เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1550 อย่ารังแกน้องสาวฉัน



บทที่1550 อย่ารังแกน้องสาวฉัน

ยอมองเขาด้วยแววตาเย็นชา จงเฟิงแบะปาก: “ต้องถึงขั้น นี้เลยเหรอ? ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของพี่สักหน่อย ผมดูข้อความแ บนึงก็ไม่ได้? งั้นเดี๋ยวไปโรงเรียนเธอช่วยเธอย้ายกระเป๋า ผม เห็นทั้งคนแล้ว พี่จะควักลูกตาผมออกมามั้ย?”

แต่สุดท้าย จงเฟิงก็ไม่ได้ดูมือถือเขา ได้เป็นฝ่ายหันหน้าไป อีกทางเอง

จากนั้น ฉือซูได้เปิดดูวีแซททีนึง เห็นยัยหนูส่งแชทให้เธอ {พี่ถึงโรงเรียนหรือยัง

คงจะเพราะรอนานเกินไปไม่ได้คำตอบ ยัยหนูได้ส่งอีโมจิ ข้องใจไปอีกครั้ง เห็นอีโมจิน ฉือซอดยิ้มมุมปากไม่ได้

ไม่ต้องดูก็สามารถจินตนาการสีหน้าของยัยหนูที่เบิกตากว้าง ด้วยความข้องใจออกและใบหน้าขาวอมชมพูที่เต็มไปด้วยความ

งงงวย

เขาใช้มือข้างเดียวพิมพ์ข้อความ

{ใกล้ถึงแล้ว รออีกแป๊บนะ}

ยัยหนูตอบได้เร็วมาก

{โอเคค่ะ}

กว่าจะถึงโรงเรียนได้นั่งรถเมล์ประมาณหนึ่งชั่วโมง
จงเพิ่งมองประตูที่อยู่ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ

“คิดไม่ถึงฉันอยู่ปีสองแล้วยังมีโอกาสมาดูที่มัธยมปลาย ล้วน เป็นรุ่นน้องที่เพิ่งขึ้นชั้นเรียนมา แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”

พอพูดจบ จงเฟิงก็ได้ไปข้างหน้าพาดไหล่ของฉือไว้ “พี่ซู พี่ว่าฉันหารุ่นน้องคนนึงมาบ่มเพาะเป็นแฟนดีมั้ย?” พอพูดจบ ยอยศูนัยน์ตาดำเข้มจ้องไปที่ใบหน้าเขา

“โรคจิต?”

“เห้ย โรคจิตอะไร?”จงเพิ่งฟังคำเปรียบเปรยนี้ ก็โกรธขึ้นมา ทันที แค่เด็กกว่าฉันไม่กี่ปีเอง โรคจิตที่ไหน?

ฉือผลักมือของเขาออก ก้าวเท้ายาวเดินไปที่ประตู

โรงเรียน หน้าประตูโรงเรียนมีรุ่นน้องที่ขึ้นชั้นเรียนมามากมาย นักเรียน

ส่วนมากล้วนมีพ่อแม่ส่งมาที่โรงเรียน ส่วนบางคนก็มาเอง

ฉือซูยืนพิงอยู่ที่ผนังข้างประตูขวา ชายหนุ่มที่ผอมสูงใส่ เสื้อเบสบอล หน้าตาหล่อเหลามากเป็นพิเศษ ซึ่งอยู่ที่ประตูด้าน ขวาของโรงเรียน เหมือนวิวทิวทัศน์ที่สวยงามชัดๆ

ตอนที่ถางหยวนหยวนมาถึงโรงเรียน เงยหน้ามองประตู

โรงเรียนทีนึง

แว๊บเดียว ก็เห็นฉือซูพิงอยู่ที่ประตูข้างขวาของโรงเรียน

“พี่ชาย!”
ใบหน้าขาวอมชมพูของถางหยวนหยวนเผยรอยยิ้มออกมา เธอเปิดประตูรถออกวิ่งไปหาเขาด้วยความตื่นเต้น และเรียกเขา ไปด้วย: “พี่ชาย!”

ยูฉือยี่กำลังเตรียมจะหยิบมือถือออกมาถามยัยหนูว่าถึงหรือ ยัง ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงออดอ้อนของยัยหนู เงยหน้าก็เห็นชัย หนูใส่กระโปรงลายดอกสีเหลืองอ่อน ผมที่นุ่มนวลดกว่ามันเป็น ทรงหางม้าสูง ตอนวิ่งชายกระโปรงกับหน้าม้าปลิวขึ้นมา ความ เป็นชีวิตชีวาของสาวน้อยเตะจมูกมา

“แหม ยัยหนูสวยจริงๆ

จงฉู่เฟิงชมด้วยรอยยิ้ม

“พี่ชาย!”

ในที่สุดถางหยวนหยวนก็วิ่งมาถึงตรงหน้าของอย นัยน์ตา เข้มเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความตื่นเต้นกับความ ดีใจที่เจอเขา: “พี่รอนานมากแล้วใช่มั้ย?”

“เปล่า”ยู่ฉือซูเอามือถือใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง: “พี่กับ เฟิงเพิ่งถึง”

ได้ยินชื่อของเฟิง ทีนี้ถางหยวนหยวนถึงสังเกตเห็นว่าจงเป็ งก็ยืนอยู่ข้างๆ จึงได้ยิ้มหวานให้กับเขา”พี่เฟิง!”

จงเฟิงเชอะคำนึง “ยัยหนูคนนี้หนิ สายตาและจิตใจมีแค่พี่ ชายเธอคนเดียว พี่เฟิงที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ยืนอยู่ที่นี่ เธอก็มองไม่ เห็นเลย”
ถางหยวนหยวนค่อนข้างเก้อเขินจนทำอะไรไม่ถูก เธออธิบาย “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อพี่เฟิงยืนอยู่ค่อนข้างไกล ฉันก็เลยไม่เห็นค่ะ

“แล้วพี่ซูของเธอยืนไม่ไกล? ยัยหนูที่ไร้มโนสำนึก

ถางหยวนหยวนยังอยากอธิบาย ยอยเดินมาข้างหน้าและ กดศีรษะเธอไว้ ไม่ร้อนเหรอ? มีอารมณ์คุยกับเขาขนาดนี้?”

งจางเปิดท้ายรถ เอากระเป๋าของถางหยวนหยวนลงมาจาก

ท้ายรถ

เดิมทีจงเพิ่งนึกว่ากระเป๋าของยัยหนูน่าจะไม่เยอะ ใครจะไปรู้ ลุงจางถึงกับเอากระเป๋าใบใหญ่ลงมาสองใบ

แค่ดูแว๊บเดียว จงฉู่เฟิงก็เบิกตากว้าง

กระเป๋าใบใหญ่ขนาดนี้เลย? แถมยังสองใบด้วย ยัยหนู หยวนหยวน ในกระเป๋าเธอใสอะไรบ้างเนี่ย?”

คำถามที่ถามออกมาปุ๊บ พริบตาเดียวถางหยวนหยวนก็ร้อน

ตัว: “ก็…ก็พวกเสื้อผ้าที่ใส่ไงคะ ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละ

“จริงอ่ะ?”จงฉู่เฟิงยักคิ้ว: “เธอแน่ใจนะว่าเธอเหมือนผู้หญิงคน อื่น? ในกระเป๋ามีแค่เสื้อผ้า แต่ไม่ใช่ของกิน?”

ถางหยวนหยวน:”พี่ฉู่เฟิง!”

ระหว่างพูด ถางหยวนหยวนก็กระเถิบไปที่ข้างกายของฉือ ซู ดึงมือเขาไว้ และเรียกเขาด้วยความกล้ำกลืน “พี่ชาย ยู่จื่อซูจ้องจงฉู่เฟิงด้วยแววตาเย็นชา
“จงเฟิง อย่ารังแกน้องสาวฉัน

จงเฟิงแบะปาก แต่พอเห็นหน้าตาโกรธเคืองของถางหยวน

หยวนก็รู้สึกชอบใจ ยัยหนูนี่ทำไมอ้วนได้น่ารักขนาดนี้? ทั้งๆที่ อ้วนขึ้น แต่อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้ากลับเป๊ะมาก อีกทั้งผิวก็ขาว อมชมพู บวกกับสีหน้าดูดีมาก คนทั้งคนดูสดใสและมีชีวิตชีวา ดังนั้นจึงอยากแกล้งเธอมากพิเศษ แต่ทุกครั้งที่แกล้งหยวน

หยวน ถางหยวนหยวนก็จะหลบไปที่ด้านหลังของฉือ เฮ้อ

จากนั้นฉือซูได้รับกระเป๋าทั้งสองใบมา โยนให้จงเฟิง ใบ

“รู้เลขที่หอพักตัวเองหรือยัง?”

นึง

“รู้แล้วค่ะ แต่รอแป๊บนึงได้มั้ย ฉันมีเพื่อนคนนึงก็ใกล้ถึงแล้ว เธอก็เอากระเป๋าตัวเองมาด้วยค่ะ”

เพิ่งพูดจบ ห่างจากไม่ไกลก็มีหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าและ

กวักมือมาทางนี้

“หยวนหยวน!”

ถางหยวนหยวนได้ยินเสียงแล้วดีใจ: “คือเฟยเฟย!”

เธอหันไปกวักมือให้หญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล: “เฟยเฟย รีบมาเร็ว”

เพิ่งเขือเฟยเห็นข้างกายถางหยวนหยวนมีชายหนุ่มผอมสูงยืน อยู่สองคนมาแต่ไกล เธอค่อนข้างตื่นเต้นขึ้นมา แต่ก็ยังฝืนแสร้ง เดินไปใกล้อย่างสงบ
“พี่ชาย แนะนำให้รู้จักหน่อย นี่คือเพื่อนสนิทของฉันเพิ่ง เขือเฟยค่ะ เฟยเฟย นี่คือพี่ชายฉันและทางนี้คือพี่เฟิง”

เพิ่งเขือเฟยพยักหน้าให้ทั้งสองด้วยความเก้อเขิน “สวัสดีค่ะ พี่ ชายทั้งสอง

“สวัสดีจ้า น้องเขือเฟย”จงเพิ่งยกมือขึ้นมาทักทายกับเธอ

ด้วยรอยยิ้ม

แต่อยซูค่อนข้างเย็นชา พยักหน้าให้เธอ “สวัสดีครับ

จงเฟิงเป็นฝ่ายเดินไปลากกระเป๋าของเพิ่งเขือเฟยมา และพูด อย่างเป็นมิตรไมตรี “น้องเขือเฟย พี่ช่วยเธอลากเอง”

จงเฟิงทั้งผอมทั้งสูง เขาแค่เข้าใกล้ หน้าของเพิ่งเขือเฟย แดงแล้ว:“ไม่เป็นไรค่ะๆ ฉันลากเองก็พอค่ะ

“ไม่เป็นไรจ้า ผู้หญิงคือเอาไว้ประคบประหงม พี่ช่วยลากเอง”

พอพูดจบ จงเฟิงก็รับกระเป๋ามาโดยตรง

เดิมทีกระเป๋าของเมิ่งเขือเฟยหนักมาก แต่ชายหนุ่มทั้งสอง เรียนโรงเรียนตำรวจ เรื่องพละกำลังย่อมไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แบกกระเป๋าสองใบจึงไม่เปลืองแรงเลยสักนิดเลย อีกอย่างเดียว พอเดินขึ้นตึกถึงต้องใช้แรง ตอนนี้ยังไม่ต้อง

เพิ่งเขือเฟยเห็นเขาไม่ให้โอกาสตัวเองปฏิเสธ ได้แต่ตอบ ตกลง และยืนข้างกายถางหยวนหยวนด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“เฟยเฟย ไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้พวกเขามาช่วยพวกเราจัดเก็บโดยเฉพาะเลย ไปกันเถอะ”

ต่อมา ชายหนุ่มสองคนก็ได้พายัยหนูสองคนไปยังทิศทางของ หอพัก

ตอนแรกหอพักยังค่อนข้างหายาก โชคดีที่ถางหยวนหยวนกับ เพิ่งเขือเฟยไม่ต้องยกกระเป๋าเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ