เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1116 พอจะชอบไหม



บทที่ 1116 พอจะชอบไหม

พอพูดมาถึงตรงนี้ ก็เข้าใจเนื้อหาข้างหลังได้อย่างชัดเจน ทุกคนไม่ได้คาดคิดว่าเสี่ยวเหยียนจะตบตีได้ แต่คำพูดไม่กี่คำ กลับทําให้พวกเธอหมดคำพูด

หลังจากนั้นไม่นานสาวร่างสูงก็พูดขึ้นมาว่า “อย่าคิดนะว่าคน ส่งอาหารอย่างเธอจะได้เป็นผู้หญิงของประธานหาน ถ้าวันหนึ่ง เขากินจนเอียนแล้วล่ะก็ เธอก็ต้องกระเด็นกลับไปจุดเดิม”

“ฉันมาส่งอาหารให้เขาก็เพราะฉันติดหนี้บุญคุณเขาที่ทำให้ ธุรกิจของเขาเสียหาย ส่วนเขาจะกินจนเอียนหรือไม่ นั่นมันเรื่อง ของฉัน มันเกี่ยวกับพวกเธอตรงไหน?”

“ฉันต้องขอตัวก่อน”

พอพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็เดินไปที่ลิฟต์

หลังจากที่เธอเดินจากไป ทุกคนก็มารวมตัวกันด้วยความไม่ พอใจ

แผนกต้อนรับถามอย่างระมัดระวัง “ทำไมยังไม่แยกย้ายกัน

อีก?”

“นี่แผนกต้อนรับ มันเกิดอะไรขึ้น? ไหนเธอบอกว่าเธอคนนั้น หน้าตาบ้านๆไง? อีกอย่างทำไมเธอยังได้ปากคอเราะรายขนาด นั้น?”
แผนกต้อนรับ “…ฉันไม่ได้บอกว่าเธอหน้าตาบ้านๆเสียหน่อย ฉันก็แค่บอกว่าจำไม่ได้ว่าเธอหน้าตาอย่างไรแค่นั้นเอง

“หน้าตาแบบนี้เนี่ยนะ เธอจําไม่ได้?

“เปล่า ฉันเป็นโรคจําหน้าคนไม่ได้

อันที่จริงเธอโกหก เพราะตราบใดที่เธอยืนยันว่าเป็นโรคจ หน้าคนไม่ได้ก็ไม่มีใครพูดว่าเป็นความผิดของเธอ และเธอก็ไม่ ต้องพูดต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป

“ช่างเถอะ ให้เธอได้ใจไปก่อนสักสองสามวัน ดูแล้วเธอคง หยิ่งยโสอยู่เอาการ ส่วนพวกเธอลองไปดูที่ร้านของเธอ ไปดูว่า ร้านอยู่ตรงไหน พอถึงตอนที่ประธานหานกินเบื่อแล้ว พวกเราก็ ไปเยี่ยมเธอที่ร้านเสียหน่อยแล้วกัน”

เสี่ยวเหยียนมาส่งราเม็งให้หานซิงตามที่สัญญาไว้ แต่เดิมเมื่อ วานนี้เธอจากไปโดยไม่ได้บอกลา ตอนที่เธอมาถึงวันนี้ก็รู้สึก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งพอผ่านเหตุการณ์ที่ชั้นล่างมาแล้ว เสี่ยวเหยียนก็พบว่าตอนนี้เธอไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว

อาจเป็นเพราะถูกทำให้โมโห ดังนั้นตอนที่เสี่ยวเหยียนเดิน เข้าไปจึงหน้าแดง ดวงตาของเธอดูเหมือนลุกเป็นไฟ

ไม่นานหาเชิงก็พบว่าเธอมีบางอย่างผิดปกติ

“เป็นอะไร?”
ในขณะที่ลุกขึ้น เขาก็เอ่ยถาม

เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็ผงะไปสักพัก จากนั้นก็ส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร

“แล้วทําไมต้องหน้าแดง?”

เสี่ยวเหยียนยืนมือมาแตะแก้มตัวเองซึ่งร้อนผ่าวอย่างเห็นได้ ชัด เธอมักจะเป็นเสียแบบนี้ พออารมณ์ขึ้นก็หน้าแดง ดังนั้นเธอ จึงลูบแก้มตัวเอง “น่าจะร้อนไปหน่อยน่ะค่ะ

หานซึ่งเหลือบมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง วันนี้พระอาทิตย์ ค่อนข้างใหญ่เล็กน้อย เขาจึงไม่ได้ถามลึกลงไปมาก

“ชุดราตรีนั่น เธอพอจะชอบไหม?”

เขาเป็นฝ่ายถามเรื่องเมื่อวานก่อน เสี่ยวเหยียนหน้าร้อนผ่าว อีกครั้ง ครั้งก่อนเป็นเพราะอารมณ์ขึ้น แต่ตอนนี้กลับพยักหน้า ด้วยความเขินอาย “ชอบ ชอบค่ะ..”

เธอพูดติดๆขัดๆเพราะความประหม่า

“พรุ่งนี้เธอไม่ต้องมาส่งของแล้วเพราะมีงานเลี้ยงตอนเย็น ตอนบ่ายฉันจะให้ซูจิ๋วไปรับ”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ค่ะ ได้ค่ะ”

ในขณะที่พูดคุยกัน เธอเอาแต่มองปลายเท้าของตัวเองตลอด เวลาเหมือนกับสัตว์น้อยขี้อาย ใบหูเป็นสีชมพู

“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ”
“อืม พรุ่งนี้เจอกัน”

“ค่ะ พรุ่งนี้เจอกัน” เสี่ยวเหยียนเงยหน้าแล้วมองเขาเงียบๆ พลาง โบกมือให้เขา จากนั้นก็เดินออกไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ถึงเวลาที่ซูจิ๋วต้องมารับเสี่ยวเห ขียน เธอมาถึงชั้นล่างของที่พักเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนเข้ามา ในรถพร้อมกับอุ้มถุงใบหนึ่ง

เมื่อจิ๋วเห็นว่าเสี่ยวเหยียนยังคงสวมชุดธรรมดาจึงเลิกคิ้ว ถาม “ทำไมเธอยังไม่เปลี่ยนชุด?”

เสี่ยวเหยียนกระแอมอย่างเขินอายพลางอธิบาย “เพื่อนบ้าน

ค่อนข้างเยอะน่ะค่ะ ถ้าขืนสวมชุดเดินออกมา ทุกคนจะเห็นกัน

หมด”

“กลัวอะไร ใส่ออกมาสวยๆยังจะกลัวคนมองอีกเนี่ยนะ?”

ไม่รู้จะอธิบายให้ซูจิ๋วฟังอย่างไร เสี่ยวเหยียนจึงไม่ได้พูดอะไร

อีก

“เอาเถอะ ฉันเข้าใจ ก็เธอยังเป็นสาวน้อยอยู่เลยเนาะ อาย บ้างก็เป็นเรื่องปกติ งั้นฉันจะพาเธอไปแต่งหน้าก่อนแล้วเดี๋ยวก็ ไปเปลี่ยนชุดที่นั่นเลยก็ได้

“ขอบคุณค่ะเลขาซู”

ซูจิ๋วขับรถต่อ ในขณะที่รอไฟแดง จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาว่า
อันที่จริงหลายปีมานี้ประธานทานไม่เคยควงผู้หญิงออกงาน

เลย”

“หม?” เสี่ยวเหยียนนิ่งไปสักพักพลางมองมาทางเธอ

ทำไมจู่ๆถึงพูดแบบนี้ล่ะ

“ยกเว้นฉันน่ะ แน่นอนว่า ในสายตาของประธานหาน ฉันไม่นับ ว่าเป็นผู้หญิงหรอก ฉันเป็นแค่ลูกน้องและเลขาแค่นั้นเอง”

“เนื่องจากสถานะของประธานหานค่อนข้างพิเศษ เพราะฉะนั้น ทุกคนในงานเลี้ยงจึงรู้ว่าเขาคือใคร มีผู้หญิงหลายคนจะเชิญเขา ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่เขากลับปฏิเสธไปหมด เธอรู้ไหมว่า ทำไม? เพราะทันทีที่เขามีผู้หญิงอยู่ข้างกาย หลายคนก็จะเริ่มเดา ถึงสถานะของผู้หญิงคนนั้นกันไปต่างๆนาๆ และผู้หญิงคนนี้ก็ได้ ผลประโยชน์จากการเป็นคู่ควงของประธานหาน ประธานหานจึง ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ”

เสี่ยวเหยียนกะพริบตา สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น เกินจินตนาการ

แรกเริ่มคือหลินสวี่เจิ้ง ต่อมาก็คือซูจิ๋วที่พูดคำพูดแปลกๆกับ เธอ ถึงอย่างไรเธอก็แยกแยะความคิดบางอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่เธอไม่กล้าคาดเดาว่าจริงหรือไม่

ถ้าจริง เหตุผลคืออะไร? เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อน กลัวว่าเธอจะคิดผิด กลัวว่าเธอจะคิดมากไปและเริ่มเข้าข้างตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเธอมองเห็นความหวัง คราวนี้จะต้อง ทำให้สําเร็จ

พอคิดได้ดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็ค่อยยิ้มออกมา “ขอบคุณที่คุณ พูดเรื่องนี้กับฉัน มันทำให้ฉันเข้าใจเขามากขึ้น

ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของซูจิ๋ว เธอก็คงไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ ซูจิ๋วมองเธออย่างขบขัน

“ที่ฉันพูดเรื่องพวกนี้ไปไม่ใช่เพราะอยากให้เธอเข้าใจเขา เสี่ยวเหยียนใบ้กิน

“ฉันก็แค่อยากให้เธอได้สติขึ้นมาบ้าง

“ได้สติ?”

“เฮ้อ สาวน้อยอย่างเธอทำไมถึงได้เข้าใจยากแบบนี้นะ คราว ที่แล้วก็บอกเธอไปบ้างแล้วไงว่าเธอน่ะเป็นคนพิเศษ ส่วนเรื่องใน คราวนี้ก็สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ฉันกำลังจะบอก ว่า บางทีในอนาคตเธออาจจะเป็นคนที่ประธานหานเดินเข้าไป หาตอนสุดท้ายก็ได้”

พอพูดถึงตรงนี้ ซูจิ๋วก็หันไปมองเสี่ยวเหยียนด้วยสายตาลึกซึ้ง “สู้ๆ เมื่อก่อนฉันเคยพยายามอย่างหนักมาเป็นเวลานานแต่ก็ไม่ เคยอยู่ในสายตาเขาเลยนอกจากเรื่องงาน ตอนนี้เธอต่างออกไป ถ้าท้ายที่สุดแล้วเธอจับเขาไว้ไม่ได้ ฉันจะดูถูกเธอ”
เดิมทีเสี่ยวเหยียนยังคิดว่าซูจิ๋วไม่ถูกชะตากับเธอ แต่ไม่คิด

เลยว่าซูจิ๋วจะใจกว้างขนาดนี้ แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจกว้างขวาง เสี่ยวเหยียน

ยิ้มตอบ “ฉันจะพยายามค่ะ!”

พอมาถึงสถานที่แต่งหน้า เสี่ยวเหยียนก็ไปเปลี่ยนชุดก่อนเป็น อันดับแรก หลังจากที่เธอเปลี่ยนชุดเสร็จ ช่างแต่งหน้าก็กวาดตา มองเธอที่สวมชุดราตรีอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็ถามว่า “ฉันควรจะ เสริมอะไรให้คุณสักหน่อยดีไหม?”

“เอ๊ะ?”เสี่ยวเหยียนไม่ตอบสนองไปสักพัก “เสริมอะไรคะ?” ซูจิ๋วยิ้มอย่างมีเลศนัยอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เธอดูเป็นสาวขึ้นมา หน่อยน่ะสิ!”

ที่ที่เธอจ้องอยู่ก็คือ…

ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็เข้าใจได้ เธอหน้าแดงพลางกอดตัว เองไว้และพูดอย่างอายๆ “ไม่ ไม่ต้องหรอกค่ะ

เนื่องจากช่วงนี้เธอผอมอยู่แล้วบวกกับสภาพจิตใจไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงยิ่งผอมลงไปมาก ร่างกายบางแห่งจึงลดลงเล็กน้อย แต่ ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่เคยให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลย ไม่คิดว่า พอเปลี่ยนชุดราตรีแล้วจะโดนเป็นแบบนี้…

ตอนที่นั่งลงแต่งหน้า ช่างแต่งหน้ายังถามเธอว่า

“คุณผู้หญิงไม่อยากเสริมจริงๆเหรอคะ? ถ้าเสริมแล้วจะทำให้ ดูสวยขึ้นนะคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ