เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1513 พวกเราเห็นด้วย



บทที่ 1513 พวกเราเห็นด้วย

ตอนที่ทั้งสองคนจูบกัน หยาดน้ำตาเม็ดใสดั่งคริสทัสตรงขอบตา ของเสี่ยวเหยียนก็ไหลลงมา หยดลงไปบนหลังมือของท่านซึ่ง พอดี อุ่นร้อนจนแผดเผาคนอื่นเขาได้เลยทีเดียว

ตอนที่ดึงเธอออกนั้น หานซิงก็กดเธอเข้าสู่อ้อมแขน ในน้ำ

เสียงทุ้มนั้นแฝงไปด้วยความแหบพร่า

“ไม่แล้ว ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้วแน่นอน ฉันไม่มี วันปล่อยให้ตัวเองเกิดเรื่องอะไรขึ้นเด็ดขาด”

เขาอยู่บนโลกใบนี้ ทยอยสูญเสียญาติไปสามคน

หานซิงก็เลยรู้ว่ารสชาติของการสูญเสียคนในครอบครัวมัน เจ็บปวดมากแค่ไหน คนตายไปไม่รู้อะไรทั้งนั้น คนที่ยังอยู่ทุกวัน ทุกวินาทีต้องเลียแผลใจอยู่เพียงลำพังไปวันๆ

ในวันที่เกินรับไหวและทั้งเจ็บปวดพวกนี้ ก่อนหน้านี้เขาแบก รับภาระทั้งหมดเพียงลำพัง แต่ตอนนี้พอลองคิดดูแล้ว ที่สาวน้อย ของเขาพูดมามันก็ถูก

ทั้งสองคนคบกัน ก็จะต้องเฝ้าดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วม แรงกันแบ่งเบาภาระกัน

อาศัยแรงคนแค่คนเดียว มันก็น้อยเกินไป และยังจะล้มได้ ง่ายๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือถ้าเขาเป็นอะไรไป ถึงตอนนั้นแล้วจะ ไม่มีใครสู้เพื่อพวกเธอสามแม่ลูกอีกแล้ว
ดังนั้นแล้วเรื่องในครั้งนี้ ก็ได้ให้บทเรียนครั้งใหญ่กับหานซิง ไม่เจอการคุ้มครองหนุนหลังกันอยู่ตลอดก็เป็นเรื่องดี

หลังจากที่หานซิงฟื้นขึ้นมา เสี่ยวเหยียนก็ยึดครองเตียงผู้ป่วย ของเขา ตอนที่นอนอยู่ข้างๆตัวเขา หานซึ่งก็คอยเฝ้าอยู่ข้างๆ

แต่เสี่ยวเหยียนนอนหลับได้ไม่สนิทนัก ในฝันก็ยังร้องเรียกชื่อ เขาอยู่เป็นครั้งคราว ท่าทางดูร้อนใจ สองมือคว้าจับไปมั่ว

สุดท้ายก็เป็นหานซึ่งที่ยื่นมือเข้าไป จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็จับ มือเขาเอาไว้อย่างแรง เหมือนกับปลาที่ขาดน้ำอยู่บ่อยๆแล้วได้ น้ำมาก็ไม่ปาน จับเอาไว้แน่น

หานซึ่งมองมือของเธอ แรงของเธอแทบจะบีบจนมือของเขา เกือบจะมีรอยออกมาเลยทีเดียว

เจ็บนิดหน่อย แต่ในใจกลับรู้สึกมีความสุขขึ้นมา

เด็กน้อยคนนี้ อะไรก็มีแต่เขาทั้งนั้นเลยจริงๆ

หานซิงก้มหน้าลง จูบลงไปบนหน้าผากขาวเนียนของเธอเบาๆ เอ่ยเบาๆออกไป “นอนเถอะ ฉันอยู่นี่

อยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการสามวัน เสี่ยวเหยียนก็อยู่เฝ้าที่ โรงพยาบาลตลอด

ในช่วงระหว่างนั้นเองหลัวหุ้ยเหม่ยก็เคยมาเยี่ยมอยู่สองครั้ง

ครั้งสุดท้ายก็เป็นตอนที่ใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลัว หุ้ยเหม่ยถือโอกาสอยู่ที่ด้านนอกห้องผู้ป่วย ตำหนิเธอออกมาไม่
“เด็กตายคนในสายตาแค่สามีของเธอเป็นหลักบาดเจ็บเธออยู่เฝ้าเป็นเพื่อนโรงพยาบาลวัน ไม่ กลับบ้านเลย”

เสี่ยวเหยียนคิดตัวเองในช่วงสองวันเธอค่อนข้างจะ สับสนอยู่บ้าง เกาตัวเองอย่างเขินอาย เอ่ยขอโทษออกฉันเป็นพิเศษ วันนั้นแม่บอกฉันว่ามีประสบการณ์การเลี้ยง ดูเด็กมากกว่าฉันไง เป็นคนแม่เลี้ยงมาจนตอนนี้ร่างกายฉันแข็งแรงขนาดนี้เด็กทั้งสองแม่ดูนะ ฉันวางใจเป็นอย่างมาก

ซิส์หลัวหุ้ยเหม่ยไม่เชื่อเหน็บแนมเธอทันที

แกนี่มันจริงๆเลยนะ พอเห็นหานแกก็หลงหันมาประจบประแจง มอง ไปเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ขึ้นมาแล้ว?

พูดจบ เหม่ยก็ส่ายเท่า เหอะ สมองเต็มด้วยเรื่องรักใคร่แกว่าพ่อแม่แกกลายแบบนี้เสียได้? โชคที่ได้เจอผู้ชายคนนึง แกเจอผู้ชายเลวแล้วทำยังไง”

หลัวหุ้ยเหม่ยจริงๆ ด้วยนิสัยดื้อรั้นดันทุรังของลูกสาวของเธอถ้าเกิดไปรักผู้ชายเลวๆขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นที่บ้านไม่ ว่าใครจะกล่อมยังไงก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น อย่างนั้นแล้วทั้งชีวิตนี้ คงจะต้องพังไปแล้วจริงๆ

“แม่ โชคชะตาเป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนดมา อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็น พวกสมองมีแต่เรื่องรักๆใคร่ๆเสียหน่อยนะ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็น คนที่สมองมีแต่เรื่องรักๆ ใครๆจริงๆ งั้นฉันก็เป็นพวกสมองมีแต่ เรื่องรักๆใคร่ๆที่มีทัศนคติต่อสิ่งต่างๆ ที่ถูกต้องแล้ว ทำลาย ครอบครัว เป็นเมียน้อยเลยแย่งแฟนคนอื่นเอย เรื่องผิดศีลธรรม ฉันไม่มีทางทำหรอก ลูกสาวของแม่ทัศนคติดีเยี่ยมเสียขนาดนี้ จะไปรักผู้ชายเลวๆได้ยังไงกัน?

“เหอะๆ” หลัวหุยเหม่ยหัวเราะเสียงเย็นชาออกมาสองทีมอง ลูกสาวของตัวเองพร้อมเอ่ยพูดออกไป ที่แท้สมองที่เต็มไปด้วย เรื่องรักๆใคร่ๆของแกมันยังรุ่งโรจน์อยู่สินะ?”

“ไม่สักหน่อยแม่ ฉันก็แค่กำลังอยู่ในระหว่างที่กำลังขยาย ความอยู่เท่านั้นเอง เอาอย่างนี้เถอะ ก่อนหน้านี้ตอนที่พ่อเราเกิด อุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาลตอนนั้น แม่เองก็อยู่เฝ้าที่โรงพยาบาล ด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”

“งั้นหรอ?” หลัวหุยเหม่อมีสีหน้าที่บอกว่าฉันลืมไปหมดแล้ว ออกมา “ทำไมฉันจำได้เลยว่าตอนนั้นเป็นแกที่อยู่เฝ้ามากกว่า ฉันกันล่ะ? ตอนนั้นฉันแค่ทำสิ่งที่ควรทำเท่านั้นเอง”

เสี่ยวเหยียน “..…”

หานชิงเพียงแค่สมองได้รับการกระทบกระเทือนนิดหน่อยบวกกับสภาพร่างกายที่ไม่เลวเลยของเขาแล้ว ก็เลยฟื้นตัวเร็ว คุณหมอได้ตรวจอาการเขาไปรอบหนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ได้มี ปัญหาอะไรก็ได้ให้เขาออกจากโรงพยาบาลได้

บ่ายวันนั้น หานซิงกับเสี่ยวเหยียนก็กลับไปที่บ้าน

หลังจากที่กลับบ้านมาอย่างแรกเลยก็คือไปอาบน้ำไล่ความ ซวยออกไป แล้วก็ถือโอกาสชำระล้างเชื้อโรคจากโรงพยาบาล ไปด้วย หลังจากที่จัดการทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเหยียนถึง จะกล้าอุ้มลูกของตัวเองได้

แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน แต่เดี๋ยวเหยียนกลับรู้สึกว่าตัว เองเหมือนกับไม่ได้เจอลูกตัวเองมาเป็นศตวรรษเลยก็ไม่ปาน ตอนที่อุ้มก็ยังพูดกับหลัวหุ้ยเหม่ยอีกว่า

“แม่ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่าจะอ้วนแล้วน่ะ?”

ได้ยินอย่างนั้น มุมปากของหลวยเหม่ยก็กระตุกออกมาเล็ก น้อย “แกยังคิดจะบอกว่าโตขึ้นใช่มั้ย? แค่สามวัน จะอ้วนได้แค่ ไหนกัน?”

“รู้สึกหนักขึ้นมานิดนึงจริงๆนะ

“เออๆ กลับมาจากโรงพยาบาลรีบไปพักผ่อนเสียเถอะ เย็นนี้ แม่จะต้มซุปบำรุงให้พวกแกทั้งสองคนดื่มกัน

ตอนมื้ออาหารเย็นหลัวหุยเหม่ยกับพ่อจางต่างก็มากันพร้อม หน้า โดยมีหลัวหุ้ยเหม่ยเป็นคนเข้าครัวต้มซุปบำรุงเอง

ตอนกินข้าว หลัวหุ้ยเหม่ยก็ได้พูดไปกับหานชิงว่า
“เสี่ยวชิงเอ๋ย ลูกอย่าว่าแม่พูดตรงไปเลยนะ ครั้งนี้ลูกเกิดเรื่อง อย่างนี้ขึ้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่แม่กับพ่อของลูกก็เป็นห่วงกัน สุดๆ แน่นอนว่าเสี่ยวเหยียนนั้นเป็นคนที่ช็อกหนักที่สุด ก่อนหน้า นี้พวกเธอสองคนหนุ่มคนสาวที่เอาแต่ทำตามอำเภอใจกัน แม่ คิดว่าสุขภาพของคนวัยหนุ่มสาวมันดีเลยไม่ได้ยุ่งอะไรมากมาย แต่หลังจากเรื่องครั้งนี้ แม่คิดว่ามีบางอย่างที่แม่จะไม่พูดเลยก็ไม่

หลังของหานซิงเหยียดตรง “แม่ บอกมาได้เลย

ท่าทางอย่างนี้หลัวหุยเหมยนั้นพึงพอใจเป็นอย่างมาก จึงพูด สิ่งที่คิดทั้งหมดออกไป

“ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลฉันก็ได้ปรึกษากับเสี่ยวเหยียนมา แล้วนิดหน่อยว่าต่อจากนี้ไปเด็กน่ะพวกเราคนแก่ๆ ทั้งสองจะเป็น คนดูแลเอง พวกเราอายุมากแล้ว เรื่องอื่นก็ไปไหนมาไหนไม่ไหว แล้ว อยู่บ้านช่วยพวกแกเลี้ยงลูกก็ดี พวกเรานะ ชีวิตนี้มีแค่เสี้ยว เหยียนลูกสาวคนนี้ เลี้ยงเด็กก็จะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ไม่ดี อย่างการเข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่งอะไรพวกนั้นแน่นอน พวกแก่คน หนุ่มสาวอยากพยายามทำเป้าหมายของตัวเองอย่างเต็มที่ มัน ก็ได้ แต่ช่วยดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน คน เรานะ ต่างก็มีจมูกหนึ่งจมูกตาสองตา ขาสองขาเท้าสองข้าง หัวใจหนึ่งดวงสมองหนึ่งสมองกันทั้งนั้น สิ่งที่สามารถทำได้มันก็ มีข้อจำกัดกันทั้งนั้น”

“ดังนั้นแล้วนะ” หลัวหุ้ยเหมียวางตะเกียบในมือลง “ข้อเสนอ ของแม่ลูกคิดว่ายังไง? พวกแกอยากทำงานก็ได้ ลูกพวกเราเลี้ยงเอง ถ้าพวกแกไม่อยากให้พวกเราเลี้ยงลูก งั้นก็อย่านอนกับลูก กลางคืนเด็กมันจะเสียงดังกันเกินไป

“แม่” หานซึ่งมีสีหน้าจริงจังออกมา “ผมคิดว่าแม่พูดถูก เมื่อ ก่อนผมแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพังจนเกินไป เรื่องครั้งนี้เองก็ นับว่าได้ให้คำเตือนอย่างหนึ่งกันผมมาเหมือนกัน คำแนะนำของ แม่ผมเห็นด้วย ลูกปล่อยให้แม่กับพ่อเป็นคนดูแล ผมกับเสี่ยวเห ยียนก็วางใจ

พูดจบ หานซิงก็กุมมือของเสี่ยวเหยียน ขึ้นมาวางลงบนโต๊ะ

“พวกเราเห็นด้วย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ