เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1145 ทําอะไรไม่ถูก



บทที่1145 ทําอะไรไม่ถูก

ประโยคนี้ทำให้เสี่ยวหมี่โต้วชะงักไปทันที

เขาคิดแค่ว่าอยากจะไล่ผู้ชายคนนั้นออกไปจากข้างกายน้ เสี่ยวเหยียน แต่กลับไม่ได้คิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่านั้น ถ้าหาก ผู้ชายคนนั้นจากไปเพราะโกรธแค้นในคำพูดของเขา แล้วออก ไปพูดกับคนข้างนอก จะทำให้ชื่อเสียงของน้าเสี่ยวเหยียนเสีย หาย

ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะคิดไม่ถึง แต่เขาก็รู้สึกว่าคำ พูดของคนนอกไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจ ยังไงชีวิตก็เป็นของ ตัวเอง อีกอย่างคนที่น้าเสี่ยวเหยียนชอบก็คือคุณน้า สิ่งที่ใส่ใจ จะต้องเป็นแค่คุณน้าคนเดียวเท่านั้น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวหมี่โต้วก็เถียงกลับไป

“น้าเสี่ยวเหยียนไม่ใช่คนที่จะใส่ใจสายตาคนอื่นหรอก”

“แล้วพ่อแม่ของเธอล่ะ”

เสี่ยวหมี่โต้ว “

หานชิงหยิบกุญแจแล้วลุกขึ้น “ตอนนี้รู้หรือยังว่าทำไมฉันถึง ปฏิเสธ ลุกขึ้นได้แล้ว จากนี้ไปอย่าก่อเรื่องแบบนี้อีก ถ้ามีครั้ง หน้าอีก ฉันจะส่งนายไปอยู่กับพ่อของนาย ให้เขามาสั่งสอนนาย ด้วยตัวเอง”
ดูว่าเขายังจะบอกว่าเขาเป็นคนเลวอีกหรือไม่

เสี่ยวหมี่โต้วเดินตามหานซึ่งออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก ใจดวง น้อยๆยังคงรู้สึกไม่พอใจ ทำได้แค่พูดว่า “คุณน้าต้องเชื่อผมนะ คุณลุงคนนั้นไม่บริสุทธิ์ใจจริงๆ ตอนที่ผมไปที่ร้าน เขาบอกเสียว หมี่โต้วว่าร้านนั้นเป็นของเขา

พอฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดหานซึ่งก็ต้องชะงัก ก่อนจะหรี่ตา “นาย พูดจริงเหรอ ?”

“จริงฮะคุณน้า ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็เลยไม่ชอบเขา เขายังไม่ ได้แต่งานกับน้าเสี่ยวเหยียนเลยแต่กลับบอกว่าร้านราเมนเป็น ของเขา ร้านราเมนเป็นหยาดเหงื่อแรงกายของน้าเสี่ยวเหยียน

หานซึ่งไม่ได้ตอบเสี่ยวหมี่โต้ว แต่ภายในใจก็มีการคิด คํานวณไว้แล้ว

“เข้าใจแล้ว เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง นายไม่ต้องยื่นมือเข้ามา เกี่ยว”

หลังจากกลับบริษัทแล้ว หานซิงก็เรียกตัวซูจิ๋วมา ให้เธอไป ตรวจสอบคนคนหนึ่ง

ตอนแรกซูจิ๋วไม่รู้ว่าเขาให้ไปตรวจสอบใคร หลังจากถาม อย่างละเอียดแล้ว ถึงได้รู้เหตุผล จากนั้นก็อดล้อหานชิงไปคำ หนึ่งไม่ได้

“ในที่สุดประธานหานก็ยอมยื่นมือเข้าไปช่วยแล้วเหรอ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หานซึ่งก็มองไปทางเธอด้วยสายตา เคร่งขรึม

ซูจิ๋วยิ้มแล้วพูดว่า “ถามค่าหนึ่งก็ไม่ได้เหรอ เอาเถอะ ฉันจะไป ตรวจสอบให้ อีกไม่นานก็ทราบผล

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนกลับไปที่ร้านราเมนแล้ว อารมณ์ก็หดหู มาก หลี่ซื้อบ้านพยายามพูดกับเธออยู่หลายครั้งเธอก็ไม่สนใจ เขา หรือไม่ก็ไม่ได้ยิน

ทำเอาหลี่ซือห้านเริ่มรู้สึกท้อแท้ขึ้นมา

“เธอโทษฉันอยู่ใช่ไหม ที่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารมื้อนั้น

เมื่อได้ยินแบบนั้น เสี่ยวเหยียนก็ตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเอง ทำเกินไปอยู่บ้าง ก็เลยพูดอธิบายว่า “ไม่ใช่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คุณ ฉันก็แค่เหนื่อยที่วิ่งออกไป อีกอย่างฉันก็เคยบอกแต่แรก แล้ว คุณกับเสี่ยวหมี่โต้วไม่ใช่ทั้งมิตรหรือศัตรู ไม่มีหน้าที่ต้องไป เลี้ยงข้าวเขา ดังนั้นให้ฉันเป็นคนออกค่าอาหารก็เป็นเรื่อง ธรรมดา”

“แล้วเธอ ยังมีเงินเหลืออยู่หรือเปล่า มื้อนั้นใช้เงินมากขนาด นั้น เธอ……

“ไม่เป็นไร” เสี่ยวเหยียนยิ้มบางๆ “ฉันมีร้านนี่นา มีเงินเข้าทุก วันอยู่แล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง

หลี่ซือห้านแอบคิดในใจ ช่างมีเงินจริงๆนะ ดูท่าคนแนะนำจะพูดไม่ผิด เสี่ยวเหยียนผู้หญิงที่ร่ำรวยจริงๆ

“วันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ” เสี่ยวเหยียนเองก็รู้สึกเกรงใจอยู่ บ้าง เห็นเวลาก็ไม่เช้าแล้ว เลยให้หลี่ซือห้านกลับไปพักผ่อนก่อน

ถึงแม้ในใจของหลี่ซือห้านจะไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้ารับ “ได้ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันค่อยมาหาเธอนะ

“อืม เดินทางระวังด้วยล่ะ”

รอจนเขาไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ทิ้งตัวลงทันที

เงินก็หาไม่ได้ แล้วยังออกไปตั้งหลายหมื่น แค่คิดก็รู้สึกทุกข์

ร้อนแล้ว จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ตอนขากลับทำไมถึงไม่เอา ไวน์ขวดนั้นมาด้วยนะ ไม่ว่าอย่างไรนั่นก็เป็นไวน์ที่ราคาสามหมื่นกว่าหยวนเลยนะ

เธอจ่ายเงินแล้วแต่กลับไม่เอากลับมาด้วย เธอโง่หรืออย่างไร

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่

กลางคืนตอนปิดร้าน เสี่ยวเหยียนกับหลัวหุ้ยเหม่ยก็เตรียมตัว จะกลับบ้านพร้อมกัน แต่ตอนออกมากลับเห็นรถของหานชิงจอด อยู่ไม่ไกลนัก ส่วนเขาก็ยืนอยู่ข้างรถ ร่างสูงเพรียวยืนตัวตรง ใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมามากมาย

พอเห็นเขา หลัวหุยเหม่ยก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมอง ลูกสาวของตัวเอง

วันนี้พอลูกสาวตัวเองกลับมาก็ไม่ปกติ เธอลองคิดๆดู อาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้

ตอนนี้พอเห็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้อีกครั้ง ก็เลยเชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นพวกเธอ หานซิงก็ก้าวเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าของคนทั้งสอง

“คุณป้าสวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว”

หลัวหุ้ยเหม่ยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มให้เขาอย่างสุภาพ “นั่นสินะ มาหาลูกสาวฉันเหรอ ?”

หานชิงเผยรอยยิ้มบาง แล้วพยักหน้า “ผมมีเรื่องส่วนตัวอยาก จะคุยกับเธอหน่อยครับ”

“ได้จ่ะ งั้นพวกคุณคุยกันนะ ฉันจะไปอีกทาง

เสี่ยวเหยียน “คุณแม่คะ อย่าไปนะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเขา” “เหยียนเหยียน ครั้งก่อนแม่บอกลูกแล้วใช่ไหม ว่ามีอะไรให้ เปิดอกคุยไปเลย ไม่ว่าต่อไปจะเป็นคนแปลกหน้ากันหรือไม่ ตอน นี้ก็ต้องแก้ปัญหาให้จบเสียก่อน ถูกไหม ทำใจให้สงบหน่อย ลูก เป็นลูกสาวของหลวหุยเหมยนะ ถ้าเขากล้ารังแกลูก แม่ไม่มีทาง ปล่อยเขาไว้แน่”

เสี่ยวเหยียน

“เอาล่ะ พวกเธอไปคุยกันเถอะ คนหนุ่มสาว ฉันกลับบ้านก่อน นะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณจะพาลูกฉันไปส่งถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัย”

หานชิงพยักหน้า “แน่นอนครับคุณป้า

หลังจากหลัวหุยเหมยไปแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ยืนหลับตาอยู่กับ ที่ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ที่หนึ่ง

“ค่าข้าวฉันก็จ่ายแล้ว แล้วก็พูดกับคุณชัดเจนแล้วด้วย ต่อไป

ฉันจะไม่ตอแบคุณอีก แล้วคุณยังคิดจะเอายังไงอีก

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่ายและอ่อนล้า ไม่ ได้เบนสายตาไปมองเขาแม้แต่น้อย

หานชิงรู้สึกค่อนข้างหน่ายใจ ริมฝีปากบางเม้มแน่นขึ้นหลาย ระดับ

“ฉันรู้แล้ว แต่ฉันรู้สึกว่ามีบางเรื่องที่เธอจำเป็นต้องรู้”

เสี่ยวเหยียนเงยหน้า แล้วมองเขม็งไปที่เขา

“คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่

“ไปคุยกันในรถ” หานซิงพูดเสนอขึ้น อย่างไรที่นี่ก็มีผู้คน สัญจรมากมาย แล้วยังหันมาจ้องพวกเขาเป็นครั้งคราวด้วย บรรยากาศการพูดคุยแบบนี้หานซึ่งไม่ชอบเป็นอย่างมาก ที่ สําคัญก็คือ เขาอยากให้เสี่ยวเหยียนสงบลงบ้าง

“ไปคุยกันในรถ ?” เสี่ยวเหยียนมองไปทางรถที่อยู่ด้านหลัง เขาทีหนึ่ง จากนั้นก็เผยแววตาเยาะเย้ยออกมา “แบบนี้ไม่ดีมั้ง ประธานหาน ยังไงฉันก็เป็นคนไม่รักษาอนามัย อีกอย่างฉันก็ทํางานในร้านราเมนมาทั้งวัน บนตัวทั้งสกปรกทั้งเหม็น ถ้าขึ้นไป บนรถคุณ แบบนั้นจะไม่เป็นมลพิษต่อคุณเหรอ ฉันว่าเลิกคิด เถอะ”

ประโยคพวกนี้ฟังแล้วเสียดแทงหู ทำให้ทานซิงรู้สึกไม่ชอบใจ

“เธอต้องพูดแบบนี้กับฉันด้วยเหรอ”

“งั้นคุณอยากให้ฉันพูดแบบไหนล่ะ” เสี่ยวเหยียนออกมา แล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าว แล้วจ้องเขาอย่างประหลาดใจ “พูด คำเยินยอคุณเหรอ แบบนั้นคุณอาจจะชอบฟังก็ได้

หานซึ่งเม้มปาก สีหน้าเคร่งขรึม บรรยากาศรอบตัวก็เย็นลง

เช่นกัน เขาคิดไม่ถึงว่า เรื่องในคืนนั้นจะหลายมาเป็นแบบนี้ได้ แก้ไข

อะไรไม่ได้แล้วหรือ

“คืนนั้น ฉัน……”

“ถ้าเกิดประธานหานอยากจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นใน คืนนั้น งั้นก็ไม่จําเป็นต้องพูดอะไรแล้ว ตัวฉันเข้าใจทุกอย่างดี ไม่ จําเป็นต้องรบกวนคุณ

เสี่ยวเหยียนก้าวถอยหลังอีกหลายก้าว เอามือปิดหูท่าทางไม่ อยากจะฟังเขาอธิบาย

ฉากนี้ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ประธานบริษัทตระกูลหานทั้งคน แต่กลับถูกสาวน้อยคนหนึ่งในหัวจนทำอะไรไม่ถูก น่าขันเป็น ที่สุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ