เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1052 ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง



บทที่1052 ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง

หลังจากเดินเข้าไปในห้องน้ำ เสี่ยวเหยียนก็เข้าไปในห้องน้ำ เล็กๆ เธอดึงฝาชักโครกลงและนั่งลงเพื่อให้อารมณ์ของเธอสงบ

ใจเต้นอย่างรุนแรง น้ำตาก็อดไม่ได้ที่จะไหลออกมา

เธอพยายามกลั้นอารมณ์ชั่ววูบอย่างสุดความสามารถโดย เอียงศีรษะไปข้างหลังเพื่อไม่ให้น้ำตาไหล

“ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง? ฉันไม่เห็นจะอยากได้เลย ฮึกฮึก…” ยิ่ง พูดก็ยิ่งเสียใจ เสี่ยวเหยียนยื่นมือมาเช็ดน้ำตา แต่พอยิ่งเช็ดก็ยิ่ง ไหลออกมาอย่างหนัก ท้ายที่สุดเสียวเหยียนก็ควบคุมตัวเองไม่ ได้ น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างพรั่งพรู

เธอยื่นมือมากุมหน้าตัวเองและร้องไห้ด้วยความขมขื่น

เห็นได้ชัดว่า…เธอพยายามลืมผู้ชายคนนี้ไปแล้ว แต่ทำไมตอนนี้พอมาพบเขา เธอยังไม่อาจต้านทานได้ ตัว เองช่างน่ารําคาญจริงๆ

เธอไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไปอีกแล้ว เธอจะต้องสู้ เธอจะต้อง ลืมหานชิงให้ได้

เธอไม่ต้องการอยู่ในกำมือของผู้ชายเพียงคนเดียวไปตลอด

ทั้งชีวิต

ใช่แล้ว เธอจะต้องเปิดร้านและทำตัวให้ยุ่ง ขอแค่เธอกลับไปยุ่งเหมือนเดิมและไม่เจอเขาอีก เธอก็จะไม่คิดถึงเขา

เสี่ยวเหยียนหยิบทิชชู่ออกจากกระเป๋ามาเช็ดน้ำมูกน้ำตา จาก นั้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พอเดินออกมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเพิ่งเดินออกมาจากห้องข้างๆ

ตอนที่เธอร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเมื่อกี้นี้ คนข้างๆคงได้ยิน

หมดแล้ว

เมื่อเห็นดวงตาสีแดงของเสี่ยวเหยียน ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นห่วง เธอเล็กน้อย

“นั่น คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ สบายมาก ขอบคุณนะ คะ”

ผู้หญิงคนนั้น “…”

จากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ล้างหน้าล้างตาที่อ่างล้างหน้า เธอแต่ง หน้าตัวเองใหม่อยู่หน้ากระจก หลังจากแน่ใจว่าเธอไม่ได้ดูแปลก ตาจึงเดินออกมา

หลังจากออกจากร้านอาหาร เสี่ยวเหยียนก็นั่งรถแท็กซี่กลับ

บ้าน

เธอนั่งอยู่หน้ากระจกพลางมองตาที่บวมเป่งของตัวเอง เธอจึง เดินไปเอาน้ำแข็งที่ตู้เย็นมาพันไว้แล้วประคบลงไป เนื่องจาก ตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่บ้าน จึงไม่อยากให้พ่อกับแม่เห็นถึงความแตกต่างได้

อีกทั้งเธอยังตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่น

หาเชิง

ปล่อยให้ความรู้สึกของเธอถูกขังตลอดไป จากนี้หากเจอกันอีกครั้งก็ทำเหมือนคนแปลกหน้า

เสี่ยวหมี่โต้วทานอาหารมื้อนี้ด้วยความหดหู

อันที่จริงเขาไม่ได้อยากมาทานปลานึ่งที่ร้านแห่งนี้ ที่เขาอยาก ทานจริงๆก็คืออาหารที่น้าเสี่ยวเหยียนเป็นคนทำ แต่เพื่อความ สุขของน้าเสี่ยวเหยียน เขาจึงล้มเลิกความคิดนี้เพื่อมอบเวลาให้ คุณน้ากับน้าเสี่ยวเหยียนได้อยู่ด้วยกัน

ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้

เสี่ยวหมี่โต้วหดหู่ใจ ดังนั้นเขาจึงไม่มีใจจะทานอาหาร

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหานซิง เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะมาทานอาหาร แต่เนื่องจากวันนี้จู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วก็นัดเขามาที่นี่กะทันหัน เขาก็ เลยมา

ใครจะรู้ว่านี่เป็นแผนการของเสี่ยวหมี่โต้ว

บวกกับหญิงสาวที่ดูลนลานอยู่ต่อหน้าเขาและหนีเตลิดไป เธอ ทําเหมือนเขาเป็นตัวหายนะ ไม่อยากพบหน้าเขาอีก
ทําให้…หานซิงรู้สึกร้อนใจ

ตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วทานอาหาร หานซิงก็แทบจะไม่ขยับ ตะเกียบ

เมื่อเวลาผ่านไป เสี่ยวหมี่โต้วก็วางตะเกียบลงพลางเบิกตาโต มองมาทางเขา

“กินเสร็จแล้วเหรอ?” หานซึ่งถาม

เสี่ยวหมี่โต้วหยิบผ้ามาเช็ดที่มุมปาก เมื่อเห็นอาหารมากมาย อยู่ตรงหน้า เขาก็ลองถามหยั่งเชิงว่า “น้าเสี่ยวเหยียนบอกผมว่า อย่าฟุ่มเฟือย แต่เธอกลับไม่กินสักคำแล้วหนีไป นี่ก็มีอาหารตั้ง สองสามอย่างที่เธอสั่งแน่ะ จริงๆเลย น้าเสี่ยวเหยียนทำไมถึง ฟุ่มเฟือยขนาดนี้นะ?”

ในขณะที่พูด สายตาก็ลอบมองอาการหานชิง

แต่น่าเสียดายที่เสี่ยวหมี่โต้วต้องผิดหวัง ใบหน้าหานซึ่งยังคง เป็นเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาอยากจะดูสัก หน่อยแต่ก็ดูไม่ออก

หลังจากนั้นหานชิงก็ดูเหมือนจะอะไรขึ้นได้ “ไม่อยากเสียของ ก็ห่ออาหารที่ยังไม่ได้กินพวกนั้นสิ

เสี่ยวหมี่โต้ว “จะห่อไปให้ใครล่ะฮะ?”

หานซึ่งเหลือบมองเขาและพูดด้วยเสียงเรียบๆ “เอาไปที่ บริษัท”
อาหารที่นี่เป็นอาหารชั้นยอด หากเอากลับไปฝากที่บริษัทก็น่า จะมีคนชอบ

“คุณน้าไม่หิวเหรอฮะ?”

จู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วก็ถามเขาพลางใช้มือประคองแก้ม “คุณน้า หรือเป็นเพราะว่าน้าเสี่ยวเหยียนไปแล้ว คุณน้าก็เลยไม่อยากกิน ข้าว”

หานชิงได้เรียกบริกรเข้ามาห่ออาหาร พอได้ยินคำพูดนั้น เขา ก็เหลือบมองเสี่ยวหมี่โต้วและพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

“วันหลังอย่าทําเรื่องแบบนี้อีกนะ

” นี่คุณน้ากำลังโทษเสี่ยวหมี่โต้วเหรอ? งั้นวันหลังเสี่ยวหมี่ โต้วจะไม่เรียกคุณน้าออกมาทานข้าวแล้วก็ได้!”

หานชิงปวดหัวเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาจับไหล่เสี่ยวหมี่โต้ว

และพูดด้วยความอ่อนโยน

“น้าไม่ได้โทษเสี่ยวหมี่โต้ว แต่เสี่ยวหมี่โต้วทำแบบนี้จะทำให้ น้าเสี่ยวเหยียนลำบากใจเอาได้ เมื่อกี้นี้เสี่ยวหมี่โต้วก็เห็นท่าที ของเธอนี่”

ในที่สุดก็พูดกันถึงหัวข้อนี้ เสี่ยวหมี่โต้วจับมือหานชิงเพื่อ ต้องการถามให้ชัดเจน

“คุณนาทำให้น้าเสี่ยวเหยียนไม่พอใจหรือเปล่า? พอน้าเสียว เหยียนเจอคุณน้าก็หนีไป
ทำให้เธอไม่พอใจงั้นเหรอ?

ตอนแรกเธออยากมา แต่หานซึ่งไม่ให้ ทั้งยังทำเรื่องแบบนั้น กับเธอตอนที่อยู่ต่างประเทศ เกรงว่าเธอจะตัดใจได้แล้วสินะ? แบบนี้..ก็ดี

สีหน้าเขาดูไม่ค่อยดี แต่ยังคงยิ้มจางๆออกมา

“ก็น่าจะใช่ น้าก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ต่อไปเสี่ยวหมี่โต้วอย่าทำ เรื่องแบบนี้อีกก็พอแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วชอบเธอ น้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่าเรียกน้ามาอีกเลย ว่าไง?”

เสี่ยวหมี่โต้ว “ทำไมล่ะฮะ? คุณน้าไม่ชอบน้าเสี่ยวเหยียนเห รอ? ผมหวังว่าน้าเสี่ยวเหยียนจะมาเป็นน้าสะใภ้ของผม”

เมื่อได้ยินคำว่าน้าสะใภ้ หานซึ่งก็ขมวดคิ้วและดุโดยไม่รู้ตัว

“ต่อไปห้ามพูดไร้สาระอีกนะ ไม่อย่างนั้นน่าจะโกรธจริงๆด้วย

เสี่ยวหมี่โต้ว “.….”

ไม่คิดว่าหานชิงจะโกรธเขาขนาดนี้ เสี่ยวหมี่โต้วกลัวมากจน

ไม่กล้าพูดอะไร หานชิงเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเองอารมณ์ไม่ดีและยังพูดกับอีก

ฝ่ายที่เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ทำไมเขาต้องโมโหขนาดนี้ด้วยนะ? เขาเองก็ไม่เข้าใจและไม่รู้อะไรเลย

“ขอโทษ น้าไม่ควรพูดแบบนี้กับเสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยวหมี่โต้วกิ นอิ่มหรือยัง? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว น้าจะพาไปกินของโปรด ดีไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วเหมือนหงุดหงิด เสี่ยวโต้วไปบ้านน้าเสี่ยวเหยียนหน่อยสิ เสี่ยวโต้วอยาก กินของน้าเสี่ยวเหยียนทํากับมือ

หานชิง ” ”

“ถ้าน้าไม่ยอมไปก็เถอะ เสี่ยวหมี่โต้ว

หลังจากพูดเสร็จเสี่ยวหมี่โต้วหันหลังเตรียมจะออกจากห้อง อาหาร

หานชิงปัญญากับเจ้าหนูน้อยคนนี้มาก เขาก็อยากว่าตัวเองสนใจเขา เขาหนีไปหาเสี่ยวเหยียนเองจริงได้

เขายังเด็กมาก การวิ่งออกไปคนเดียวทำให้คนเป็นห่วง

หานชิงได้แต่

เสี่ยวหมี่โต้วหยุดและ

หลังจากห่ออาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว หานชิงถือข้าวของเดิน ลงไปชั้นล่างเพื่อขับไปส่งเสี่ยวโต้ว

เมื่อรถมาถึงหมาย เสี่ยวหมี่โต้วเสี่ยวเหยียนเคยเสี่ยวหมี่โต้วมาแค่ครั้งเดียวเอง ก็เป็น ครั้งสอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ