เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1285 เธอเป็นผู้หญิงนะ



บทที่ 1285 เธอเป็นผู้หญิงนะ

เนื่องจากลูกชายคนโตของตระกูลเจียงประสบความสำเร็จทาง ธุรกิจนิดหน่อย ดังนั้นผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานจึงเต็มใจที่จะ ให้ศักดิ์ศรีแก่คุณหญิงใหญ่เจียง และให้ของขวัญ พูดจาดีๆด้วย อย่างไม่ขาดสาย

คุณแม่ของเจียงเสี่ยวไปไม่รู้ตัวเข้ามาข้างๆตัวเธอตั้งแต่เมื่อ ไหร่ และก็ยืนอยู่ด้วยกันทั้งสอง

แม่ลูกทั้งสองคนชำเลืองมองกันซึ่งกันและกันหนึ่งครั้ง แต่ไม่

พูดจา

กลับมีบทสนทนาเสียงแหลม ๆ แรกเข้ามาจากด้านหลัง

“พวกเธอดูคุณหญิงใหญ่เจียง ฉันได้ยินมาว่าสภาพ

ครอบครัวของเธอก่อนหน้านี้แย่มากๆ แต่ก็ยังให้กำเนิดลูกชาย

ตั้งสามคนอย่างสุดชีวิต ตอนนี้ลูกชายพยายามมุมานะไม่เป็น สองรองใครก็เลยเริ่มหยิ่งยโสแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ลูกๆยังเด็ก ใครจะไม่รู้ความเคราะห์ร้ายของคุณหญิงใหญ่เจียงคนนี้ละ ใบหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยากทุกวัน เป็นผู้หญิงที่ทั้งเชย และไม่ดูแลตัวเองหน้าตาน่าเกลียด เพราะเหตุนี้สามีของเธอจึง ทอดทิ้งเธอและหนีไป ”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ บางคนก็แอบหัวเราะเบา ๆ

“ถ้าอย่างนั้นยายแก่คนนี้ก็น่าเวทนาไปหน่อย เธอคิดว่าตัวเองให้กำเนิดลูกชายสามคนอย่างสุดชีวิต สามีก็จะเชื่อฟังและทำ ตามเธอทุกอย่างเหรอ? ใครจะไปรู้ว่าใช้ชีวิตอย่างน่าเกลียด มากเกินไป ขนาดสามีของเธอก็ยังหนีไป

“ใช่ แม้ว่าฉันจะไม่เคยเห็นเธอในอดีตมาก่อน แต่ว่าหล่อน ใบหน้าของเธอตอนนี้สิ มีริ้วรอยย่นตั้งมากมายเชียว”

เจียงเสี่ยวไปได้ยินการสนทนานี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น

มา

แม้ว่าเธอจะไม่ชอบคุณหญิงใหญ่เจียง แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับ ตัวเธอเอง ไม่ว่าเธอจะไม่ชอบมากแค่ไหน นั่นก็เป็นคุณค่าของ เธอ เป็นคุณแม่ของคุณพ่อเธอ

ในวันธรรมดาแม้ว่าเธอจะไม่ชอบคุณย่าคนนี้ แต่ก็ไม่เคยเอา ออกไปพูดข้างนอก

ดังนั้นเมื่อได้ยินใครบางคนวิพากษ์วิจารณ์อยู่ข้างหลังตัวเธอ เองนั้น ว่าคุณหญิงใหญ่เจียงเสียๆหายๆ เพียงเสี่ยวไปไม่ สามารถรับฟังได้โดยสัจธรรม เธอเหลือบมองไปที่ตู้เชียวหยู่ตาม จิตใต้สำนึกหนึ่งครั้ง ทั้งคู่สามารถมองเห็นอารมณ์นัยน์ตาของ กันและกันได้

ดูท่า คุณแม่ของเธอก็รู้สึกเหมือนกันกับเธอ

ทั้งสองสบตากัน จากนั้นก็หันตัว ยิ้มและมองไปที่คนทั้งสองที่ คุยกันอยู่

“วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าฉัน แต่ว่าการทำความสะอาดและสุขอนามัยของโรงแรมนี้ไม่ได้เรื่องเลย มีแมลงวันบิน ว่อนเต็มไปหมด เสียงดังจนทำให้ฉันปวดศีรษะมากๆ”

ทันทีที่เจียงเสี่ยวไปพูดออกมา คุณแม่เลี้ยงก็เข้าใจโดยทันที เห็นด้วยกับลูกสาวของตัวเอง ทำท่าทางสูดดมไปรอบ ๆ อย่าง เกินเหตุ แล้วอุทานว่า “เสี่ยวไปเธอลองดมดูสิ นี่มันกลิ่นอะไร นะ?”

คนซุบซิบทั้งสองคนมองเห็นการกระทำอย่างกะทันหันของแม่ และลูกทั้งสอง ตอนแรกถูกพวกเธอทำให้มึนงงไปหมด แต่ว่าต่อ มาก็ได้ยิน ตู้เชียวหยู่ พูดว่า “กลิ่นเปรี้ยวแรงมาก เสี่ยวไป เธอดู สสุขาภิบาลของโรงแรมนี้เกินไปจริงๆ แมลงวันมีตั้งเยอะ แถม ยังมีกลิ่นเปรี้ยวแรงขนาดนี้อีก ”

เจียงเสี่ยวไปพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ฉันก็ได้กลิ่นเหมือนกัน เหม็นเปรี้ยวมากๆเลย เอ๊ะ ไม่อย่างนั้นรอเลิกงานเลี้ยงแล้ว พวก เราค่อยไปฟ้องกันเถอะ พนักงานของโรงแรมนี้ทำงานสะเพร่า และไม่ตั้งใจมากๆเลย จะปล่อยแบบนี้ไว้ไม่ได้

พูดถูก วันนี้ตระกูลเจียงของพวกเราจ่ายเงินไปแล้ว ทำความ สะอาดไม่เรียบร้อย ปล่อยให้แมลงวันพวกนี้เข้าอยู่ที่นี่ ส่งผลต่อ ความอยากอาหารที่สุดเลย”

หนึ่งในสองคนที่ถูกว่านั้นก็โง่จริงๆ ได้ยินสิ่งพวกเธอสองคน พูด คิดไม่ถึงว่าจะมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ พูดอย่างแปลกใจว่า “มีแมลงวันที่ไหนกัน ทำไมฉันมองไม่เห็น ละ? และฉันก็ไม่ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ พวกเธอได้กลิ่นมาจาก…
เธอยังพูดไม่จบ ก็ถูกเพื่อนของเธอขัดจังหวะ “ไอ้โง่!” คนนั้นถูกเพื่อนของตัวเองด่าว่าไอ้โง่ไปหนึ่งคำ ก็กะพริบตา ปริบๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ไอ้โง่! ไม่ต้องมาขายหน้าคนอยู่ตรงนี้แล้ว สองแม่ลูกเจียง เสี่ยวไปกำลังตีวัวกระทบคราดอยู่ (หมายถึงว่าคนคนหนึ่ง โดยใช้ วิธีพูดจาเหน็บแนมในทางที่ไม่ดี) ที่ว่าก็คือพวกเรา!”

“พวกเรา!?”

“ใช่!”

ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับอย่างโมโห จากนั้นก็มองไปทางเจียง เสี่ยวไป๋ “ฉันว่านะเจียงเสี่ยวไป เธอจะออกทำไม? วันธรรมดา เธอก็อยู่ในอันดับที่สาม ถูกละเลยและได้รับสายตาเย็นชาจาก คุณหญิงใหญ่เจียงคนนั้นมาไม่ใช่น้อยไม่ใช่เหรอ? หล่อนหัว โบราณ เห็นว่าลูกชายสำคัญมากกว่าลูกสาว คุณพ่อของเธอให้ กำเนิดเธอเพียงลูกสาวคนเดียว เมื่อเทียบกับการที่เธอที่ให้ กำเนิดลูกชายสามคน เธอก็เป็นเหมือนหนาม ในตาของหล่อน ตอนนี้ฉันจะพูดสักคำสองค่านะ เธอจำเป็นต้องออกมาพูดด้วยเห รอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเสี่ยวไปก็เย้ยหยันอย่างดูถูก และเดิน ไปข้างหน้าสองก้าวเข้าใกล้เธอ ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“คุณป้าคนนี้พูดจาน่าตลกจริงๆ คุณพูดต่อหน้าฉันว่าตระกูลเจียงไม่ดี แล้วฉันไม่ใช่คนในตระกูลเจียงเหรอ? ได้ยินคุณพูด แบบนี้ฉันไม่ต้องซาบซึ้งในบุญคุณหน่อยเหรอ? คุณย่าของฉัน ปฏิบัติต่อฉันอย่างไร ตัวฉันเองรู้ดี แต่นั่นก็เป็นเรื่องฉันอย่าง เจียงเสี่ยวไป มันเกี่ยวอะไรกับนามสกุลอื่นของคุณ?

ตู้เชียวหยูเอนตัวไปตบไหลของเจียงเสี่ยวไป และพูดด้วยน้ำ เสียงอ่อนโยน “เสี่ยวไป ทำไมเธอพูดกับคุณป้าท่านนี้แบบนี้ ละ? รู้จักสุภาพหน่อยไหมเนี่ยเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นคนต่าง นามสกุลกับเรา แต่ถึงอย่างไรเธอก็ทานข้าวจนอิ่มแล้วไม่มีอะไร ทํา ชอบพูดข้อดีขอเสียของคนอื่น พวกเราต้องมีน้ำใจหน่อย ไม่ ต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ”

คําพูดของเธอฟังดูเหมือนจะใจกว้าง แต่กลับคมกริบเหมือน กับมีดเล่มหนึ่ง

ผู้หญิงถูกสองแม่ลูกอย่างเจียงเสี่ยวไปถูกโจมตี ในไม่ช้าก็ถูก

โจมตีจนพ่ายแพ้

“พวกแก คุณแกไม่เห็นแก่ความหวังดีจริงๆ นี่ฉันกำลังคืน ความอยุติธรรมให้พวกเธออยู่นะ!”

เจียงเสี่ยวไปถอนริมฝีปาก “มันคือการเป็นเดือดเป็นร้อนแทน คนอื่น เพื่อตอบสนองความคิดอิจฉาในใจคุณสินะ? คนเราเนี่ย นะ ล้วนแต่มีความคิดที่สกปรกเล็กน้อย แต่ว่าคุณต้องซ่อนมันไว้ ให้ดีด้วยตัวเอง ไม่ต้องแสดงออกมาตลอดเวลา เหมือนกับสถาน ที่ในวันนี้พูดจาอย่างไม่รู้จักกาลเทศะทุกคนคงรู้ดีแล้วว่า ฉันเจียง เสี่ยวไปเป็นคนอารมณ์ร้ายคนหนึ่ง ไม่แน่ถ้าคุณยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปฉันอาจจะทำสิ่งที่ตัวฉันเองไม่สามารถคาดเดาได้ ” ตู้เชียวหยู “เสี่ยวไป ใจเย็น ๆ หน่อย เธอเป็นผู้หญิงนะ ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบข้าง ” ”

ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลเจียงแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ที่ เก่งมากจริงๆ ให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งที่เรียกว่าคนเหี้ยมโหด ไม่รู้ว่าลูกชายคนสุดท้องของตระกูลเจียง ในวันธรรมดาอยู่ใน สถานะแบบไหนเดาว่าน่าอนาถแน่ๆเลย

ทุกคนคิดในใจ

และในเวลานี้ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลเจียง ซึ่งเป็นคุณ พ่อของเจียงเสี่ยวไป และเป็นสามีของ ตู้เชียวหยูก็เข้ามาที่นี่

เขาตามหาในฝูงคนก่อนตั้งนาน หลังจากเห็นภรรยาและ

ลูกสาวของตัวเองแล้วนั้น ก็ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นก็

รีบเดินไปข้างหน้าสองแม่ลูก

“เชียวหยู เสี่ยวไป ทำไมพวกเธอสองคนถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ ได้ เวลาไปฉลองวันเกิดให้คุณแม่แล้ว”

คุณพ่อของเจียงเสี่ยวไปก็คือเจียงเหยืนเคอ

แม้ว่าเจียงเหย็นเคอจะหน้าตาไม่โดดเด่นเท่าตู้เชียวหยู่ แต่ เขาก็เป็นคนที่ดูดี แถมยังรักสะอาดดูแลตัวเอง ไม่มีหนวดเครา ส่วนเกินบนใบหน้า และก็หน้าไม่มันเงาเหมือนผู้ชายส่วนใหญ่ ดู แล้วทำให้รู้สึกพอใจและเข้าตาดูน่าสนใจ จนกระทั่งยังมีเสน่ห์ มากหมู่ชายวัยกลางคน
เขาเป็นคนที่มีการศึกษาและมีวัฒนธรรม อยู่ต่อหน้าภรรยา ของตัวเองจะดูเซ่อซ่าเล็กน้อย และก็ยังเชื่อฟังค่าของภรรยาและ ลูกสาวอย่างมากอีกด้วย

ทุกคนคิดว่าเขาไม่มีสถานะในบ้าน แต่ใครจะรู้ว่าเจียงเสียว ไปจับแขนคุณพ่อของตัวเองอย่างไม่บอกไม่กล่าว และน้ำเสียง อ่อนโยนลงไม่น้อย “คุณพ่อ เมื่อสักครู่นี้มีคนอยู่ตรงนั้นมากเกิน ไป พวกเราก็เลยมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับทุกคนเรื่อยเปื่อยนี่นา”

เจียงเสี่ยวไปกอดแขนซ้ายของเจียงเหนเคอแน่น และตู้เชียว หยู่ก็คล้องแขนลงบนแขนขวาของเจียงเหนเคยตาม สัญชาตญาณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ