เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 1122 คนเดียวสบายใจ



บทที่ 1122 คนเดียวสบายใจ

“ไม่เป็นไร แต่..” เสี่ยวเหยียนยังคงหันไปถามความเห็นของบริ กร

บริกรยิ้มให้ “ถ้าคุณจางยอมให้หล่อนนั่งด้วย ก็ตามเจตนา ของคุณจางเลยครับ แม้ว่าชิงช้าตัวนี้จะไม่เคยมีใครนั่งพร้อมกัน สองคนมาก่อน แต่ดูแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรครับ

“ไม่เคยมีใครนั่งสองคนมาก่อน?” เมื่อบริกรพูดมาเช่นนี้ เสี่ยวเหยียนรู้สึกตื่นตกใจขึ้นมาทันที

หล่อนไม่ได้กลัวตกลงมา เพียงแค่กลัวว่าจะทำให้ชิงช้าพัง เพราะนี่ไม่ใช่ของของหล่อน ให้หล่อนตัดสินใจคงจะดูไม่ดี

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เสี่ยวเหยียนจึงลงมาจากชิงช้า จากนั้นพูด ขอโทษกับซูเหยาเหยา “ขอโทษนะคะ ชิงช้าตัวนี้ไม่ใช่ของฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะให้เธอนั่งด้วยได้หรือไม่ ถ้า เธออยากนั่ง เธอตัดสินใจเองได้ตามสบายเลย

ซูเหยาเหยาะ

เดิมทีเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ซูเหยาเหยาไม่ได้คิดอะไรมาก หล่อน จะให้นั่งหรือไม่ก็ไม่เป็นไร หล่อนแค่อยากหาโอกาสเข้าใกล้ แอบถามเรื่องหล่อนกับหานชิงเท่านั้น

แต่ตอนนี้ล่ะ? คิดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวเหยียนจะให้หล่อนตัดสิน ใจเอง งั้นก็หมายความว่าหล่อนคืนอำนาจตัดสินใจให้หล่อนแล้ว และไม่ว่าผลของการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร สุดท้าย หล่อนก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

เห็นทีหล่อนคงดูถูกหญิงสาวคนนี้มากไปแล้ว หล่อนไม่ได้ซื้อ ใสเหมือนลักษณะภายนอก

ถ้าหล่อนอยากจะหยั่งเชิงถาม มันก็คงจะยากหน่อยใช่ไหม?

แต่ไม่นานนัก เหยาเหยาก็ตั้งสติขึ้นมาได้ ยิ้มและพูดตอบ “ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันยังขึ้นไปนั่งอีกก็คงไม่เหมาะสม เท่าไหร่ แต่ทำไมเธอถึงคิดอยากออกมาล่ะ? ฉันว่าในงาน ครึกครื้นมากเลยนะ

ขณะที่ซูเหยาเหยาพูดอยู่ หล่อนกลับเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้หิน อ่อนด้านข้าง ชายกระโปรงยาวลากพื้น

เสี่ยวเหยียนเห็นเช่นนั้น จึงต้องเดินไปนั่งตรงข้ามหล่อน

กระโปรงของหล่อนไม่ได้ยาวขนาดนั้น คลุมเข่าพอดี เผยให้ เห็นเรียวขาอันสวยงาม เมื่อนั่งลงก็ไม่ทำให้ชายกระโปรงลาก

ฉากนี้ทำให้เห็นถึงความแตกต่างทั้งสอง ทำให้เหยาเหยา รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

หล่อนชอบชุดราตรีของเสี่ยวเหยียน เป็นผลงานของดีไซน์เนอ ร์คนหนึ่ง หล่อนชอบผลงานของดีไซน์เนอร์ผู้นี้มาก แต่ที่น่าขัดใจ ก็คือ…ผลงานของดีไซน์เนอร์คนนี้มีเพียงแบบละตัวเท่านั้น อีกทั้ง ยังไม่มีไซส์ที่หล่อนใส่ได้อีกด้วย
ถูกต้อง ชูเหยาเหยาเป็นคนที่มีรูปร่างค่อนข้างอวบ ทานน้อย แต่ยังคงอวบท้วม แต่หล่อนก็ไม่ยอมขยับออกกำลังกาย ดังนั้น จึงทำได้เพียงควบคุมตัวเองไม่ให้ทานของที่ทำให้อ้วน แต่บาง ครั้งหล่อนก็อดใจตัวเองไม่ได้ที่จะทานของหวานหรือของทอด พออ้วน เมื่อใส่กระโปรงแล้วก็ไม่พอดีตัว เผยให้เห็นถึงจุดที่ไม่ สวยงาม และขาของหล่อนยังใหญ่อีกด้วย

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผลงานของนักออกแบบท่านนี้จะดูดีและ เหมาะสมมากเมื่ออยู่บนเรือนร่างของเสี่ยวเหยียน

“งานเลี้ยงครึกครื้นมากจริงๆ แต่ฉันอยากอยู่คนเดียว สบายใจกว่า” เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะนั่งได้ไม่นาน ก็พูดอธิบาย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูเหยาเหยาก็ตั้งสติขึ้นมา ยิ้มให้ “ที่แท้ก็ เป็นแบบนี้ งั้นฉันก็เหมือนกับเธอ งานเลี้ยงช่างน่าเบื่อ ก็เลยออก มาเดินเล่น คิดไม่ถึงเลยว่าจะหลงทาง ถ้าเธอไม่ถือสาอะไร ฉัน ขอนั่งคุยกับเธอตรงนี้สักพักได้ไหม?”

จางเสี่ยวเหยียนพยักหน้าลงอย่างนอบน้อม: “ได้สิ

เพราะตอนที่เสี่ยวเหยียนออกมา หล่อนหยิบเค้กออกมาเยอะ มาก หล่อนก็ไม่อยากกินคนเดียวจนหมด จึงแบ่งเค้กให้ซูเหยา เหยาได้ทานด้วย

เมื่อเห็นเค้ก สีหน้าของซูเหยาเหยาเปลี่ยนไปทันที

“ไม่เป็นไร ฉันลดความอ้วนอยู่ ของพวกนี้แคลอรี่สูงเกินไป

“งั้นเหรอ?” เสี่ยวเหยียนมองดูขนมที่ตัวเองเอามา ดูเหมือนว่าแต่แคลอรี่สูงจริงๆ หล่อนครุ่นคิดไม่ลองชิมหน่อยเหรอ

ซูเหยาเหยาส่ายมือไปมา

ได้ งั้นฉันเกรงใจแล้วนะ วันฉันไม่ได้ทานอะไรเลย ฉันทานอะไรเต็มท้องสักหน่อย”

เมื่อพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็เริ่มทานด้วยความตั้งใจ

ตอนแรกเหยาเหยาคิดหล่อนเป็นคนแต่เมื่อได้ยินหล่อนบอกว่าวันยังไม่อะไร หล่อนเยาะเย้ยภายในใจมาทันที

อะไรกัน แท้คนกลัวอ้วนจนหิวกระหาย แล้วตอนนี้ยังกิน เค้กตรงอีก? เสแสร้งใครดู

เมื่อคิดเช่นนี้ ซูเหยาเหยาจึงพูดขึ้นเธอทานเค้กอยาก

ขนาดนี้ ไม่กลัวอ้วนเหรอ?

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าคงเป็นไรหรอก ฉันชอบทาน

เลย”

ก็กลัวว่าเยอะแล้ว ท้องจะป่องแค่นั้น

เหอะๆ เหยาเหยาหัวเราะเยาะอยู่ภายใจ ให้แสร้งต่อ ฉันทำให้เธอต้องขายหน้า

“เธอไม่ทานอะไรวัน ได้เป็นเพราะลดความอ้วนหรือไง?
เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูแปลกๆ จึงพยักหน้าลง “ยิ้ม กระโปรงตัวนี้ต้องพึ่งรูปร่างที่ดี ฉันไม่กล้ากินอะไรเพราะกลัวว่า ท้องจะป่องออกมา ดังนั้นก็เลยหิว แต่เดี๋ยวงานเลี้ยงจบ ฉันก็คง ไม่ต้องสวมชุดนี้แล้ว ก็เลยคิดว่ากินนิดหน่อย คงไม่เป็นอะไร หรอก”

ซูเหยาเหยา: ”

คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะพูดตรงขนาดนี้ อีกทั้งไม่รู้เลยว่าตัว เองพูดออกแบบนี้แล้วจะมีปัญหา ซูเหยาเหยารู้สึกสงสัย: “ปกติ เธอลดความอ้วนไหม?”

เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า: “ไม่ลดค่ะ ช่วงนี้ทำงานยุ่งมาก ทำให้ ผอมเกินไปแล้ว”

เมื่อก่อนหล่อนรักษาน้ำหนักไว้ได้ดีมาก แต่หลังจากกลับมา

จากต่างประเทศหล่อนก็ผอมมาโดยตลอด ถ้าเป็นเมื่อก่อน

หล่อนไม่มั่นใจเลยว่าจะใส่กระโปรงตัวนี้ได้หรือไม่ ชีวิตหนอ

ซูเหยาเหยามองดูใบหน้าอันเรียวเล็กและแขนอันซูบผอม และ เอว คอดมาก จึงไม่อยากพูดอะไร

เสี่ยวเหยียนกำลังทานอย่างเชื่องช้า จนไม่ได้สนใจคำพูดของ ซูเหยาเหยาเลยสักนิด ซูเหยาเหยานั่งอยู่สักพัก สุดท้ายทนไม่ ไหวอีกต่อไป จึงเอ่ยปากถามขึ้น

“เอ่อ…เมื่อครู่ฉันเหมือนว่าฉันเห็นเธออยู่กับประธานหาน?”

“เอ๊ะ?” หล่อนพูดถึงประธานหาน เสี่ยวเหยียนที่กำลังทานอยู่หยุดชะงักไปทันที จนเกือบจะสำลักออกมา หล่อนลูบหน้าอกของ ตัวเองอยู่นานสักพัก บริกรจึงรีบนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ “คุณ จางดื่มน้ำสักหน่อยครับ

เสี่ยวเหยียนจึงหยิบมาดื่ม ทำให้รู้สึกโล่งขึ้น จากนั้นจึงหันไป มองซูเหยาเหยาที่อยู่ตรงหน้า

หล่อนหน้าตาดี อีกทั้งยังสวมชุดที่สวยและแพงมาก ก่อนหน้า นี้หล่อนบอกว่าตัวเองออกมาเข้าห้องน้ำ ไม่ทันระวังจึงหลงทาง มาที่นี่ แต่ระยะทางระหว่างงานเลี้ยงกับที่ตรงนี้นั้นไกลมาก ถ้าบริ กรไม่ได้เป็นคนพาหล่อนมา ไม่ว่าหล่อนจะหลงทางยังไงก็ไม่มี ทางเดินมาถึงที่นี่ได้

เมื่อครู่หล่อนเพียงแค่คิดว่าไม่คุ้นเคยกับที่นี่จึงหลงทาง แต่หลังจากที่หล่อนพูดถึงประธานหาน เสี่ยวเหยียนจึงรู้สึกผิด สังเกต

เมื่อมาคิดดูดีๆตอนนี้ รู้สึกแปลกจริงๆ

ไม่ว่าจะไกลขนาดไหน ก็คงต้องเดินไปที่อื่นจึงจะถูก ทำไมถึง หลงมาถึงที่นี่ได้

อีกอย่างหล่อนก็แค่หลงทาง ถามทางสักหน่อยก็กลับไปได้ แล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องอยู่ถามเรื่องแบบนี้กับหล่อน

เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามจ้องมองมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าทำไม ซูเหยา เหยาจึงรู้สึกกลัวขึ้นมา อีกอย่างสายตาของสาวน้อยคนนี้ดู แหลมคมเหลือเกิน หล่อนถามเพียงคำถามเดียวเท่านั้นเอง
เมื่อคิดถึงตอนนี้ หล่อนรีบเอ่ยปากพูดทันที

“เธออย่าเข้าใจผิดนะ ฉันแค่ถามดู ถ้าเธอไม่สะดวกตอบ ฉันก็ จะไม่ถามแล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ