เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 167 ก็ถือซะว่าติดสินบน



บทที่ 167 ก็ถือซะว่าติดสินบน

“เข้มงวดขนาดนั้นเลยหรอ เสิ่นเฉียวพูด”

ฟังแล้ว เสี่ยวเหยียนทนไม่ไหวมองบนใส่ เธอ : “ขอร้องล่ะ ไม่งั้นเธอคิดว่าตระกูลเย่จะ เป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเป่ยไหม? ที่ พึ่งคือตรงนี้ ทุกคนมาที่นี่ซื้อของก็ได้แต่ของที่ดี ที่สุด

เสิ่นเฉียว : “.. ไม่แปลกใจเลยที่กำไร เดือนๆ นึงถึงเป็นหลายสิบล้าน อีกอย่างยังเป็น เวลาที่ธุรกิจปกติด้วย….”

“อะไร? เธอพูดอะไรกำไรหลายสิบล้าน?”

ไม่มีอะไร” เสิ่นเฉียวตอบสนองกลับมา : “พวกเราไปที่นั่นเถอะ ใช่แล้ว ของที่นี่ไม่ถูกเลย เธออยากจะใช้เงินเยอะขนาดนั้นซื้อชุดชุดเดียว เนี่ยนะ? เพียงเพราะไปร่วมงาน? ”

เสิ่นเฉียวจำได้ว่าเธอทำกระโปรงตัวหนึ่ง พัง คนบริการบอกว่ากระโปรงตัวนั้นราคาสาม แสนนะ

เพราะงานเลี้ยงซื้อกระโปรงราคาหนึ่งแสน คนพวกนี้..มีเงินจริงๆ!
“ก็ยังดี กระโปรงสองสามแสนไปร่วมงาน ครั้งเดียว ฉันว่าสมราคาแล้ว อีกอย่างผู้หญิงอายุ เท่านี้ก็สมควรจะสวยสักนิด ไม่ใช่หรอ? ไม่งั้นรอ ให้แก้แล้วมารักสวยรักงามก็จะถูกนินทาเอาได้ อีกอย่างพวกเราเองก็รู้สึกเสียดาย”

สองคนเข้าไปในร้านๆ หนึ่ง เสี่ยวเหยียนมี ความรู้มาก เข้าไปแล้วก็อธิบายความตั้งใจของ ตัวเอง

“ขอโทษนะคะ ฉันกับน้องสาวอยากซื้อ กระโปรงราคาประมาณห้าหมื่นลงมาค่ะ ดีไซน์ เก๋ๆ สีสันสดใสหน่อย ใช่แล้ว ขอบคุณค่ะ”

หลังจากพนักงานได้ยินพวกเขาคุยกันเรื่อง ราคา ก็ไม่ได้แสดงสายตาดูถูกอะไร รีบพาพวก เธอไปที่พื้นที่เล็กๆ

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิงทั้งสอง ที่นี่น่าจะเหมาะ สมกับความต้องการของพวกคุณค่ะ พวกคุณ สามารถดูสไตล์ก่อนได้ มีปัญหาอะไรยินดีถามฉัน ได้ตลอดเวลา”

“โอเค ขอบคุณค่ะ ฉันขอดูก่อนนะคะ”

พนักงานจากไปอย่างเงียบๆ เสี่ยวเหยียน ยกมุมปากขึ้น : “เห็นไหม? ขนาดพนักงานยังถูกอบรมมาเป็นพิเศษ มีมารยาทดีมาก

เสิ่นเฉียว : ” ครั้งที่แล้วเธอทำไมเจอ พนักงานขายที่ดีขนาดนี้ล่ะ? ดูแล้วน่าจะเป็น เพราะในกลุ่มคนดีก็ยังมีคนไม่ดี แต่ว่าผู้หญิงคน นั้นจนวันนี้เธออาจจะเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้

เฉียวเฉียว เธอรีบมาดูตัวนี้ กระโปรง สีน้ำเงินรู้สึกว่าจะเข้ากับเธอ เหมือนกับอารมณ์ ของเธอ

เส้นเฉียวรอยยิ้มที่มุมริมฝีปากแข็งเล็ก น้อย : “ฉันไม่ซื้อ เธอซื้อของเธอเถอะ”

เสี่ยวเหยียนสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยน จ้องไปที่ เธอ : “ทำไม? งั้นเธอจะไม่ไปร่วมงาน?”

“อืม” เสิ่นเฉียวพยักหน้า เธอไม่สนใจงาน ครบรอบเช่นนี้

เธอซื้อกระโปรงไม่ได้ แล้วก็สู้ไม่ได้ด้วย

อยู่อย่างมั่นคงในบริษัท หรือว่าอยู่ในบ้าน

“พระเจ้า เธอไม่ไปร่วมงานงั้นฉันไปร่วม งานคนเดียวหมายความว่าไง? ” เสี่ยวเหยียนสัก พักก็ไม่มีความสุข ทำปากจ์

เสิ่นเฉียวหัวเราะอย่างเฉยๆ : “ฉันไม่เหมือนเธอน เธอสวยขนาดนี้ แล้วยังแข็งแรงอีก เธอไป ร่วมงาน”

ได้ยินความจริง เสี่ยวเหยียนสีหน้าดีขึ้นมา หน่อย

“แบบนี้ก็ไม่เท่าไหร่ งั้นเธอรอฉันแปบนึง ฉันไปลองกระโปรง”

เวลาว่างระหว่างรอเธอลองชุด เสิ่นเฉียวหา ที่จัดการกับสมุดโน้ต เสี่ยวเหยียนเที่ยวมาหน้า เธอถามเรื่องกระโปรง เธอรูปร่างดี ผิวก็ขาว อ่อน หวาน เสิ่นเฉียวคิดว่าเธอใส่ตัวไหนก็ไม่เลว

ตอนที่สองคนออกมาจากห้าง คิดไม่ถึงว่า จะเจอเย่หลิ่นหาน

“เป็นประธานรองเย่ ! ” เสี่ยวเหยียนอึดอัด จนกำกระโปรงไว้แน่น : “คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่ เฮ้ย! เฮ้ย! เขาเดินเข้ามาแล้ว!”

ได้ยินแล้ว เสิ่นเฉียวหัวใจถูกจับเย่หลี่ นหาน ?

พึ่งจะเงยหน้า เสิ่นเฉียวยิ่งเห็นเย่หลิ่นหาน เดินเข้ามาหาพวกเธออีก บนใบหน้ายังคงมีรอย ยิ้มที่อ่อนโยนและมีพลัง ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก

“พวกคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ” เย่หลิ่นหานถามพวกเธอ แต่สายตาของเขาไม่ได้ตั้งใจมอง มาที่หน้าเสิ่นเฉียว

เผชิญหน้ากับเย่หลิ่นหานอีกครั้ง เสิ่นเฉียว ยังรู้สึกอาย ครั้งที่แล้วหลังจากที่เขามอบเงิน 300,000 หยวนให้เธอในครั้งที่แล้ว เธอก็รู้สึก กดดันขึ้นมา ยิ่งไม่อยากเจอเขา ตอนนี้เธอกำลัง พยายามเก็บเงิน รีบคืนให้เขา ในใจจะได้ไม่ต้อง กดดันขนาดนั้น

เสี่ยวเหยียนตอบ : “พวกเรามาซื้อชุด ประธานรองเย่ คุณทำไมมาอยู่ที่นี่ได้? ”

เย่หลิ่นหานยิ้มเล็กน้อย : “ฉันก็มาซื้อของ ดูแล้วพวกคุณซื้อเสร็จแล้ว จะไปที่ไหน ฉันจะไป ส่งพวกคุณ? ”

“ดีจัง! ฉันกำลังจะกลับบ้าน งั้นก็รบกวน ประธานรองเย่แล้วกันนะคะ”

“เรื่องเล็ก”

เสี่ยวเหยียนกำลังคิดว่าจะลากเส่นเฉียวไป นั่งรถของเย่หลิ่นหาน เสิ่นเฉียวกลับปล่อยมือ ของเธอยืนอยู่ที่เดิม เสี่ยวเหยียนหันกลับไปมอง เธออย่างแปลกใจ

“ฉันยังมีธุระหนะ งั้นรบกวนประธานรองเย่ไปส่งเสี่ยวเหยียนด้วยนะคะ ฉันดึกหน่อยค่อย กลับเองค่ะ”

เสี่ยวเหยียนถลึงตาโต มองเธออย่างไม่ เชื่อ

สายตานั้นราวกับถามเสิ่นเฉียวว่านี่มันอะไร กัน โอกาสดีขนาดนี้ไม่รู้จักรักษาไว้!

เย่หลิ่นหานตามืดลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูด

อะไร

เสี่ยวเหยียนทนไม่ไหวเอ่ยปากออกมา : “มีธุระ เธอธุระอะไร? เมื่อตอนที่ลองกระโปรง กับฉันทำไมไม่เห็นบอกว่ามีธุระ? ตอนนี้มีธุระ แล้ว? ธุระอะไรสำคัญหรอ?”

เสิ่นเฉียว : “.อย่าโวยวาย ฉันมีธุระ

จริงๆ แค่พึ่งนึกออกเอง” แต่เรื่องนี้เธอไม่ได้โกหก เธอพึ่งจะคิดออก

จริงๆ

“จริงหรอ?” เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธออย่าง

สงสัย

เสิ่นเฉียวก็อึดอัด ตอนแรกก็อึดอัดอยู่แล้ว

เสี่ยวเหยียนถามแบบนี้ เธอแทบจะไม่มีหน้ามอง

เขาแล้ว ได้แต่พูดว่า : “จริงๆ ฉันมีธุระจริงๆ พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันกลับก่อน”

พูดจบ ก็ไม่รอการตอบสนองของทั้งสอง คน เสิ่นเฉียวก็หันกลับออกมาเลย

เสี่ยวเหยียนจ้องมองที่ด้านหลังของเธอ อย่างหดหู: “เรื่องอะไรกัน? ”

หันกลับไป เสี่ยวเหยียนกลับเห็นสายตา ของเย่หลิ่นหานจ้องไปที่เสิ่นเฉียวที่เดินไปจน มองไม่เห็น สายตาของเขาถึงกลับมา ในสายตา คืออารมณ์ที่ไม่ได้ยับยั้ง

“ประธานรองเยรู้จักเสิ่นเฉียวมาก่อนหรอ? พวกคุณเป็นอะไรกัน? ” เธอถามอย่างประหลาด

ใจ

เย่หลิ่นหานค่อยๆ หัวเราะ : “ไม่ใช่อยาก กลับบ้านหรอ ไปเถอะ ฉันไปส่งเธอ”

เสี่ยวเหยียนแลบลิ้น : “ใครก็รู้ว่าคนที่คุณ อยากจะไปส่งไม่ใช่ฉัน ฉันเป็นทางผ่าน ตอนนี้คน ที่คุณอยากไปส่งไปแล้ว ฉันไม่กล้านั่งรถของ คุณ”

“ไม่เป็นไร คุณเป็นเพื่อนสนิทเธอ ไปส่งคุณ ก็ไม่เป็นไร”

เทคนิคในการพูดนี้ค่อนข้างดี เสี่ยวเหยียนเอียงหัว : “ประธานรองเย่ คุณกำลังจีบเสิ่นเฉียว หรอ?”

ได้ยินแล้ว เย่หลิ่นหานยิ้มแต่ไม่พูด

“คุณพระช่วย งั้นฉันทายถูกแล้วหรอ? คุณ จีบเสิ่นเฉียวจริงๆ หรอ? แต่เธอ” เธอค่อนข้าง ชัดเจนว่าไม่สนใจคุณนะ แบบนี้คือปฏิเสธ?

” ไปเถอะ” เยหลิ่นหานก็ไม่ตอบคำถาม แต่ ในขณะเดียวกันก็ไม่ปฏิเสธ แค่หันกลับไปที่จอด รถ

เสี่ยวเหยียนเดินตามเขาไป พลางเดิน พลางถาม : “ประธานรองเย่ คุณกำลังจีบเสิ่น เฉียวจริงๆ หรอ? ให้ฉันไปตามเสิ่นเฉียวกลับมา ไหม เธอไม่ขึ้นรถฉันขึ้นรถคนเดียวทำตัวไม่ถู กอ่ะ!”

“ไม่เป็นไร ” เย่หลิ่นหานหันกลับไป “ก็ถือ ซะว่าติดสินบน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ