เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1328 คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว



บทที่ 1328 คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

ตระกูลที่สามารถเป็นมิตรกับตระกูลหานได้…

เสี่ยวเหยียนทอดถอนใจ มิน่าล่ะตอนที่เจอกันในลิฟต์ เสี่ยวเห ขียนจึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูมีออร่ามาก ที่แท้ก็เมื่อก่อนเป็นลูกสาว เศรษฐีนี่เอง

“เธอไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากคุณ จึงมาทำงานที่ตระกูล หาน? คุณไม่รู้เรื่องนี้งั้นเหรอ” เสี่ยวเหยียนถามขึ้น

“อั้ม” หานซึ่งพยักหน้าลง เม้มริมฝีปาก จากนั้นหันไปมองเธอ “ถ้าไม่ได้เป็นเพราะวันนี้เธอสลบไป ผมก็ไม่รู้ว่าเธอทำงานที่ บริษัทตระกูลหาน”

เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แต่กลับเข้าไปโอบไหล่ของ

เสี่ยวเหยียน “ไปกันเถอะ ผมไปส่งคุณกลับบ้านนะ

เสี่ยวเหยียนถูกเขาโอบตัวออกไปด้านนอก ไม่รู้ว่าทำไมในใจ กลับยังคิดถึงเรื่องของสวี่เย็นหวั่น ผู้หญิงคนหนึ่งจู่ๆก็สูญเสียทุก อย่างไป และยังปฏิเสธการช่วยเหลือจากเพื่อน ตัวเองกลับต้อง ทนแบกรับทุกอย่างไว้ แบกรับไว้จนตัวเองทนไม่ไหว ต้องลำบาก ขนาดไหนกันนะ

แต่ทว่า เธอเองก็พูดให้หานซึ่งช่วยเธอไม่ได้ เพราะยังไงก็เป็น เรื่องระหว่างพวกเขาสองคน เพียงแต่รู้สึกตัวว่าตัวเองต้องรู้เรื่อง เยอะกว่านี้น่าจะดีกว่า
สวีเย็นหวั่นเพิ่งพักอยู่ที่โรงพยาบาลแค่ครึ่งวันก็จะออกจาก โรงพยาบาล

ซูจิ๋วห้ามเธอไว้ จากนั้นพูดขึ้น: “คุณสวี่ ประธานหานได้กำชับ ไว้แล้ว ให้ฉันอยู่ที่นี่ดูแลคุณดีๆ อีกอย่างตอนนี้ร่างกายคุณยัง อ่อนเพลียอยู่มาก คุณอยู่พักรักษาตัวที่นี่ก่อนดีกว่านะคะ

“ไม่เป็นไร” สวี่เย็นหวั่นส่ายหน้า พร้อมปฏิเสธ “ร่างกายของ ฉัน ฉันรู้ตัวเองดี ตอนเช้ารู้สึกไม่สบายนิดหน่อยจริงๆ แต่ตอนนี้ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เลขาซู รบกวนคุณช่วยไปทำเรื่องออกจาก โรงพยาบาลให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”

ซูจิ๋วยังคงปฏิเสธเธออย่างหนักแน่น

“คำสั่งที่ฉันได้รับมาต้องดูแลคุณสวีหลายวันนะคะ นี่ก็ใกล้จะ มืดค่ำแล้ว คุณสวี่อยากทานอะไรไหมคะ ฉันไปซื้อให้

สวีเย็นหวั่น: “…

คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะเชื่อฟังคำสั่งขนาดนี้ วันนี้เธอออก จากโรงพยาบาลไม่ได้แล้วจริงงั้นเหรอ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ สวี่เย็นหวั่นจึงพลิกตัวลงจากเตียง เตรียมตัว จะออกไปด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นการลองพูดคุยกับอีกฝ่าย

แต่คิดไม่ถึงว่าการกระทำของสวีเย็นหวั่นจะไวขนาดนี้ ตอนที่ ลงมาจากเตียง ทุกอย่างตรงหน้าก็มืดสนิท เธอล้มตัวไปข้างหน้า โชคดีที่ซูจิ๋วหูตาไว เดินเข้าไปประคองไว้ได้ทัน

“เป็นอะไรรึเปล่า?”
สวีเย็นหวั่นนั่งพักสักครู่ ภาพตรงหน้าค่อยๆชัดเจนขึ้น ความ ดันเลือดของเธอต่ำเกินไป จึงเป็นลมได้ง่าย

จากนั้นสวี่เย็นหวั่นก็ถูกซูจิ๋วพยุงกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง

“คุณสวี ดูการของคุณตอนนี้สิคะ อย่าเพิ่งรีบออกจากโรง พยาบาลดีกว่าค่ะ ร่างกายของคุณมีขีดจำกัด สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ ก็คืออยู่พักผ่อนที่นี่นะคะ”

ตอนแรกสวีเย็นหวั่นวางแผนที่จะออกไปจากที่นี่ แต่สภาพใน ตอนนี้ ถ้าเธอออกไปก็ไม่รู้เลยว่าจะทนกลับไปถึงบ้านได้หรือไม่

แม้ว่าจะกลับไปถึงที่บ้าน แต่ถ้าเธอเป็นลม ในบ้าน ถึงตอนนั้น ไม่มีใครเห็น และไม่มีใครสนใจ นั่นจะไม่แย่ไปกว่าตอนนี้เหรอ? เธอยังต้องพลิกฟื้นตระกูลสให้กลับมารุ่งเรือง จะตายไปแบบ

นี้ไม่ได้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น สวี่เย็นหวั่นจึงตัดสินใจลุกขึ้นมา ไม่พูดเรื่อง ที่จะกลับบ้านอีกต่อไป เธอเหนื่อยล้าจนดึงผ้าห่มมาห่มบนตัว ของตัวเอง “ฉันรู้แล้ว ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ฉันจะนอนพักผ่อน

ตอนแรกยังฝืนจะกลับบ้าน คิดไม่ถึงว่าหลังจากรู้ว่าร่างกาย ทนสภาพไม่ไหว ก็เปลี่ยนความคิดไปในทันที

ผู้หญิงคนนี้เด็ดขาดมากเหมือนกันนะ ซูจิ๋วคิด

“พักผ่อนก็ต้องทานอะไรด้วยนะ ฉันออกไปซื้ออาหารเย็นก่อน คุณอยากกินอะไรรึเปล่า?”
เธอไม่อยากทาน

เมื่อก่อนสวีเย็นหวั่นมีของที่ไม่ชอบกินเยอะมาก มักจะเลือกกิน ไม่ได้เป็นเพราะว่าไม่อร่อย แต่มักจะเป็นเพราะรสชาติไม่ถูกปาก หรือไม่ชอบ

ตอนนี้ล่ะ?

เธอยังมีสิทธิ์เลือกที่ไหนกัน? เมื่อคิดได้เช่นนี้ สวีเย็นหวั่นจึง ยิ้มอย่างเพื่อนๆ ไม่มีอะไรที่ทานไม่ได้ ฉันได้หมดเลย รบกวน คุณด้วยนะ”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันทานอะไรเธอก็ทานเหมือนฉันนะ ซูจิ๋วกำลังจะออกไป ขณะที่กำลังเปิดประตูออกมาก็ตกใจขึ้น มาทันที

“เสี่ยวเหยียน?”

ซูจิ๋วขยับตัวให้เสี่ยวเหยียนเข้ามาด้านใน: “ทำไมคุณถึงมา ตอนนี้ล่ะ?”

ตอนที่เสี่ยวเหยียนเดินเข้ามาก็สบตากับสวี่เย็นหวั่นพอดี ตอน ที่เห็นเธอ สวีเย็นหวั่นตกตะลึงไปทันที เธอมาที่นี่ทำไมกัน?

“อ๋อ กขึ้นได้ว่าพวกเธออยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่มีของอ ร่อยๆทานกัน ฉันก็เลยทำกับข้าวมาให้พวกเธอ” เสี่ยวเหยียนยก หม้ออาหารในมือขึ้นมาโชว์ “นี่ก็ถึงเวลาทานอาหารแล้ว พวก เธอคงยังไม่ได้ทานอะไรกันใช่ไหม? หวังว่าฉันยังมาทันอยู่นะ
ซูจิ๋ว: “ฉันกำลังจะออกไปซื้อข้าวพอดีเลย และยังคิดอยู่ว่าจะ ทานอะไรดี ถ้าคุณมาช้าไปก้าวเดียว ฉันคงออกไปแล้ว และคง ไม่ได้เจอกัน”

“จริงเหรอ?” เสี่ยวเหยียนยิ้มอย่างเริงร่าเข้าไปด้านใน เธอ วางหม้อลงบนโต๊ะ จากนั้นเปิดออก กลิ่นหอมของอาหารลอย คละคลุ้งขึ้นมาทันที

“โห หอมจังเลย! เสี่ยวเหยียนเธอเก่งจังเลย กลิ่นหอมนี้ดม แล้วน้ำลายแทบจะไหลออกมาเลย ต้องอร่อยมากแน่เลย คุณ เป็นเด็กผู้หญิงที่เลอค่ามากเลย ขนาดฉันแต่งงานแล้ว ฝีมือยัง ไม่ดีเท่าคุณเลย”

เสี่ยวเหยียนค่อยๆนําอาหารแต่ละอย่างออกมา ซูจิ๋วก็หันมา คุยกับสวี่เย็นหวั่น

“คุณสวี่ ในเมื่อแฟนของประธานหานเอาอาหารมาให้แล้ว งั้น พวกเราก็ไม่ต้องออกไปแล้วเนอะ คุณค่อยๆลุกขึ้นมาทานนะ มา ทานตรงนี้สิ”

สวี่เย็นหวั่นนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ไม่รู้จะว่าควรจะรู้สึกยัง ไงกับภาพตรงหน้า

เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเสี่ยวเหยียนจะเอาอาหารมาให้อีก ทั้งยังทำมาเยอะมากอีกด้วย ท่าทางกระตือรือร้นมาก

เธอยังคงนั่งเหม่อลอย ซูจิ๋วกัดเนื้อเข้าไปแล้วหนึ่งชิ้น จากนั้น พูดชมขึ้น: “อร่อยมากเลยเสี่ยวเหยียน คุณกับประธานทานจะ แต่งงานกันเมื่อไหร่? เขาได้แต่งงานกับแม่ศรีเรือนฝีมือดีอย่างคุณถือว่าโชคดีมากเลย

เสี่ยวเหยียนหน้าแดงขึ้นมาทันที

“เลขาซู!”

“อิอิ คุณนี่ขี้อายจังเลย ในห้องนี้มีแค่พวกเราสามคน ประธาน หานก็ไม่อยู่ คุณจะอายทำไมล่ะ? บอกกันหน่อยสิ ว่าตอนนี้คุณ กับประธานหานพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว? คุณสวี่รู้จักกับประธาน หาน เดาว่าต้องอยากรู้เรื่องนี้เหมือนกันใช่ไหม?”

เมื่อพูดจบซูจิ๋วก็หันไปเหลือบมองสวี่เย็นหวั่น

สวี่เย็นหวั่นยังคงนั่งเหม่ออยู่ที่เดิม ผ่านไปนานสักพัก เธอจึง จะเก็บความรู้สึกอันขมขื่นใจนี้ไปได้ จากนั้นค่อยๆยกผ้าห่มออก และลงมาจากเตียง เดินตรงไปที่ด้านข้างของทั้งสองเหมือนหุ่น ยนต์ที่ไร้ซึ่งอารมณ์

“อั้ม ฉันก็อยากรู้มากเลย” เธอยิ้ม ยกตะเกียบขึ้นมา และทาน ข้าวร่วมกับพวกเธอ

ซูจิ๋วหันไปมองเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ เห็นสวีเย็นหวั่นผิดปกติไป จึงคิดภายในใจว่า หรือเธอทายผิดไป? สวีเย็นหวั่นกับประธาน หานเป็นแค่เพื่อนกันปกตินั้นเหรอ? ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยใช่ ไหม?

“ดูสิ เธอก็อยากรู้เหมือนกัน พวกเราอยากรู้กันหมด เสี่ยวเหยี ยนบอกพวกเราหน่อยสิ”

ซูจิ๋วรู้สึกว่าตัวเองอยากลองดูปฏิกิริยาตอบรับของสวีเย็นหวั่นอีกครั้ง จึงถามขึ้นต่อ: “ก็แค่บอกว่าตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว จับมือ จูบกัน?”

เสี่ยวเหยียน:

หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น มองซูจิ๋วด้วยความเหลือเชื่อ คิดไม่ ถึงเลยว่าวันนี้เลขาซูจะพูดซุบซิบเยอะขนาดนี้ และยังห่วงใยเรื่อง ชีวิตรักของเธออีกด้วย

“เลขาชู คุณ…”

“หรือว่า พวกคุณ….กันแล้ว?

เสี่ยวเหยียน: “!! เลขาซู!”

ซูจิ๋วยิ้มและหยิกแก้มของเธอ “อายอะไรกันล่ะ? พวกเราเป็นผู้ หญิงเหมือนกัน ใช่ไหมคุณสวี่?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ