เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่540 ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว



บทที่540 ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว

ห้องโถงด้านหน้าอัดแน่นไปด้วยผู้คน ในห้องแต่งตัวด้าน หลังกลับเป็นเพียงโลกของคนสองคน ภายใต้ท่วงทำนอง ไพเราะ จิตใจก็เหมือนได้เจอกับความสมดุล

การเต้นรำเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก สามารถทำให้คนแปลกหน้าสองคนใกล้ชิดกันได้ และ

สามารถทำให้คนใกล้ชิดยิ่งสนิทสนมกันเข้าไปอีก

เหมือนกับตอนนี้ หานมู่จื่อแทบจะลืมความบาดหมางที่ เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว ลืมไปว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ที่เคยผ่านการแต่งงานที่ล้มเหลวมาแล้วถึงสองครั้ง ลืมว่าตัว เองเป็นแม่ของเด็กคนหนึ่ง ลืมวันแห่งฝันร้ายที่ต้องตกอยู่ใน ความมืดมิด

เมื่อเพลงจบลง

เย่ไม่เซ็นวางเธอลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างกายโน้มลงไป ข้างหน้าเล็กน้อย มือเชยคางของเธอขึ้น เตรียมจะประทับจูบ ลงไป แต่หานมู่จื่อกลับเบี่ยงหลบจูบของเขาด้วยสีหน้าได้ อารมณ์ จากนั้นก็ผลักเขาออกไปพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา เต้นรำเสร็จแล้ว นายก็กลับไปได้แล้ว”

เย่ไม่เป็นที่กำลังอยู่ในอารมณ์หวั่นไหวถูกผลักออกอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาหันกลับไปมองหญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าของ เธอกลับไปเย็นชาแล้วด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ

ทั้งๆ ที่หนึ่งวินาทีก่อนหน้านี้ สายตาของเธอยังเต็มไปด้วย อ่อนโยนตอนที่ร่วมเต้นรำกับตัวเอง แต่วินาทีต่อมากลับผลัก เขาออกอย่างไม่มีเยื่อใย

นี่มันนับประสาอะไร ?

เยโม่เซินเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง หานมอก็พูดด้วยขึ้นด้วย น้ำเสียงเย็นชา “คืนนี้นายสนุกพอแล้วมั้ง อย่าให้ฉันต้อง เกลียดนาย”

เท้าของเขาหยุดชะงักเพราะคำพูดของเธอ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงค่อยๆเปิดปากพูด “นี่เป็นการอำพรางของเธอเหรอ ?”

หานมู่จื่อไม่พูดจา

“ถ้าไม่ตอบแสดงว่าเธอยอมรับแล้ว” เย่ไม่เป็นจ้องมอง เธอด้วยสายตาจริงจัง “มู่จื่อ ไม่ว่าเธอจะผลักฉันออกยังไง ชั่วชีวิตนี้เธอก็เป็นของฉัน

เธอหันไปอีกทาง โดยไม่มองเย่ไม่เป็น

ด้านหลังเงียบอยู่นาน หาน จื่อรู้สึกว่าลมหายใจของเขา ได้หายไปแล้ว จากนั้นถึงค่อยๆพยุงโต๊ะที่อยู่ข้างๆ แล้วเดิน ไปด้านในทีละก้าว

เธอนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวอยู่นาน ใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่เนิ่นนาน จากนั้นหาน จื่อก็เปลี่ยนชุดที่สวม เปลี่ยนเป็น ชุดที่สะดวกสบายให้กับตัวเอง

จนถึงตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วก็ยังไม่มาหาเธอเลย ไปอยู่ที่ไหน

กันแน่

ไม่ใช่สิ

วันนี้เต่ไม่เป็นก็อยู่ในงานเลี้ยงด้วย แล้วเขา…..จะได้เจอ กับเสี่ยวหมี่โต้วหรือเปล่า ?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ สีหน้าของหาน จื่อก็ซีดเผือด ลงทันที วินาทีต่อมาเธอก็พุ่งออกไปนอกห้องแต่งตัวทันที

เพิ่งออกจากห้องแต่งตัวได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ย้อนกลับเข้าไป ใหม่ แล้วหยิบหน้ากากที่ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะเก็บลงใน กระเป๋าของตัวเอง

ครั้งนี้หานชิงแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักหานคู่จื่อ เดิมทีก็ อยากแนะนำให้จื่อรู้จักกับทุกคนอยู่แล้ว ให้ทุกคนได้รู้ว่า เธอคือลูกสาวของตระกูลหาน

ดังนั้นไม่เพียงเชิญแขกชนชั้นสูงทั้งหมดในเมืองเบี้ยมา เท่านั้น ยังถ่ายทอดสดผ่านจอใหญ่ใจกลางเมืองอีกด้วย

และผู้คนส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจกับสิ่งนี้ ผู้คนที่เดินผ่าน ไปมาหรือคนที่ดูผ่านรายการโทรทัศน์ ร่างสนอกสนใจ และต่างก็พูดกันว่านี่คือคุณหนูของตระกูลหาน หน้าตาสวยมาก อะไรประมาณนั้น และเสียงน่าอิจฉาต่างๆนาๆ ก็แพร่กระจาย ไปทั่ว

ในเวลานั้นเอง บริกรในร้านอาหารตะวันตกแห่งหนึ่งที่น่า

สเต็กที่ลูกค้าต้องการออกมาจากครัว “คุณผู้ชายคะ สเต็กที่คุณสั่งมาแล้วค่ะ สุกระดับห้า

ผู้ชายคนนั้นกำลังดูสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ ไม่ได้สนใจเธอ

สายตาของบริกรฉายแววเชือดเฉือน แต่ยังฝืนยิ้มพร้อม กับพูดเตือนเขาอีกครั้ง

“อืมๆ วางไว้เถอะ ฉันรู้แล้ว” ผู้ชายคนนั้นสะบัดมือไล่ อย่างรำคาญใจ บริกรเริ่มเรื่องเล็กน้อย ในใจก็คิดว่านี่มัน อะไรกัน ไม่มีระดับเลยสักนิด

สายตาเหลือบไปมองโทรศัพท์ของเขา โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็

พบว่าบนหน้าจอของเขามีภาพสาวสวยปรากฏอยู่

ที่ ผู้ชายที่เหมือนกันหมดจริงๆ

อย่ามองว่าเป็นคนที่นั่งทานอาหารแพงๆ ในร้านอาหาร หรูๆเชียว เพราะไม่รู้ว่าลับหลังจะเป็นสัตว์ร้ายประเภทไหน

บริกรดูหมิ่นเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็หันหลังเตรียม จะเดินจากไป แต่ทันใดนั้นก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นเธอก็หยุดเท้าลง หันกลับไปมองที่หน้าจอโทรศัพท์ของชาย

คนนั้น

ทำไมถึงได้รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นหน้าคุ้นตามาก

เธอ โน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อมองดูใกล้ๆ แล้วสีหน้า

เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน คว้าโทรศัพท์ของชายคนนั้นมา สายตาจับจ้องคนที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างเอาเป็น เอาตาย

หญิงสาวที่อยู่ในหน้าจอยิ้มเบาบาง แต่ดวงตากลับเย็นชา เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด

เพียงแต่บนหัวเธอมีมงกุฎยอดเพชรและบนตัวก็สวมชุดเด รสที่ส่องประกายวิบวับ จนทำให้เธอแสบตา

“เสิ่นเฉียว! ! !” ชื่อหนึ่งหลุดออกมาจากปากของเธอ ชายคนนั้นเห็นเธอจ้องไปที่โทรศัพท์โดยไม่ขยับ ก็คิดว่า คงพบเพื่อนเข้าแล้ว เลยยิ้มและพูดติดตลกออกไปว่า “สวย มากเลยใช่ไหม เมื่อตอนที่ฉันเห็นผู้หญิงคนนี้ครั้งแรกใน รายการถ่ายทอดสดฉันคิดว่าฉันเห็นนางฟ้าซะอีก คิดไม่ถึง เลยว่า ตระกูลหานจะซ่อนคนที่สวยขนาดนี้เอาไว้

“หาน ตระกูลหาน ?” เสียงของบริกรฟังดูสั่นเครือเล็กน้อย

ชายคนนั้นเห็นแล้ว แต่เขาไม่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาอะไร เขามองประเมินบริกรไปที่หนึ่ง เห็นท่าทางเธอดูน่าอนาถตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาก็ฉายแววดูถูกออกมา “ใช่สิ เห็นผู้ หญิงที่สวยขนาดนี้เธอคงตื่นเต้นมากเลยสินะ รู้สึกไหมว่าชุด ที่เธอสวมใส่ดูมีระดับมาก ฉันจะบอกเธอนะ เพชรบนมงกุฎที่ เธอสวมอยู่บนหัวแค่หนึ่งเม็ดก็มากกว่าเงินเดือนทั้งปีของเธอ แล้ว ตระกูลหาน แน่นอนว่าต้องเป็นตระกูลทานของเมืองเป ยอยู่แล้ว คงไม่ใช่ว่าชื่อของตระกูลหานเธอก็ไม่เคยได้ยินใช่ ไหม เธอจะไม่มีระดับเกินไปรึเปล่า

คำพูดที่ตรงไปตรงมาเปรียบเสมือนมีดคมทิ่มแทงเข้าไป ในหัวใจของบริกร เธอกโทรศัพท์ในมือแน่นขึ้นเรื่อยๆ จน ปลายนิ้วขาวซีด ชายคนนั้นถึงกับร้องอุทานออกมา “เธอ อิจฉาก็ส่วนอิจฉา แต่จะมาระบายความโกรธกับโทรศัพท์ ฉันทำไม รีบคืนโทรศัพท์ฉันมานะ!”

บริกรเงยหน้าขึ้น แววตาเชือดเฉือนจนน่าตกใจ เหมือน เพิ่งคลานขึ้นมาจากนรก

เมื่อกี้นาย……..บอกว่าเงินเดือนทั้งปีของฉันยังไม่พอซื้อ เพชรหนึ่งเม็ดที่อยู่บนหัวเธอ ?” “ฉัน…..แล้วฉันพูดอะไรผิดไปหรือไง ฉันกำลังพูดความ

จริงนะ เศษเพชรพวกนั้นล้วนเป็นวัสดุจริงทั้งหมด ไม่ได้คิดที่ จะพุ่งเป้าไปที่เธอเลย”

“ดี” เสียงหัวเราะของบริกรเย็นชา “เศษเพชรแล้วยังไง แต่ ก่อนฉันเคยสวมเพชรทั้งเม็ดเถอะ”
“เธอ…..เธอจะมโนเกินไปหรือเปล่า ?” ผู้ชายคนนั้นมอง เธอเหมือนกำลังมองคนบ้า จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่เธอ ไม่ระวังตัวแย่งโทรศัพท์ของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ บริกรกลับหลีกเลี่ยงการฉกของเขาได้อย่างง่ายดาย และจ้อง มองคนที่อยู่ในหน้าจออย่างเอาเป็นเอาตาย

“ห้าปี ห้าปีเต็มๆ ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว……

“ผู้จัดการ ผู้จัดการร้าน บริกรของพวกคุณแย่งโทรศัพท์ ของคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง”

เสียงร้องเรียนของลูกค้าดังขึ้นข้างหูเธอ ทำให้สติเธอ

ได้สติกลับมา ทันใดนั้น เธอก็ฟื้นสติกลับมา และคืนโทรศัพท์ ให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว พร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนหวานออกมา “คุณผู้ชายคะ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน คุณหนูคนนี้

สวยมาก สายตาของคุณดีมากเลย ขอให้ทานอาหารให้

อร่อยนะคะ”

เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไปทันทีโดยที่ไม่รอให้อีก ฝ่ายตอบสนองกลับมา แล้วรีบผลักผู้จัดการที่ได้ยินเสียงร้อง เรียนของลูกค้าให้กลับเข้าไปด้านใน พร้อมกับเดินไปพลาง พูดไปพลางว่า “โถผู้จัดการคะ ฉันจะแย่งโทรศัพท์ลูกค้าได้ ยังไง ฉันเป็นคนแบบไหน คุณยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ