เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่280 โทษตัวเอง



บทที่280 โทษตัวเอง

เสิ่นเฉียวไม่ได้สนใจสายตาพวกเขา เธอรออยู่ที่ หน้าห้องฉุกเฉิน เธอจะรอจนกว่าหานเส่โยวจะพันขีด อันตรายเธอจึงจะไป

โทรศัพท์มือถือในมือเธอกำลังสั่น เส้นเฉียวถือ ขึ้นมาดูและพบว่าที่หน้าจอเปื้อนเลือดเต็มไปหมด และดู เหมือนจะเป็นซูจิ๋วที่โทรเข้ามา เธอเช็ดคราบเลือดบนหน้าจอด้วยเสื้อของตัวเอง

ใครจะรู้ว่าเสื้อที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่แล้วยิ่งเช็ดก็ยิ่ง

สกปรก สุดท้ายเส้นเฉียวจึงต้องรับสายไปก่อน

“ฮัลโหล?”

เสียงของเสิ่นเฉียวยังคงสั่นเครือเมื่อรับสาย

“คุณเสิ่น? เมื่อครูคุณส่งข้อความ เว่ยซิ้น ให้คุณ หานใช่ไหม?” เสียงของซูจิ๋วดังขึ้นถามเธอเพื่อยืนยัน

“ฉันเอง” เส้นเฉียวพยักหน้าแล้วสูดหายใจลึก พยายามปรับเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ: “พวกคุณถึงรี ยังคะ?”

อีกด้านหนึ่งเงียบไปชั่วขณะแล้วเปลี่ยนเป็นเสียง ผู้ชายที่เย็นชาและมั่นคง

“กำลังรีบไป ช่วยบอกผมก่อนได้ไหมว่าเกิดเรื่อง

อะไรขึ้น”

เสิ่นเฉียวอยากจะบอกแต่ก็ติดอยู่ที่ริมฝีปากและกลับพูดไม่ออกสักคำ

เธอไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไรว่า

หานเส่โยวฆ่าตัวตาย จนถึงตอนนี้เธอยังไม่อยากจะเชื่อ

ว่ามันเป็นเรื่องจริง คิดถึงตรงนี้เธอก็หลับตาลงแล้วพูดขึ้นอย่างอ่อน ล้า: “พวกคุณมาแล้วก็จะรู้เอง ฉันไม่หลอกพวกคุณแน่

ฉันรอพวกคุณอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนะคะ”

พูดจบเสิ่นเฉียวก็วางสายไปโดยไม่ได้รอให้ ปลายสายได้ถามอะไร

ตุ๊ด ๆ ๆ–

เสียงปลายสายดังขึ้นทำให้หานชิงต้องขมวดคิ้ว ซูจิ๋วที่นั่งข้าง ๆ หันไปมองเขาด้วยความสงสัย “คุณหาน?”

เมื่อได้ยินหานชิงได้ติแล้วหันไปมองเธอ: “เร็ว เข้า ไปโรงพยาบาล”

ซูจิ๋วพยักหน้าแล้วบอกคนขับรถด้านหน้า “พี่หลิน รบกวนขับเร็วอีกนิดค่ะ”

“ได้ครับ!”

ทั้งสองคนมีสีหน้าไม่ดีนัก เพราะเสิ่นเฉียวส่ง ข้อความมาบอกเพียงประโยคเดียวบอกว่าน้องสาวของ เขาเกิดเรื่องแล้ว ให้เขารีบไปที่โรงพยาบาล

น้ำเสียงที่สั่นเครือของเธอแบบนั้นถ้าไม่ได้เกิด เรื่องใหญ่มากขึ้น แล้วจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง?
หรือ…ซูจิ๋วได้แต่เก็บความคิดนั้นไว้ในใจ

เวลาผ่านไปทุกวินาทีและนาที เสิ่นเฉียวรู้สึก เหมือนเธอรอมาหนึ่งปีแสง เธอเดินวนไปมาที่โถงทาง เดินหลายรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นหานเส่โยวแม้เงา ในใจ ของเธอกระวนกระวายจนแทบคลั่ง

ในเวลานั้นเธอคิดว่าควรจะแจ้งให้ญาติของหาน เส่โยวรู้และรีบมา เลือดที่ไหลนองเมื่อครู่เธอหวั่นใจว่า จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เธอหลุบตาลง เสิ่นเฉียวรู้สึกเป็นทุกข์อย่างที่สุด ถ้าเธอมาเร็วกว่านี้ก็คงดี ทำไมเธอถึงได้ช้าอย่างนี้นะ?

ในระหว่างที่คิดอยู่นั้น เสียงก้าวเท้าที่หนักแน่น และเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินตามก็ดังขึ้น เสิ่นเฉียวเงย หน้าขึ้นมองที่ปากทางโถงทางเดิน เธอพบกับคนสอง คนที่คุ้นเคย

เป็นหานชิงและซูจิ๋ว

เมื่อเห็นดวงตาที่มั่นคงของหานชิง เสิ่นเฉียวก็ ไม่รู้ว่าทำไม ในขณะนี้เธอรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ น้ำตา ที่เธออดทนมาตอนนี้แทบจะพรั่งพรูออกมา เพื่อป้องกัน ไม่ให้น้ำตาไหลเสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่างของเธออย่าง รวดเร็วและหันศีรษะไปไม่มองตาหานชิงอีก

เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นเสียมารยาทมาก

เขาคือพี่ใหญ่ของหานชิงชัด ๆ แต่ทำไมเธอถึง ได้เห็นเขาเป็นเหมือนพี่ชายของตัวเองอยู่เรื่อย? หากเส่ โยวรู้เข้า คงจะหัวเราะเยาะเธอแน่
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ในระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงของหานชิงก็ ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอถูกใครบางคนโอบไหล่เธอจาก นั้นเธอก็หันกลับมาสบตากับหานชิง

ลมหายใจของเขามีความอบอุ่นแบบญาติสนิทอีก ทั้งความปลอดภัยเป็นอย่างมาก

ความเจ็บระหว่างจมูกของเสิ่นเฉียวหนักกว่าเดิม เธอกัดริมฝีปากล่างและพูดอะไรไม่ออก แต่น้ำตายังคง ร่วงหล่น

เพียงครู่เดียวเธอก็ร้องไห้หนักบวกกับเลือดบน ตัวเธอ หานชิงรู้สึกสะดุดกึกในใจของตัวเอง เหมือนกับมี สิ่งของแหลมคงปักอยู่กลางใจเขาอย่างนั้น

ซูจิ๋วที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเสิ่นเฉียวที่เป็นเช่นนั้น เดาว่า เธอคงไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดได้ในตอนนี้ จึงได้ เข้าไปหา ลุงจิน ที่ยืนอยู่ข้างเธอ “รบกวนคุณ ถ้าหากว่า คุณรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณช่วยบอกพวเราหน่อยได้ไหม คะ”

แท้จริงแล้ว ลุงจิน ไม่ค่อยรู้ต้นสายปลายเหตุ อย่างชัดเจน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเขาพอจะ อธิบายได้ เขาจึงได้บอกเล่าเรื่องตั้งแต่ออกจากบ้าน จนถึงโรงพยาบาลโดยคร่าวๆ ซูจิ๋วและหานชิงยืนอยู่ด้วย กัน ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงได้ยินสิ่งที่ลุงจิน เล่า

หานชิงขมวดคิ้วแน่น: “คนที่อยู่ในนั้นตอนนี้คือเส่ โยว?”
เส้นเฉียวพยักหน้า: “ขอโทษนะคะ ถ้าฉันรู้เร็วกว่า นี้ คงจะ.”

หานชิงพูดขัดขึ้น: “เรารอผลก่อนดีกว่า คุณควร ไปทำความสะอาดก่อน ซูจิ๋ว”

ซูจิ๋วตอบรับและรีบเข้าไปพยุงเสิ่นเฉียว: “คุณเสิ่น คะ ฉันไปทำความสะอาดเป็นเพื่อนนะ ตรงนี้มีคุณหาน แล้ว ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ”

“ค่ะ”

หานชิงมาแล้ว เสิ่นเฉียวก็เบาใจไปได้มาก แล้ว จึงพยักหน้าแล้วเดินไปกับซูจิ๋ว

ซูจิ๋วพาเธอไปทำความสะอาดที่โรงแรมใกล้ ๆ จากนั้นเธอจึงไปซื้อเสื้อผ้าตามขนาดของเสิ่นเฉียวที่ร้าน ใกล้ ๆ แล้วกลับไปที่โรงแรม เสิ่นเฉียวที่อาบน้ำอยู่จึงได้ ออกมาเปลี่ยนชุดพอดี

บนตัวเธอเปื้อนเลือดเยอะมาก เธออาบอยู่นาน กว่าเลือดจะจางหายไป เมื่อเธอออกมาและเปลี่ยน เสื้อผ้าที่ซูจิ๋วเตรียมไว้ให้แล้วก็พูดขึ้นอย่างร้อนรน: “งั้น เราไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”

“คุณเสิ่นไม่ต้องรีบนะคะ เมื่อครู่ฉันคุยกับคุณหาน แล้ว ตอนนี้คุณหนูหานยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ต่อให้คุณ เสิ่นจะไปตอนนี้ก็เข้าไปไม่ได้ทำได้เพียงรออยู่ด้านนอก ฉันว่าคุณเสิ่นก็ตื่นตกใจไม่น้อย สู้ให้คุณพักอยู่ที่นี่ก่อน รอคุณหนูหานฟื้นแล้ว ฉันค่อยพาคุณเสิ่นกลับไปที่โรง พยาบาลอีกครั้งดีกว่าค่ะ”
“ไม่ได้!” เสิ่นเฉียวปฏิเสธกลับมาทันที “ฉันต้อง ไปดูให้เห็นกับตาว่าเส่โยวไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้เธอ เลือดไหลเยอะมาก”

ซูจิ๋วพิจารณาดูแล้วว่าใบหน้าของเสิ่นเฉียวซีด ขาวจนถึงตอนนี้ เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วไม่มีวี่แววว่าจะ ดีขึ้นมีแต่จะหนักลง อีกทั้งน้ำเสียงของเธอก็สั่นเครือ นี่ แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงกังวลเกี่ยวกับหานเส่โยวจนถึง ตอนนี้ ถ้าหากว่าคุณหานไม่ไปที่นั่น เธอก็คงจะยังใส่เสื้อ ที่เปื้อนเลือดและยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินจนกว่าประตู จะเปิดแน่

“คุณเสิ่น ฉันเข้าใจจิตใจคุณนะคะ แต่ท่าทางคุณ ตอนนี้เองก็ดูไม่ดีเลย อันที่จริงไม่เหมาะ…

“คุณกลัวว่าพอถึงเวลาฉันจะล้มไปอีกคนแล้วพวก คุณจะต้องมาดูแลฉันด้วยใช่ไหมคะ?วางใจเถอะค่ะ เพื่อ เส่โยวแล้วฉันจะไม่ล้มง่าย ๆ ฉันไม่เป็นไร” พูดจบเสิ่น เฉียวก็เดินไปกุมมือซูจิ๋ว: “ให้ฉันไปด้วยเถอะนะคะ”

ซูจิ๋วยังคงลังเล แต่แววตาของเสิ่นเฉียวนั้นเต็ม ไปด้วยความมุ่งมั่น

ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธเธอได้

“เลขาซู!”

เสิ่นเฉียวเห็นเธอยังคงไม่ยอมตอบ จึงได้ส่งเธอ เรียกเธออีกครั้ง สีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกฉายออกมาผ่าน ใบหน้าของซูจิ๋ว สุดท้ายเธอจึงพูดขึ้น “งั้นก็ช่วยไม่ได้ คงต้องให้คุณไป ไปด้วยกันค่ะ”
“ขอบคุณ!” เสิ่นเฉียวน้ำตาไหลด้วยความซึ้งใจ จากนั้นจึงได้ออกจากโรงแรมไปพร้อมกับซูจิ๋ว

เมื่อถึงโรงพยาบาลสามารถมองเห็นหานชิงที่ยืน อยู่หน้าห้องฉุกเฉินได้แต่ไกล เขารูปร่างสูงใหญ่ยืนพิง กำแพงอยู่ และใช้มือหนึ่งล้วงกระเป๋า หลุบตาและไม่รู้ว่า กำลังคิดอะไรอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ