เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่170 ไม่ได้สนใจเธอ



บทที่170 ไม่ได้สนใจเธอ

เสิ่นเฉียวเคยได้ยินหานเส่โยวพูดถึงเรื่อง ของพี่ใหญ่ของเธอ ในคำพูดของเธอแสดงให้ เห็นว่าพี่ใหญ่ของเธอเย็นชากับเธอมาก ชอบ กังวลว่าเธอเป็นน้องคนสุดท้ายที่พี่จะนึกถึง ดัง นั้นก็เลยไม่ได้รับความสำคัญ

ตอนนั้นเสิ่นเฉียวยังเคยปลอบหานเส่โยวอ ยู่เลย หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหานเส่ โยว เธออารมณ์ฉุนเฉียวง่ายอย่างแปลก ประหลาด

ตอนนั้นหานชิงถามขึ้นมา ในฐานะที่เสิ่น เฉียวเป็นเพื่อนสนิทของหานเส่โยว ก็อยากจะพูด แทนเธอเป็นธรรมดา

ดวงตาของหานชิงลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ สนใจคำพูดของเธอ

ต่อมา เขาถามเธอ “ถ้ายังงั้นคุณก็รู้เรื่อง ของเธอทุกเรื่องเลยหรอ? เรื่องของคุณเธอก็รู้ หมดเหมือนกัน? ”

ถึงแม้เสิ่นเฉียวจะไม่เข้าใจว่าคำถามนี้มัน หมายความว่าอะไร แต่ก็พยักหน้า
เธอกับหานเสีโยวไม่ได้แบ่งเรื่องเธอกับฉัน อยู่แล้ว

ในรถเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง หานชิงไม่ได้ พูดอะไร เสิ่นเฉียวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับฝ่าย ตรงข้ามเหมือนกัน

เป็นแบบนี้ตลอดทั้งทางจนถึงที่หมาย ตอน ที่รถจอดลงนั้น เสิ่นเฉียวมองออกไปด้านนอก แล้วก็กล่าวขอบคุณหานชิง ” ขอบคุณประธาน หานนะคะที่ให้ฉันติดรถมาด้วย ฉันไปก่อนนะคะ”

หลังจากเสิ่นเฉียวพูดจบก็เปิดประตูรถ ตอน ที่ก้มหัวกำลังจะลงจากรถนั้น จู่ๆ หานชิงกลับ เรียกชื่อของเธอไว้

“คุณหนูเสิ่น เพิ่มเพื่อนในวีแชทได้มั้ยครับ?

คำถามของหานชิงทำให้เสิ่นเฉียวหยุด

การกระทำในทันที แม้แต่ซูจิ๋วที่อยู่ด้านข้างยังอด ไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลงออกมา เธออยู่กับหานชิง มาตั้งหลายปี เคยเห็นเขาใช้แอปพลิเคชันอย่างวี แชทที่ไหนกัน? ”

ตอนนี้กลับมาใช้โซเชียลแอปพลิเคชัน เพราะว่าคุณหนูเสิน เขาใช้เป็นงั้นหรอ?
เสิ่นเฉียวคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ หานชิงจะ….ผ่าน ไปนานถึงตั้งสติได้ เขาอาจจะอยากถามตัวเธอ เองเกี่ยวกับน้องสาวของเขาใช่มั้ย? ดังนั้นเสิ่น เฉียวจึงบอกเลขวีแชทของตัวเอง ใครจะไปคิดว่า จู่ๆ หานชิงจะส่งโทรศัพท์มาให้ “ช่วยแอดให้ผม หน่อย”

“…”เสิ่นเฉียวได้แต่รับมา โทรศัพท์ของ เขาเย็นชัด เสิ่นเฉียวเห็นว่าจริงๆ แล้วบัญชีผู้ใช้ ของเขานี้พึ่งสมัครใหม่ เธอไม่กล้าดูอะไรเยอะ กลัวว่าจะไปเห็นอะไรในโทรศัพท์เขาที่ไม่ควรจะ เห็นเข้า ดังนั้นก็เลยใส่ไอดีวีแชทของตัวเอง หลัง จากเพิ่มเพื่อนเสร็จแล้วก็ส่งคืนให้หานชิง

“เสร็จแล้วค่ะประธานหาน”

“อืม” หานชิงพยักหน้า แล้วก็เก็บโทรศัพท์

“ถ้ายังงั้น ….ฉันไปก่อนนะคะ วันนี้ต้อง ขอบคุณมาก” ตอนนี้เองเสิ่นเฉียวถึงออกมาได้ อย่างราบรื่น

หลังจากที่เสิ่นเฉียวไปแล้ว ซูจิ๋วก็จ้องหาน ชิงอยู่นานมาก อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ ได้พูดออกมา

“มีปัญหาอะไร? ” หานชิงมองเธอ
ซูจิ๋วตั้งสติกลับมา กระแอมเล็กน้อย “ประธานหาน คุณใช้วีแชทเป็นหรอคะ? ”

หานชิงนิ่งไป หลังจากนั้นก็มองหน้าเธอ ด้วยสายตาเย็นชา “กำลังศึกษาอยู่”

ซูจิ๋ว : “.ต้องการให้ฉันช่วยสอนอะไรมั้ย

คะ?”

“ไม่ต้อง พื้นฐานฉันพอใช้ได้อยู่”

หลังจากหานชิงพูดจบก็ไม่สนใจซูจิ๋วอีก เอนหลังและหลับตาพักผ่อน ซูจิ๋วก็ไม่ได้พูดอะไร

อีก

เธอได้แต่สงสัยอยู่ในใจ ท่าทางที่หานชิง ปฏิบัติต่อเสิ่นเฉียวนั้นแปลกมาก สายตาของเขา ไม่เคยละจากเสิ่นเฉียวเลยนั่นคือเรื่องจริง แต่ว่า สายตาที่เขามองเสิ่นเฉียวนั้นไม่ได้มีความรู้สึก ชายหญิงเลยสักนิด เธอไม่เข้าใจเลยว่าสรุปแล้ว มันเรื่องอะไรกันแน่

อีกหลายวันผ่านไป เสิ่นเฉียวก็เริ่มคุ้นเคย กับงานบริหารห้างสรรพสินค้าขึ้นมากเรื่อยๆ งาน เลี้ยงประจำปีของบริษัทตระกูลเย่ก็ใกล้เข้ามา เรื่อยๆ พนักงานบริษัทก็เริ่มเตรียมการแล้ว แผนก ทั่วไปของเธอก็ต้องช่วยอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา
ตอนนี้สถานที่จัดงานถึงงานค่อนข้างหนัก ก็ จะเลือกคนจากแผนกบางคนมาช่วยเหลือ

เพราะว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเฉียวทำให้สวี่เลี่ยว ไม่พอใจ เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าต้องมีชื่อเธออยู่ ในนั้น แล้วก็ยังมีกาวหยุนและชุยหมิ่นลี่ด้วย

ตอนที่ไปถึงที่จัดงานนั้น พนักงานก็เรียกให้ พวกเธอไปสูบลูกโป่ง ถึงแม้ว่าทั้งสามคนจะอยู่ใน แผนกเดียวกัน แต่ว่ากาวหยุนกับชุยหมิ่นลี่รวมตัว กัน แล้วก็ทิ้งเสิ่นเฉียวไว้อีกด้านหนึ่ง

“สวี่เลี่ยวนี่จริงๆ เลย ทำไมเขาถึงไม่เห็นแก่ หน้าของพี่เฉียงเวยแล้วก็ดูแลพวกเราให้ดี หน่อย? นึกไม่ถึงเลยว่าจะเรียกพวกเรามาทำงาน หนักอีก สรุปแล้วเขาคิดอะไรกันแน่? ”

ชุยหมิ่นลี่สูบลูกโป่งไปด้วย แล้วก็บ่นอย่าง หดหูไปด้วย

กาวหยุนเม้มปาก ชำเลืองมองเสิ่นเฉียวที่ อยู่ไม่ไกลนัก เธออยู่ตัวคนเดียว แต่พวกเธอกลับ มารวมอยู่ด้วยกัน

พอคิดแบบนี้ กาวหยุนก็ยกริมฝีปากขึ้น “บางที ไม่แน่ว่าสวี่เลี่ยวอาจจะจงใจก็ได้นะ”

“จงใจจริงๆ หรอ? ไอ้เลวนี่! ” “ชุยหมิ่นลี่โกรธจนทุบอย่างแรง แต่ว่าลูกโป่งนั้นเติมลมเต็ม แล้ว พอโดนทุบก็ลอยออกไป ก็เลยไม่สามารถ ระบายอารมณ์ได้

กาวหยุนกลับหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เธอจะรีบโกรธไปทำไมกัน? ตอนนี้พวกเราก็รวม กลุ่มกันอยู่ไม่ใช่หรอ?”

“รวมกลุ่มกันแล้วยังไง? นึกไม่ถึงเลยว่าจะ ให้พวกเรามาทำเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรแบบนี้เลย ฉันโกรธจะตายอยู่แล้ว สวี่เลี่ยวบ้าไปแล้วจริงๆ เดี๋ยวกลับไปฉันจะฟ้องพี่เฉียงเวย”

“ชุยหมิ่นลี่ สมองของเธองอกที่เท้าหรือยัง ไง ที่ฉันพูดเธอไม่ได้ยินหรอ? สวี่เลี่ยวเลือกเฉียว ให้มาที่นี่ แล้วก็เลือกพวกเรามา ก็เพราะว่าจงใจ จะให้พวกเรา…จัดการเธอหน่อยไง”

ชุยหมิ่นลี่ : “หา? ”

“หาอะไรกัน? เธอโง่หรือยังไง แค่นี้ก็ไม่ เข้าใจหรอ? สวี่เลี่ยว ฟังคำพูดของพี่เฉียงเวย แล้วก็มอบโอกาสให้พวกเรานี่ไง”

พอได้ยินกาวหยุนอธิบายแบบนี้ ชุยหมิ่นลี่ก็ สามารถตั้งสติได้ “ที่แท้ก็แบบนี้เองงั้นพวกเราใช้ โอกาสนี้ในการจัดการเธอดีมั้ย? ”
ไม่ต้องรีบไปหรอก กว่าจะถึงงานเลี้ยง ประจำปีก็เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งเดือนแหนะ เราจะ ได้จัดให้เธอชุดใหญ่ ให้เธอได้รู้ว่า….พวกเรา

ไม่ใช่คนที่จะมายั่วยุได้” ชุยหมิ่นลี่พอได้ยินว่าจะได้แก้แค้นเสิ่น เฉียว ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก กาวหยุนนั้นเป็นคนที่มอง

ไปทางด้านหน้าเท่านั้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวก็ผ่าน ไปอาทิตย์หนึ่งแล้ว

เพราะว่าไปช่วยงาน ทุกวันไม่ใช่แค่ต้องไป ช่วยงาน บางทีก็ต้องออกแดดด้วย กาวหยุนและ ชุยหมิ่นลี่ดำขึ้น แต่เสิ่นเฉียวกลับไม่ดำขึ้นเลย ผิว ที่ขาวและอ่อนโยนเป็นที่น่าอิจฉา

กาวหยุนและชุยหมิ่นลี่อิจฉามาก

และในใจของสวี่เลี่ยวแล้วนั้นเมื่อเอาพวก เธอทั้งสามคนมาเปรียบเทียบกัน ก็ยังรู้สึกว่าสิ้น เฉียวเป็นของที่หายาก ทำให้ในใจของเธอยิ่งคิด ที่อยากจะก่อการร้ายมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

ดังนั้นเขาก็เลยอ้างเรื่องแผนเร่ง เรียกเสิ่น เฉียวมาจากสถานที่จัดงาน

“เสี่ยวเสิ่น ช่วงนี้เหนื่อยมากมั้ย?”
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเย็นชา “ยังดีอยู่ค่ะ”

สวี่เสี่ยวก้าวขึ้นมาด้านหน้าสองก้าว แล้วก็ ยื่นมือไปตบไหล่เธอ แต่ว่ามือยังไม่ทันจะแตะ โดนเธอ เสิ่นเฉียวก็ถอยหลังไปสองก้าว “หัวหน้า คะ เรียกฉันมามีธุระอะไรรึเปล่า?”

“ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก ก็แค่อยากจะมา ดูเธอหน่อย ว่าเหนื่อยมั้ย ถ้าเกิดว่าเหนื่อยเกินไป ล่ะก็ เธอสามารถขอร้องฉันได้นะ หัวหน้า…. สามารถให้เธอกลับไปได้นะ”

เสิ่นเฉียว : ” ..ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันอยู่ที่นี่

สบายดีมากๆ”

ที่แท้เขาก็ยังไม่ยอมแพ้

สวี่เลี่ยวอึ้งไป หลังจากนั้นก็ถอนหายใจ อย่างหมดหนทางแล้วก็ส่ายหัว “เสี่ยวเสิ่น ฉัน เห็นผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างเธอมาเยอะมาก แต่ว่า มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น การเหน็ดเหนื่อยเล็กๆ น้อยๆ นี้เธออาจจะรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไร แต่ว่า อนาคตล่ะ? ถ้าเกิดว่าต้องมารับความลำบากแบบ นี้ทุกวัน หรือว่ายังลำบากกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า จนถึงตอนนั้นเธอจะยังรับไหวมั้ย? คนฉลาดคือ คนที่รู้จักปรับตัว แทนที่จะต้องมานั่งเสียใจกับ ความลำบากในอนาคต ไม่เท่าตอนนี้เธอไปกับฉันเถอะ”

“หัวหน้าสวีพูดตลกแล้วค่ะ คนเราก็ต้องก้าว สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าฉันจะโดนลดตำแหน่ง แต่ว่า….ในใจของฉันกลับอยู่ในตำแหน่งสูงมาก สำหรับคุณแล้ว…ฉันไม่ได้สนใจจริงๆ ค่ะ”

สีหน้าของสวี่เลี่ยวเปลี่ยนไปทันที ชี้หน้า เธอด้วยความโกรธ “นี่เธอยังคงคิดว่าเธอยังคง กลับไปอยู่ตำแหน่งสูงได้อีกหรอ? เธอเนี่ยนะ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ