เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1324 กลัวเธอเสียเปรียบ



บทที่ 1324 กลัวเธอเสียเปรียบ

เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร พี่เหวินเหวินรู้สึกว่าตัวเองคงถามอะไร ไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่ยอมตัดใจยอมแพ้ จึงต้องใช้แผนทางอ้อมเข้า โจมตี

“จริงสิ เมื่อก่อนเธอเรียนจบอะไรมาเหรอ? ทำไมจู่ๆถึงมา ทำงานที่บริษัทพวกเราล่ะ?”

เมื่อพูดถึงเรื่องในอดีต ความหวาดระแวงของสวีเย็นหวั่นก็ กลับขึ้นมาตั้งรับอีกครั้ง

หรือเป็นเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอเยอะเกินไป ทำให้ตอนนี้ เธอต้องมีสติและป้องกันตัวเองมากขึ้น

สวี่เย็นหวั่นรู้สึกว่า นอกจากหานชิงแล้ว เธอไม่ควรจะเชื่อใจ

ใครอีก

“คือว่าธุรกิจบ้านล้มเหลว ต้องการเงิน ก็เลยออกมาทํางาน คะ”

แบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการโกหกรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องของ ตัวเองออกมา สวี่เย็นหวั่นรู้สึกว่าคำตอบนี้ทำให้เธอพอใจมาก และเธอก็ไม่คิดที่จะให้อีกฝ่ายซักถามเรื่องเกี่ยวกับตัวเองมากไป กว่านี้แล้ว เมื่อตอบกลับไปเสร็จก็รีบพูดต่อ: “เหวินเหวิน เอกสารฉบับนั้นที่พี่ให้ฉันมาตอนเช้า ฉันยังทำไม่เสร็จเลย ฉัน ขอตัวไปทำก่อนนะ ส่งให้พี่ช้าหน่อยนะคะ
นี่หมายความว่าไม่คิดจะพูดอะไรต่อแล้วใช่ไหม

แสงบางอย่างพาดผ่านสายตาของเจียงเหวินเหวิน จาก นั้นลพยักหน้าลง

“ได้สิ เธอไปทํางานก่อนเถอะ”

หลังจากที่สวี่เย็นหวั่นเดินออกไป เจียงเหวินเหวินก็พูดในใจ หญิงสาวคนนี้จัดการด้วยยากจริงๆ พูดอะไรไม่มีหลุด หากจะให้ พูดความจริงคงไม่มีทางแน่นอน

และเธอก็ไม่สามารถถามตรงๆได้

ช่างปวดหัวเหลือเกิน

ตั้งแต่เสี่ยวเหยียนรู้ว่าตัวเองท้อง จึงเริ่มทำทุกอย่างด้วยความ ระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มักจะชอบกระโดด โลดเต้น และไม่สามารถใส่กางเกงยีนส์รัดรูปได้อีกแล้ว จึง เปลี่ยนเป็นใส่กระโปรงสบายๆและชุดคลุมยาว

หลัวหุยเหม่ยเห็นเธอแต่งตัวแบบนี้ ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เยาะเธอ

“นี่ลูกเปลี่ยนรูปแบบการแต่งตัวหรือเป็นอะไรเนี่ย?”

เสี่ยวเหยียนทำสายตาน้อยใจ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่ช่วงนี้ อยากแต่งตัวน่ารักๆบ้าง แอ๊บแบ๊วน่ารัก”

เมื่อหลัวหุยเหม่ยได้ยินเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองบน “พอเถอะ อายุอย่างลูกในตอนนี้ ยังจะมาทำตัวน่ารักแบ๊วๆ ระวังทำให้คนอื่นตกใจจนหนีไปล่ะ”

เสี่ยวเหยียนทำหน้าทตาใส่เธอ และยังหยอกล้อแกล้งทำ หน้าผี จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไป

เมื่อวิ่งไปได้หนึ่งก้าว เสี่ยวเหยียนก็หยุดชะงักลงทันที จากนั้น ยกมือขึ้นมากุมท้องของตัวเองไว้ ตกใจหมดเลย เกือบลืมว่าตัว เองกำลังท้องอยู่อีกแล้ว

ต่อไปเธอต้องท่องไว้ให้ดีว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้องอยู่ แม้ว่า ลูกน้อยเพิ่งจะมีอายุได้เพียงหนึ่งเดือน แต่ตอนนี้เสี่ยวเหยียนรู้สึก ว่าร่างกายมีพละกำลังเต็มที่มาก

มีความสุขมากๆ

เธออยากแบ่งปันความสุขนี้ให้หานชิงรับรู้มากๆ แต่ก็ไม่ สามารถบอกตอนนี้ได้ ทำได้เพียงอดใจรอไว้

เพราะยังไงอีกนานสักพักจึงจะเห็นชัดว่าท้อง ตอนนี้เธอเองก็ ไม่รีบร้อนอะไร อยู่รอเงียบๆแบบนี้ไปก่อนดีกว่า

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนท้องแล้ว ไม่อยากไปไหนมาไหนเยอะ แต่ สำหรับทานชิงเธอยังคงทนนั่งไม่ติด พอถึงเวลาก็ตักซุปที่ตัวเอง ทำไว้ ใส่หม้ออุ่น และออกไปหาเขา

เมื่อพ่อจางเห็นเช่นนี้ รู้สึกหวงลูกขึ้นมาทันที จึงพูดกับหลัวหุ้ย

เหม่ย

“มีแต่คนบอกว่าลูกสาวแต่งงานไป ก็เหมือนสาดน้ำออกไปแต่คุณดูสิ นี่ขนาดลูกยังไม่แต่งออกไป ก็ลุกลี้ลุกลนไปหาคนอื่น แบบนี้แล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของหลวยเหม่ยก็เหลือบมองไปที่ แผ่นหลังของเสี่ยวเหยียน จากนั้นส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ “นั่นสิ เสี่ยวเหยียนชอบเสี่ยวชิงมาก”

“แค่กลัวว่าต่อไปจะถูกเอาเปรียบ

“พูดอะไรกัน? เสี่ยวชิงก็ถือเป็นคนรับผิดชอบ รู้ว่าอะไรควรไม่ ควร ดูเขากับเสี่ยวเหยียนมากเลยนะ ไม่เอาเปรียบลูกหรอก”

พ่อจางกําหมัดแน่น ไม่ว่ายังไง ถ้าเขากล้าเอาเปรียบลูกสาว ของเรา ผมก็จะแลกด้วยชีวิตของตาแก่คนนี้เอาเรื่องเขาให้ถึงที่

หลัวหุ้ยเหม่ย: ”

ตอนที่เสี่ยวเหยียนไปถึงบริษัท พนักงานต้อนรับก็เห็นเธอทันที และยังเป็นฝ่ายทักทายก่อนอีกด้วย

แม้ว่าปกติทั้งสองจะทักทายกันอยู่แล้ว แต่ก็แค่พยักหน้าให้ กันเท่านั้น แต่วันนี้พนักงานต้อนรับกลับอ้อมโต๊ะออกมาวิ่งตาม เสี่ยวเหยียน และหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

“เดี๋ยวก่อนค่ะ”

เสี่ยวเหยียน: ?”

“เอ่อคือ… พนักงานต้อนรับยิ้มและมองไปที่หม้ออุ่นร้อนในมือเธอ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน: คุณต้มซุปไก่มาให้ประธาน หานอีกแล้วเหรอคะ?”

ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนจึงพยักหน้าลง และถามกลับ มี

เรื่องอะไรรึเปล่า?” “เปล่า เปล่าค่ะ!” พนักงานต้อนรับรับส่ายมือ ทําสีหน้า

เคอะเขิน “ก็แค่มีคำถามอยากขอคำแนะนำจากคุณค่ะ”

“เอ๊ะ?”

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปทานบะหมี่ที่ร้านคุณ อร่อยมากเลย

เมื่อได้ยินพนักงานต้อนรับชมว่าบะหมี่ร้านตัวเองอร่อย เสี่ยว เหยียนจึงรู้สึกดีกับเธอขึ้นมา สายตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที “อร่อยใช่ไหม? เธอชอบก็ดีแล้ว ต่อไปมาบ่อยๆนะ

“จริงเหรอคะ?” พนักงานต้อนรับตกตะลึงจนเบิกตากว้าง “เมื่อ ก่อนฉันมีเรื่องขัดแย้งกับคุณ คุณไม่ถือโทษโกรธฉันแล้วใช่ ไหม?”

“เรื่องพวกนั้นเป็นอดีตไปแล้ว ฉันจะโทษเธออีกทำไมล่ะ?”

ถ้าเธอถือโทษโกรธเธอ คงไม่พยักหน้าทักทายให้เธอตอนเข้า มาหรอก

“คุณใจดีจังเลย” พนักงานต้อนรับพูดชม “มิน่าล่ะ ประธาน หานถึงได้ชอบคุณขนาดนั้น และไม่แปลกที่คุณได้เป็นแฟนของ ประธานหาน”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนแดงขึ้นมา ทันที กระแอมขึ้นมาเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ

พนักงานต้อนรับกลับเข้ามาควงแขนของเธออย่างสนิทสนม ทําท่าทาง จนเสี่ยวเหยียนทำตัวไม่ถูก นอกจากนั้นเธอเองก็ยัง ทําท่าทางขัดขืนบ้าง

เพราะปกติเธอไม่ค่อยเข้าใกล้ใครมากนัก มากไปกว่านั้นยัง ไม่ใช่คนที่เธอสนิทคุ้นเคยด้วย แต่ถ้าจะผลักออกไปเลยก็คงดูไม่ กลัวว่าจะทําให้เธอบาดเจ็บ ดังนั้นจึงได้แต่อดทนไว้

“คุณไม่โกรธฉันจริงเหรอ? งั้นถ้าฉันไปกินบะหมี่ที่ร้านคุณ บอกชื่อคุณแล้วจะได้ลดราคาไหม ฉันกลัวว่ากินแล้วอร่อยติดใจ จนต้องไปทุกวัน เงินเดือนฉันคงหมดพอดี

คำพูดนี้ทำให้เสี่ยวเหยียนแทบจะอดใจไว้ไม่ไหว: “ไม่มีทาง กินจนเงินหมดหรอก บะหมี่ร้านเราราคาย่อมเยา แต่เธอเป็น พนักงานของบริษัทตระกูลหาน ถ้าเธอไปกิน ฉันจะลดราคาให้

“จริงเหรอ ขอบคุณนะ! คุณใจดีมากๆเลย ฉันขอคุยกับคุณสัก ครูได้ไหมคะ?”

เพราะชมร้านบะหมี่ของเธอไปเยอะ จึงทำให้เสี่ยวเหยียนไม่ได้ คิดระแวงอะไร ถูกเธอดึงไปถึงมา

สุดท้ายเมื่อพนักงานต้อนรับเห็นเธอเริ่มเชื่อใจ ไม่ระแวงอะไร แล้ว จึงค่อยๆถามขึ้น: “จริงสิ คุณรู้ไหม หลังจากที่คุณเป็นแฟน กับประธานหานแล้ว พวกเราทุกคนต่างพากันอิจฉาคุณมากเลย รู้สึกว่าคุณช่างโชคดีเหลือเกินและเก่งมากด้วย เป็นถึงคนที่ทำให้คนเก่งอย่างประธานทานหวั่นไหวได้ คุณทำได้ยังไงกัน แน่?”

“เอ่อ…” เสี่ยวเหยียนกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น ย้อนคิดสักพัก จากนั้นจึงเอียงหัวและพูดขึ้น “คงเป็นเพราะฉันค่อนข้างหน้า ด้าน?”

“หน้าด้าน?” พนักงานต้อนรับตกใจตะลึง “นี่คุณหมายความ ว่ายังไงเหรอคะ?”

เสี่ยวเหยียนยิ้มด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม: “ตอนแรกฉันเป็นคนจีบ

เขา จีบนานมากเลยนะ”

เธอไม่ได้คิดอะไรมาก คิดเพียงแค่ผู้หญิงคุยกันธรรมดาทั่วไป

พนักงานต้อนรับ: “ตามจีบ? โห นี่คุณถึงขั้นตามจีบประธาน ทานเลยเหรอคะ แต่ในบริษัทของพวกเรา เมื่อก่อนก็มีคนคิดจะ ตามจีบประธานหานเยอะเลยนะคะ แต่ก็จีบไม่ติดสักที คุณต้องมี วิธีพิเศษอะไรแน่นอนเลยใช่ไหมคะ? ไม่เช่นนั้นประธานหานจะ รู้สึกพิเศษกับคุณเช่นนี้ได้อย่างไร?”

วิธีพิเศษ? เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่านอกจากตัวเองจะหน้าด้านและ สู้ไม่ถอยแล้ว ก็ไม่มีวิธีพิเศษอย่างอื่นอีก

เธอครุ่นคิดไปมา จากนั้นส่ายหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ