

หลัวหุยเหมียที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะถาม ขึ้น “สองพ่อลูกตีกันแล้วเหรอ? พูดเปิดใจกันแล้วเหรอ?”

“แม่ พูดเปิดใจกันแล้วสิคะ ไม่อย่างนั้นลูกจะป้อนข้าวพ่อได้เห รอ?” เสี่ยวเหยียนมองแม่ด้วยความเหลืออด รู้สึกว่าหล่อนไม่มี ไหวพริบเสียเลย

อะไรที่ควรพูดก็ไม่พูด

หลัวหุ้ยเหม่ยยังอยากพูดบางอย่างต่อ แต่กลับถูกเสี่ยวเหยีย นพูดแทรกก่อน: “แม่ทานข้าวแล้วยังคะ?”

“ยังเลยจ้ะ มัวแต่ทำกับข้าวอยู่จนลืมไปเลย แต่แม่เอาข้าวมาด้วย เดี๋ยวเราทานด้วยกันก็ได้

“งั้นแม่ทานก่อนเลยค่ะ”

“เฮ้อ”

หลัวหุยเหม่ยไม่เกรงใจอะไร จึงทานข้าวก่อน ขณะที่กำลังทาน ข้าวอยู่ก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ มองไปที่เสี่ยวเหยียน: “จริง ตอนที่แม่มาส่งข้าวที่โรงพยาบาล แม่เจอป้าจางที่อยู่ข้างบ้านอีก แล้ว”

เมื่อได้ยินชื่อป้าจาง เสี่ยวเหยียนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา

ทันที

“ป้าจางบอกแม่ว่า ลูกสาวบ้านหนึ่งแต่งงานกับหนุ่มไฮโซ ธุรกิจ ตอนนี้เป็นคุณนายผู้ร่ำรวย ออกงานสังคมชั้นสูงทุกวัน ทั้ง ยังซื้อของราคาแพงมากมายให้พ่อแม่อีกด้วย”

เมื่อฟังถึงตอนนี้ เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วมากขึ้น ป้าจางพูดเรื่อง แบบนี้กับแม่เพื่อต้องการจะสื่ออะไรกันแน่?

“แม่ แม่คงอยากให้หนูแต่งงานกับหนุ่มไฮโซแบบนี้ด้วยใช่ ไหมคะ จะได้ซื้อของแพงๆ ให้พ่อกับแม่?”

“เหอะ!” หลัวหุยเหม่ยพูดบ่นหล่อน: “ลูกเห็นแม่เป็นคนยังไง กัน? เราแค่อยากให้ลูกแต่งงานไม่ได้ขายลูกสักหน่อย มีแค่เงิน จะไปมีประโยชน์อะไร? แม่ยังได้ยินว่าลูกสาวบ้านนั้น แม้ว่าจะ รวยมาก แต่สองผัวเมียมักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ จนบางครั้ง ต้องร้องไห้กลับมา ตาแดงก่ำ แต่เรื่องไม่ดีแบบนี้คงไม่บอกให้ใครรู้ แต่ยังได้ยินมาอีกว่าสามีของหล่อนเลี้ยงเมียน้อยไว้ด้าน นอกอีกด้วย พวกเขาจึงทะเลาะกันเป็นประจำ ดังนั้นนะ ซื้อของ แพงแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ยังไม่มีความสุขอีกด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนอายจนเหงื่อออก

“แม่ต้องการจะพูดเรื่องอะไรกันแน่?

หลัวหุยเหม่ขวางถ้วยลงด้วยความไม่สบายใจ พลางเช็ดมือ “อันที่จริงแม่แค่อยากรู้ว่า ลูกกับแฟนคนนั้นเลิกกันทำไมล่ะ?”

เสี่ยวเหยียน: “แม่! หนูเคยบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้เป็นแฟน กัน แม่อยากถามเรื่องนี้อีกได้ไหม?”

ถึงตอนนี้ หล่อนพูดเสียงนิ่งขรึมขึ้น “พ่อยังอยู่ตรงนี้นะคะ”

พ่อจางที่ถูกหล่อนเอ่ยถึงหัวเราะขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่สงสัย

อะไรเลย แต่กลับยินดีที่ได้ฟังสองแม่ลูกพูดโต้เถียงกันอีกด้วย

ภาพความอบอุ่นเช่นนี้ ไม่เห็นมานานแล้ว

“พ่อของลูกก็ไม่ใช่คนนอก ลูกมีแฟน ให้พ่อรู้บ้างจะเป็นอะไร ไป? ลูกโตแล้ว อีกสองปีก็จะโตเป็นสาวแล้วนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ