เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1015แค่ภาพด้านเดียว



บทที่ 1015แค่ภาพด้านเดียว

ฟังถึงตรงนี้แล้ว หาน จื่อยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจแล้ว

แต่พอเธอนึกโยงไปถึงการแสดงออกของเย่ ไม่เซ็นในก่อน หน้านี้ และคำพูดที่เขาพูดในตอนนี้ ก็พอคิดได้บ้างแล้ว

เมื่อเขาเห็นเพิ่งเสีโยว ถ้าความทรงจำได้รับการกระตุ้น งั้น ตอนนี้สิ่งที่เขาจําได้น่าจะเป็นความทรงจำเศษเสี้ยวที่เกี่ยวข้อง กับเมิ่งเส่โยว เพียงแต่เขาแค่เห็นเศษเล็กเศษน้อย ไม่ได้เห็น ทงหมด

ดังนั้น ถึงได้บอกกับเธอว่า เขากับเพิ่งเสีโยวไม่มีความ เกี่ยวข้องกันหรอ?

เพื่อพิสูจน์การคาดเดาของตัวเอง หานคู่จื่อจึงยิ้มและ สอบถาม: “ที่คุณพูดคือคนที่นอนอยู่ข้างในหรอคะ?”

เย่ไม่เป็นหน้าห้อยไว้ เม้มริมฝีปากไว้ แววตาตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปจากใบหน้าของหาน จื่อ กลัวจะพลาดสีหน้า ทุกอย่างบนใบหน้าเธอ

ถึงแม้เขาไม่ได้ตอบคำถามของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ หา นมู่จื่อก็รู้ว่าตัวเองเดาถูกแล้ว

“ถ้าคุณเห็นเธอถึงจำเรื่องพวกนี้ได้ล่ะก็………..น่าจะเป็น ความทรงจําเกี่ยวกับเธอแล้วค่ะ”
“ไม่ใช่ความทรงจําเกี่ยวกับเธอ

หานมู่จื่อประหลาดใจ: “แล้วคือ?”

“ผมเห็น ต่างหูสีชมพูคู่นั้น หาน จื่อเบิกตากว้างอย่างช็อก หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไร้

เหตุผล

ต่างหูสีชมพู

ไม่นึกเลย…………….นึกถึงเรื่องนี้

ตอนนั้นเพราะต่างหูคู่นี้ เธอยังได้ทะเลาะกับเย่โม่เซินไปรอบ นึง จากนั้นก็แตกคอกับเพิ่งเสีโยว แม้กระทั่งต่อมาตอนที่เยโม่ เซินเลือกต่างหูสีชมพูอีกคู่ให้เธอ หาน จื่อได้โยนต่างหูคู่นั้นทิ้ง โดยตรงเลย

เรื่องมันผ่านมานานหลายปี ตอนนี้เธอนึกขึ้นมาแล้วยังจํา ฝังใจอยู่เลย

คงจะเพราะสังเกตเห็นสีหน้าแววตาของเธอผิดปกติ เย่โม่เซ็น จับมือเธอให้แน่นยิ่งขึ้น หานคู่จื่อรู้สึกเจ็บจนดึงสติกลับมา ทีนี้ถึงนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอเก็บความจำฝังใจของแววตาไว้

“เรื่องพวกนี้ผ่านไปนานมากแล้ว ที่คุณเห็น………เป็นแค่ภาพ ด้านเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องอธิบายอะไรกับฉัน หรอกค่ะ ฉันรู้อยู่”

เซียวซูยืนฟังคำสนทนาของทั้งคู่อยู่ข้างๆ ก็นึกถึงเรื่องของตอนนั้นได้ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก: “เอ่อคุณนายน้อย พอ พูดถึงเรื่องนี้ผมก็อารมณ์ขึ้นเลย ตอนนั้นต่างหูคู่นั้นคือคุณชายเย ซื้อมาอยากมอบให้คุณนายน้อย

แต่ตอนนั้นเพิ่งเส่โยวไม่รู้เป็นอะไร ได้ขโมยต่างหูคู่นั้นไป ต่อ มายังใส่ต่างหูคู่นั้นไปพบคุณนายน้อยอีก!”

หานมู่จื่อ ”

เธอเงยหน้ามองเซียวซูด้วยแววตาตะลึงงัน ตอนนั้นเธอคิดมา ตลอดว่า เย่ ไม่เป็นเชื่อคำพูดของเพิ่งเสีโยว ดังนั้นจึงได้เอาต่างหู

ตอนนั้นเธอเลือกที่จะเชื่อเย่ไม่เป็นมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น เลยไม่ได้ไปเดาเป็นอย่างอื่น

แต่หานมู่จื่อรู้ นี่ถือเป็นปมในใจของเธอ

คิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อหลับตาเบาๆ สงบอารมณ์ตัวเองไปครู่นึง จากนั้นถึงเอ่ยปากพูดอย่างช้าๆ “ถ้าไม่มีโอกาสเข้าใกล้ แล้ว เธอจะมีโอกาสขโมยได้ยังไงคะ?”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่ โม่เป็นขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก เขากุมมือ ของหานมู่จื่อไว้แน่น

“มู่จื่อ!”

“คุณนายน้อยครับ………..

“ไม่เป็นไร สิ่งที่ฉันพูดในตอนนี้ก็แค่เป็นเรื่องของอดีต ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นยังไง ยังไงซะนั่นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้วหา

นมอยิ้มอย่างเรียบเฉย สีหน้าแววบนใบหน้าดูแล้ว

เหมือนหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ ดูใส่ใจ เลย แต่แล้วเธอที่เป็นแบบอยู่ในสายตาของ

อีกแบบนึง

เขาได้สูญเสียความทรงจำแล้ว ตอนฟื้นความทรงจำ มาส่วนน้อย แถมยังเป็นส่วนแฝงด้วยแรงอาฆาต แต่เห็นได้

สิ่งเขาเห็น กับที่เซียวซูพูดก็คนละเวอร์ชั่นกัน

คิดถึงตรงนี้ เย่โม่เซินเม้มปากแน่น หน้าเป็นเซียวซูที่คอยสำรวจสีหน้าคุณชายของตัวเอง สุดท้ายก็อดได้จะช่วยเขาพูด

“คุณนายครับ…….

หานจื่อเงยหน้าขึ้นมามองเซียวซู: คุณหมอได้บอกมั้ยว่า อาการของเธอเป็น

ได้ยินคำหน้าคุณชายของ

“คุณหมอบอกว่าปัญหาทางจิตสาหัสมาก ต่อจากต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลยาวเลย”

นอนโรงพยาบาลหรอ?

หานมู่จื่อพยักหน้า: “อืม ฉันรู้แล้ว”

“คุณนายน้อยกะจะให้เธอนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่เลยเหรอ ครับ?”

“ให้เธอพักเถอะ”

เธอก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว เวรกรรมตามสนองขนาดนี้แล้ว หา นมู่จื่อเลิกเกลียดเธอตั้งนานแล้ว แค่เห็นเธอเป็นคนน่าสงสารคน นิ่งเฉยๆ

ส่วนตัวเอง ก็แค่เป็นคนที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือเธอพอดี

เฉยๆ

“รู้แล้วครัว คุณนายน้อย ทางนี้ผมจะจัดการให้ดีเลยครับ นี่ก็ ไม่เช้าแล้ว คุณนายน้อยกับคุณชายเยกลับก่อนเถอะครับ?”

“โอเค”

หานมู่จื่อลุกขึ้นมาโดยตรง เตรียมจะจากไปโดยตรง เดินไป สองก้าวจู่ๆเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันมาดึงแขนเสื้อของเย่ไม่

เชิน

“ยังไม่ไปอีกหรอ?”

เย่โม่เซินขยับแววตาไปมา เดิมทีนึกว่าเธอโกรธและไม่อยาก สนใจตัวเอง จะจากไปเองโดยตรง ไม่นึกเลยว่าเธอจะหันมาถามเขา

มองดูตรงหน้ามือของเธอก็จะดึงกลับแล้ว เย่ไม่เป็นจับข้อมือ เรียวขาวของเธออย่างห้ามใจไม่ได้ จากนั้นก็ได้จับไว้แน่น หาน จื่อ: “……..….

เธอพยายามขัดขืนไปครู่นึง ไม่เพียงขัดขืนไม่หลุดจากมือเขา แต่กลับยังถูกเย่โม่เซินกำแน่นยิ่งขึ้น

หาน จื่อค่อนข้างจนปัญญา แต่ก็ยังเอ่ยปากพูด: “ไปค่ะ กลับ

ไปทานข้าว”

ในที่สุดหลังจากส่งทั้งคู่ไป เซียวซูได้แอบปาดเหงื่อไปทีนึง ที่ จริงเขาเองก็รู้สึกว่าคุณชายเยมีพิษ ก่อนหน้านั้นเคยเจอคนมา มากมาย ถึงแม้ทุกครั้งได้รับการกระตุ้น แต่ก็จำอะไรไม่ได้เลย

แต่ครั้งนี้เจอเมิ่งเสโยว ไม่นึกเลยว่าจะนึกถึงเรื่องไม่ดีของเมื่อ

ก่อน

ถึงเขาไม่ใช่คุณนายน้อย ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความกล้ำกลืน ของในนั้น

แต่เซียวซู่ไม่รู้สึกว่าเพราะเพิ่งเสีโยวสำคัญ ถึงได้สะกิดโดนเย่ โม่เซิน ต้องมีสาเหตุอื่นอีกแน่นอน

หรือว่า เพราะเกลียดชังคนๆนี้มากเป็นพิเศษ?

หรือว่า เพราะก่อนหน้านั้นถูกกระตุ้นมากเกินไป ตอนนี้ขอแค่ เห็นคนคุ้นเคย ก็จะค่อยๆ เรื่องบางเรื่องได้?
เซียวซูจมเข้าไปในการครุ่นคิด

ก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะหาโอกาสอธิบายเรื่องนี้ให้คุณนายน้อยฟัง มั้ย? ไม่งั้นทางฝั่งของคุณชายเยยังจําเรื่องอะไรไม่ได้เลย ทางฝั่ง ของคุณนายน้อยก็โกรธซะแล้ว

จากนั้นคุณชายเย่ยังไม่รู้จะอยังไงอีก

งั้นก็แย่แล้ว!

หลังจากหมายมั่นปั้นมือได้ เซียวซูก็ตัดสินใจ รอครั้งหน้ามี โอกาสจะต้องอธิบายเรื่องนี้ให้คุณนายน้อยฟังหน่อย

ยามราตรี

เซียวซูงานยุ่งมาทั้งวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จเตรียมตัวนอนลง ไป เย่โม่เซินกลับได้โทรหาเขา

“คุณชายเย?” เซียวซูค่อนข้างประหลาดใจ หลังจากกลับ ประเทศ น้อยมากที่คุณชายเย่จะโทรหาเขาในยามดึก ในทาง ด้านงานล้วนได้จัดการเสร็จในตอนเที่ยงโดยตรงแล้ว ดังนั้นตอนนี้เย่โม่เซินโทรหาเขา เซียวซูก็รู้สึกแปลกใจเล็ก

น้อยแล้ว

เสียงของเย่ไม่เป็นมาก ดังมาจากในสาย

“นายรู้เรื่องที่ผ่านมาของฉันกับมู่จื่อดีมาก?” ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เซียวหัวใจกระตุก ไม่นึกเลยว่าจะโทรมาเพราะเรื่องนี้?

“ไม่กล้าบอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่น่าจะรู้ประมาณแปดสิบ เปอร์เซ็นต์อยู่ครับ”

เพราะยังไงซะแต่ไหนแต่ไรเยโมเงินค่อนข้างไว้ใจเขา ไม่เคย ปิดบังเรื่องใดๆกับเขาเลย เพราะฉะนั้นเรื่องที่เขียวรู้ถึงเยอะ มาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ