เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1329 คุยกันดีๆได้ไหม



บทที่ 1329 คุยกันดีๆได้ไหม

สีหน้าของสวีเย็นหวั่นดูเผินๆนิ่งเรียบไม่มีอะไร แต่ในใจกลับ แตกสลายไปหมดแล้ว

เธอไม่อยากรับรู้เรื่องพวกนี้ ก่อนหน้านี้ยังหลีกเลี่ยงได้

แต่ตอนนี้กลับปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน เหมือนมีเกลือ จํานวนมหาศาล ราดลงบนแผลสดที่เต็มไปด้วยเลือดของเธอ เจ็บปวดทวีคูณขึ้นหลายเท่า

“คุณสวี่ สีหน้าของคุณดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายตรงไหน เปล่า?” เสียงของซูจิ๋วดึงสติของสวีเย็นหวั่นกลับมา

สวีเย็นหวั่นตั้งสติขึ้นมาได้ ยิ้มด้วยริมฝีปากอันซีดเซียว ตอบ

ไม่ตรงคำถาม

“แค่ตอนที่ฉันทานของพวกนี้ นึกถึงสมัยตอนที่อยู่ที่บ้าน ตอน

เมื่อพูดถึงตอนนี้ เธอหยุดชะงักไปทันที หรี่สายตาลงและไม่ พูดอะไรอีก

ซูจิ๋วเห็นเธอเป็นเช่นนี้ จึงมองด้วยความสงสัย หรือเธอทายผิดไป?

ตอนนี้สวี่เย็นหวั่นแค่กำลังหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่ไม่ ได้เป็นเพราะเรื่องที่เธอลองใจจนทำให้สีหน้าเปลี่ยน
แต่ซูจิ๋วไม่ได้เป็นคนที่ถูกหลอกง่ายขนาดนั้น ตอนนี้ยังมองไม่ ออก แต่ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ เธอค่อยๆลองก็ได้

ทำไมเธอถึงคิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้ล่ะ? โดยรวมแล้วคงเป็น เพราะเมื่อก่อนเธอก็เคยชอบทานชิง ดังนั้นจึงเข้าใจความรู้สึก ของคนอื่นเป็นอย่างดี

สายตา ท่าทางและสีหน้าของอีกฝ่าย เธอสามารถรับรู้ถึง ความรู้สึกได้ทันที

แต่ความรู้สึกที่สวี่เย็นหวั่นมีให้เธอในตอนนี้ กลับสับสนมาก

ดังนั้นเธอจึงต้องดูให้แน่ใจต่อ

เสี่ยวเหยียนทานข้าวเย็นร่วมกับทั้งสอง จากนั้นซูจิ๋วก็เสนอไป ส่งเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนบอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นจึงกลับไป เอง บอกว่าถ้าพรุ่งนี้ว่างจะมาส่งอาหารให้อีก

สวีเย็นหวั่นนั่งอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง มองออกไปดูแสงไฟ สว่างเจิดจ้าด้านนอก ร่างกายที่กำลังอุ่นหลังจากได้ทานอาหาร เย็น แต่ในใจของเธอกลับเยือกเย็นมาก

เด็กผู้หญิงคนนั้น…

นิสัยดีมากจริงๆ ใจดีมาก และยังมีน้ำใจ เขาตาดีจริงๆ

เขาเหมือนกับที่เธอคิดไว้จริงๆ ไม่ชอบใครง่ายๆ คนที่เขาชอบ ต้องมีสิ่งพิเศษบางอย่างในตัว

แม้ว่าสวี่เย็นหวั่นเพิ่งจะรู้จักเสี่ยวเหยียนได้ไม่นาน แต่เวลา เพียงแค่หนึ่งวัน สวี่เย็นหวั่นก็เห็นความตั้งใจ ความพยายามและความใสซื่อ ในตัวของเด็กผู้หญิงคนนี้

สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ล้ำค่ามาก

เรื่องนิสัยใจดีเรียบร้อยเช่นนี้หลายคนก็เพียบพร้อม แต่ส่วน ใหญ่ก็ทนไม่ได้ และไม่ทำออกมาให้เห็นจริงๆ

แต่เธอกลับไม่คิดถึงผลที่ตามมา ทำอาหารมาส่งให้เธอ ดูจาก

สายตาก็รู้ว่าเธอไม่ได้คิดร้ายอะไร

สวีเย็นหวั่นทอดถอนภายในใจ จากนั้นหรี่สายตาลง

ตอนแรกเธอยังคิดว่า เด็กผู้หญิงคนนี้ถ้าไม่มีความสามารถที่ เก่งพอ หรือนิสัยบุคลิกไม่ดี เธอคงยังมีเหตุผลไปสู้หรือแย่งบ้าง

แต่ตอนนี้ เธอช่วยตัวเองไว้ ทำให้ตัวเองกลับกลายเป็นคนติด หนี้บุญคุณเธอแทน

ยังไม่ทันได้ชดใช้บุญคุณ เธอก็ทำอาหารมาส่งให้ตัวเองอีก

เธอ…ยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ?

สวี่เย็นหวั่นจมอยู่ในภวังค์แห่งการดิ่งลงสู่ความดิ้นรนอีกครั้ง จนอาการปวดหัวค่อยๆแรงขึ้น เธอยกมือขึ้นมาจับหน้าผากตัว เองไว้ หายใจเริ่มไม่ปกติ

เธอต้องทําอย่างไร ทำอย่างไร…

ช่วงนี้เซียวซู่ปวดหัวมาก เพราะเจียงเสี่ยวไปเริ่มไม่มีกฎเกณฑ์ มากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่เพียงแค่นำเครื่องครัวของบ้านตัวเองย้ายมาที่บ้านของ เซียวซู สุดท้ายยังย้ายตัวเองมาอยู่ด้วย บางครั้งเป็นเพราะ เหนื่อยมาก เธอจึงเพลียจนนอนหลับบนโซฟา กอดผ้าห่มนอน หลับลงตรงนั้น

ตอนเชียว ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เห็นก้อนกลมๆบนโซฟา ยังคิด ว่ามีโจรขึ้นบ้าน จึงลองมองดูดีๆ จนพบว่าเป็นเจียงเสี่ยวไป

เขาเลิกคิ้วขึ้น เดินเข้าไปปลุกเธอ เจียงเสี่ยวไปลุกขึ้นมานั่ง จ้องหน้าเขาด้วยตาที่ดำคล้ำเป็นหมีแพนด้า

“เช้าขนาดนี้ คุณทำอะไรน่ะ?”

เซียวซู: “ผมต้องถามว่าคุณทำอะไร? ทำไมคุณไม่กลับบ้าน? เจียงเสี่ยวไป๋: “อ๋อ เรื่องนี้เหรอ… เมื่อคืนฉันเขียนงานจนถึงดึก มาก เห็นว่าข้างนอกไม่มีคนแล้ว ก็เลยนอนที่นี่เลยไงล่ะ ไม่พูด กับคุณแล้ว ฉันง่วงมาก ขอนอนต่ออีกสักพักนะ

เมื่อพูดจบ เจียงเสี่ยวไปก็ฟุบหัวลงไปนอนต่อ เธอง่วงมากจริงๆ

ถ้าเป็นผู้ชายปกติทั่วไป เธอคงไม่กล้าไว้ใจขนาดนี้ แต่เซียวซู เป็นผู้ชายที่มีคนครอบครองอยู่ในหัวใจ แม้ว่าตัวเองจะถอดชุด ทั้งหมด ยืนเปลือยอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่มีทางที่หวั่นไหว แน่นอน ดังนั้นเธอมีอะไรที่จะต้องกังวลละ

อีกอย่างโซฟาของเขาทั้งนุ่มทั้งใหญ่ นอนตรงนี้สบายตัวมากจริงๆ
เจียงเสี่ยวไปจึงไม่ได้รู้สึกระแวงต่อเซียวซู่เลยแม้แต่น้อย ดัง นั้นเธอจึงปิดตาและนอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

แต่สีหน้าของเซียวที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับเผยให้เห็นถึงความ

อึดอัดใจ

ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเป็นเช่นนี้ได้ ทำตัวโผงผาง เหมือนคิดว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้หญิง แม้ว่าเขาจะไม่สนใจอะไรในตัวเธอ แต่ไม่ว่า ยังไง เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง

แม้ว่าเขาจะไม่มีทางทำอะไรเธอ แต่เธอก็ควรห่วงชื่อเสียงของ

ตัวเองบ้างไม่ใช่หรือไง?

“เจียงเสี่ยวไป๋” เซียวซู่ตะโกนเรียกชื่อเธอ เจียงเสี่ยวไปที่นอน อยู่ตรงนั้น ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ เซียวหมดหนทางแล้ว จริงๆ จึงตะโกนเรียกอีกครั้ง

“เจียงเสี่ยวไป๋!”

เจียงเสี่ยวไปไม่มีท่าทีตอบโต้ใดๆ ผ่านไปสักพัก คงรู้สึกได้ว่า เซียวซูยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เธอจึงลืมตาขึ้น เหลือบมองไปที่ เซียวซู่ จากนั้นลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ

“นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? เช้าขนาดนี้คุณไม่ง่วง แต่ฉันง่วง นะ มีเรื่องอะไรรอให้ถึงตอนเที่ยง คุณกลับมากินข้าว แล้วค่อย คุยกันไม่ได้เหรอ?”

เซียวซูเป็นคนที่มีเรื่องอะไรต้องจัดการให้เสร็จเดียวนั้น ถ้ารอ ให้ถึงตอนเที่ยงแล้วค่อยพูด เขาไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นัก
“คุณลุกขึ้นมาก่อน”

เจียงเสียวไปนอนนิ่งอยู่นานสักพัก คิดว่าถ้าไม่ลุกขึ้นมาคุยกับ เซียวซูให้รู้เรื่อง เขาคงไม่ไปไหนแน่นอน จากนั้นจึงทำได้เพียง จิกผมตัวเองขึ้นมา และลุกขึ้นนั่ง

“โอเค ฉันตื่นแล้ว มีอะไรก็รีบพูดมา พูดจบ ฉันจะได้นอนต่อ

เธอง่วงมากจริงๆ ง่วงจนแทบจะระเบิดออกมา

แต่แม้ว่าเจียงเสี่ยวไปจะลุกขึ้นมาแล้ว แต่เธอยังคงหลับตาอยู่ ไม่สนใจภาพลักษณ์ตัวเองแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเธอ เซียวซูรู้สึกว่าเธอสามารถลุกขึ้น มานั่งคุยกับตัวเองได้ก็ถือยากพอสมควรแล้ว จึงไม่เรียกร้องให้ เธอต้องลืมตาขึ้นมาด้วย เขาหาที่นั่งที่เหมาะสมนั่งลง จากนั้นพูด ขึ้น “ต่อไปคุณห้ามนอนตรงนี้อีก

“ห้ะ?” เจียงเสี่ยวไป๋โซซัดโซเซไปมา เอียงซ้ายทีขวาที จาก นั้นถามด้วยท่าทางอันขี้เกียจ “แล้วให้ฉันไปนอนที่ไหนล่ะ? ไป นอนในห้องคุณเหรอ?”

คำพูดของเธอทำให้เซียวแทบจะหยุดหายใจไปทันที แต่ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอ มึนๆงงๆ แม้แต่ตัวเองก็คงไม่รู้ว่า กำลังพูดอะไรอยู่ ทำไมถึงมีผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ?

เซียวซู่หมดหนทางจนไม่รู้จะทำเช่นไร เห็นเธอนั่งเซไปมา ดู แล้วปวดหัวยิ่งกว่าเดิม จากนั้นจึงยื่นแขนออกไปจับไหล่เธอไว้ให้นั่งนิ่งๆ “หยุดเซไปเซมาได้แล้ว คุณฟังผมพูดก่อน

“อืมๆ…คุณพูดมาๆ… เจียงเสี่ยวไปไม่เยอีกต่อไป แต่ด้วย ความแรงมหาศาลของแขนเซียวซู จึงทำให้เธอล้มลงไปอยู่ใน อ้อมอกของเขา เมื่อรู้สึกตัวสองมือของเธอจึงคว้าชายเสื้อของ เขาไว้ จากนั้นก็พึงในอกของเขาและหลับตานอนต่อ

เซียวซู: ” “”

นี่เขายื่นมือออกไปช่วยประคองเธอไว้แท้ๆ แต่สุดท้ายผู้หญิง คน กลับ….!

“คุยกันดีๆได้ไหม?”

แม้ว่าเจียงเสี่ยวไปไม่ได้ตอบอะไร แต่เซียวซูรู้ดีว่าไม่มีทาง เป็นไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ