เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 350 ผ่อนคลาย



บทที่ 350 ผ่อนคลาย

ตกเย็น หานชิงก็เป็นอย่างที่ซูจิ๋วพูดไว้ไม่มีผิด ตรง จากเมืองเป่ยมายังเมืองซูเพื่อมาหาหานมู่จื่อ

ในตอนที่เขามาถึงนั้นก็เป็นช่วงดึกแล้ว และเพราะ ว่าได้บอกมาทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ดังนั้นเสี่ยวเหยี ยนตั้งใจไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ เพื่อซื้อวัตถุดิบมา เตรียมอาหารให้ทุกคนได้ทานกันอย่างพร้อมหน้า

ฝีมือการทำอาหารของเสี่ยวเหยียนนั้นก็ถือว่าไม่ เลว ยิ่งผนวกกับช่วงหลายปีมานี้ที่อยู่กับหานมู่จื่อ เนื่องจากเธอนั้นทนไม่ได้กับการที่จะกินอาหารที่สั่ง เข้ามา ดังนั้นเธอจึงได้ฝึกฝนทักษะการทำอาหารไปใน ตัว

หานมู่จื่อและเสี่ยวหมี่โต้วก็พึ่งพาฝีมือในการ ทำครัวของเธออยู่เสมอ

เมื่อได้ยินว่าเธอจะเข้าครัวเท่านั้น เสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็อยากกินจนแทบจะน้ำลายไหลเลยที เดียว “น้าเสี่ยวเหยียน อีกเดี่ยวพวกเราจะทำหม้อไฟใช่

มั้ย? ”

เมื่อได้ยิน เสี่ยวเหยียนก็ก้มหน้าลงและมองเค้า ด้วยท่าทีแปลกๆ : “ตอนนี้ไม่ใช่หน้าหนาว จะกิน หม้อไฟอะไร? ไม่กลัวว่าจะร้อนตายยังไง?

เมื่อเสี่ยวหมี่โต้วได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจ ทำปากมุ่ยและพูดขึ้น: “หน้าร้อนก็กินหม้อไฟได้นะ น้าเสี่ยวเหยี ยนคุณไม่รู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วมดี หรอกเหรอ? ”

ที่พูดมานั้น…

เสี่ยวเหยียนเหล่ตาไปมองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว ทันใด นั้นก็ยื่นนิ้วซื้ออกไปจิ้มหน้าผากของเสี่ยวหมี่โต้ว

“มีอารมณ์ร่วม? เธอนี่รู้จักเรียนคำยาก ๆ เหมือน กันนะเนี่ย ช่างพูดจริง ๆ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอน่ะ ก็แค่อยากกินเนื้อน่ะ”

“อิ่ม” เสี่ยวหมี่โต้วกุมหน้าผากตัวเอง ใบหน้าที่ขาว และอ่อนโยนเต็มไปด้วยอาการโกรธ: “แล้วสรุปว่า คุณป้าจะทำหม้อไฟมั้ย? ”

“ไม่ทำ” เสี่ยวเหยียนหันตัวกลับไป เปิดก๊อกน้ำ และล้างผัก: “ลุงของเธอทำงานทำงานมาทั้งปี แล้วก็ การขับรถจากเมืองเป่ยมายังเมืองซูเนี่ย ต้องใช้เวลา ขับถึง 2 ชั่วโมงเลยเธอรู้มั้ย? แล้วก็โดยปกติแล้วเค้า น่ะยังต้องออกไปสังสรรค์ข้างนอกบ่อย ๆ ก็น่าจะ เหนื่อยมากพอแล้ว เธอยังจะให้เค้ากินหม้อไฟอีกเห รอ? คืนนี้ให้เค้าได้กินอะไรดี ๆ หน่อยไม่ดีกว่าเห รอ? ”

เมื่อได้ยินเสี่ยวหมี่โต้วก็กะพริบตาปริบ ๆ ดูเหมือน ว่าเขานั้นจะมองเห็นอีกมุมหนึ่งจากคำพูดของเธอ ทันใดนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็พูดอะไรที่น่าตกใจขึ้นมา: “น้าเสี่ยวเหยียนทำไมคุณถึงใส่ใจกับลุงของผม ขนาดนี้ล่ะ คุณชอบเค้างั้นเหรอ? ”

“เธอพูดอะไรของเธอเนี่ย? ” ทันใดนั้นเสี่ยวเหยีย นก็สะดุ้งกระโดดขึ้นมาราวกับถูกเหยียบหางอย่างไง อย่างนั้น เบิกตากว้างและมองไปรอบ ๆ หลังจากที่เห็น ว่ารอบ ๆ ไม่มีใครอยู่แล้ว ก็รีบเอามือไปปิดปากของ เสี่ยวหมี่โต้ว: “ธ..ธ.ธ.เธอห้ามพูดอะไรซี้ซั้วแบบนี้ ออกมานะ เข้าใจมั้ย? ”

เสี่ยวหมี่โต้วที่ถูกเธอปิดปากอยู่นั้น ก็พูดอะไรไม่ ได้ ได้เพียงแต่มองเธอตาปริบ ๆ

ท่าทางของเขาที่แสดงออกมาทำให้เสี่ยวเหยียน เกิดความรู้สึกผิด จึงรีบปล่อยมือออก “อย่าพูดออกไป นะเข้าใจมั้ย? ไม่งั้นคราวหน้าฉันจะไม่ทำอะไรให้เธอ กินอีกแล้ว”

เมื่อได้ยิน เสี่ยวหมี่โต้วก็เหมือนกับว่าจะคิดอะไร ขึ้นมาได้ เอียงศีรษะเล็กน้อยและพูดขึ้น : “งั้นน้า เสี่ยวเหยียนจะทำหม้อไฟให้เสี่ยวหมี่โต้วมั้ย?

เสี่ยวเหยียนยืนขึ้นมาด้วยท่าทีเศร้า ๆ เปิดเอา วัตถุดิบที่มีอยู่ในถุงออกมาดูด้วยท่าทีไร้เรี่ยวแรง และ พูดขึ้น : “คงจะไม่พอทำให้เธอหรอก? จริง ๆ นะ ชีวิต นี้ฉันคงเป็นหนี้หนุ่มตัวน้อยคนนี้แล้วล่ะ”

ในตอนนั้นที่ห้องชั้นบนหานก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนเป็นเสื้อที่เชิ้ตสบาย ๆ และ กางเกงใส่อยู่บ้าน และยืนโทรศัพท์อยู่ที่หน้าต่าง

“นายหลิน ความต้องการของคุณที่แจ้งมาฉันได้ ให้ผู้ช่วยจดบันทึกเอาไว้หมดแล้ว เวลาที่พวกเรานัดกัน คือภายในเดือนนี้ พรุ่งนี้ฉันจะให้ผู้ช่วยฉันไปวัด

ร่างกายแทนคุณจ้าว หลังจากนั้นฉันก็จะออกแบบงาน ที่คุณต้องการให้เสร็จเรียบร้อยภายในกำหนดการ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็หยุดพูดลง และมองไป ดูดวงดาวบนท้องฟ้า และอดที่จะพูดขึ้นไม่ได้ว่า: “แต่

ว่าตอนนี้เวลาก็เลย 2 ทุ่มมาแล้ว เป็นช่วงนอกเวลา

ทำการแล้ว”

เมื่ออีกฝ่ายได้ยิน ก็ยิ้มขึ้นมาด้วยความเกรงใจ: “ขอโทษด้วยครับ ฉันเองก็คงจะกังวลเกินไปหน่อย งั้น ก็คงไม่รบกวนเวลาพักของคุณหนูหานแล้วล่ะ”

หานมู่จื่อตัดสายโทรศัพท์ไป หลังจากนั้นก็เอา โทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ แล้วก็เข้าห้องน้ำไปเพื่อใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเป่าผมให้แห้ง

เมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นว่าโทรศัพท์ของ เธอก็ดังขึ้นมาพอดี

หานมู่จื่อก็เดินตรงไปแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็ เห็นว่าหานชิงเป็นคนโทรมา

“หรือว่ามาถึงแล้วงั้นเหรอ? ”

เมื่อคิดได้เช่นนั้น หานมู่จื่อก็ไม่ได้รับสาย และรีบใส่รองเท้าและลงไปชั้นล่างเพื่อเปิดประตู

หลังจากเปิดประตูออก ก็ได้เจอหานชิงยืนอยู่ที่ ประตูจริง ๆ ทั้งสองคนจ้องตากันเล็กน้อย หานมู่จื่อก็ มองไปที่ด้านหลังของเขา “คุณมาแค่คนเดียวเหรอ? ”

ไม่ได้เจอเธอมานานมาก หานชิงนั้นคิดถึงเธอจริง

ๆ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอามือลูบไปที่หัวของเธอเบาๆ หานมู่จื่อสะดุ้งไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยืนนิ่งอยู่กับที่

ไม่ได้หนีไปไหน รอจนเขานั้นลูบหัวของเธอจนผมยุ่ง แล้วจึงพูดขึ้นว่า: “พี่ ฉันน่ะไม่ใช่เด็กแล้วนะ คุณขยี้ ผมแบบนี้…คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไร”

“ในสายตาของฉัน เธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเสมอ นั่นแหละ” เธอไม่คิดว่าหานชิงจะตอบกลับมาเช่นนี้

เมื่อได้ยิน หานมู่จื่อก็มีท่าทีสติหลุดเล็กน้อย กัด ริมฝีปากล่างและให้หันข้างหลบเพื่อให้เขาเข้าไปข้าง ใน “พี่ชาย พวกเราตกลงกันหน่อยได้มั้ย? ตอนที่คุณ อยู่บ้านน่ะจะลูบหัวก็ได้ แต่ว่าเวลาออกไปข้างนอกน่ะ ไม่ทำแบบนี้ได้มั้ย? ”

เธอยังคงจำได้ว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอไปส่งเขา ตอนอยู่ต่างประเทศและกำลังจะกลับประเทศ

ในตอนที่หานชิงกำลังจะไป เขานั้นก็ลูบหัวของ เธอต่อหน้าท่ามกลางผู้คนจริง ๆ

คิด ๆ ดูแล้วตอนนั้นเธอยังคงตั้งท้องเสี่ยวหมี่โต้วอ ยู่ และสวมรองเท้าส้นสูง และเธอก็ถูกหานชิงนั้นลูบหัว
ในช่วงแรก ๆ หานมู่จื่อนั้นรู้สึกแปลก ๆ กับการกระ ทำเช่นนั้นของเขา แต่ว่าหลัง ๆ เมื่อเห็นดวงตาที่อ่อน โยนและเศร้าโศกของหานชิงก็รู้สึกประหลาดใจเป็น อย่างมาก เธอก็ทนไม่ได้ที่จะต้องปฏิเสธ จนท้ายที่สุด ไม่คิดว่าเธอจะเคยชินกับนิสัยของเขาเข้าซะแล้ว

ตอนนี้ ….หานมู่จื่อมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเขานั้น เลี้ยงดูตัวเองเหมือนกับลูกสาว

ลูกสาวสินะ…

หานมู่จื่อไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“ถ้าคุณชอบลูบหัวจริง ๆ ล่ะก็ ก็ไปลูบหัวหลาน ของคุณให้เยอะ ๆ สิ”

ขณะที่พูดถึงหลานชาย หานชิงก็เดินเข้ามา และ เอามือปิดประตูลง หลังจากนั้นก็ถอดรองเท้าไว้ที่ชั้น วางรองเท้าตรงทางเข้า และเขานั้นก็พบว่าที่ชั้นวาง รองเท้านั้นมีเพียงรองเท้าแตะสำหรับเปลี่ยนสำหรับผู้ หญิงเพียงไม่กี่คู่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูด ขึ้น: “ทำไมไม่มีเตรียมไว้สำหรับฉันเลย? ”

เมื่อได้ยิน หานมู่จื่อก็ทำปากมุ่ยและพูดขึ้น : “ฉัน ไม่คิดว่าคุณจะมาเร็วขนาดนี้นี่นา วันนี้แม้แต่ ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ยังไม่ทันได้ไปเลย”

พูดจบเธอก็โค้งตัวลง หยิบเอารองเท้าแตะสำหรับ ผู้หญิงไซส์ใหญ่ที่สุดออกมาคู่หนึ่ง : “สวมอันนี้ก่อน แล้วกันนะ”
หานชิงมองไปยังรองเท้าคู่นั้นแล้วก็นิ่งเงียบอยู่ นาน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจเดินเท้าเปล่าเข้าไป

“พี่ชาย คุณอายใครกันล่ะ? ในบ้านก็ไม่ได้มีใคร อื่น ไม่ต้องรู้สึกไม่สบายใจหรอก”

“ระบายอากาศ

หานชิงพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม

ทั้งสองคนเดินเข้าไปด้านในด้วยกัน เมื่อเดินมาถึง ห้องรับแขก เสี่ยวเหยียนก็เดินออกมาจากห้องครัวใน ทันที และเมื่อเห็นว่าหานชิงมาแล้ว ใบหน้าขาว ๆ ของ เธอก็มีสีแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยในทันที: “หาน นาย หานถึงแล้ว! ”

“อื้อ” หานชิงพยักหน้าให้เธอ

ในจังหวะที่ทั้งสองสบตากัน ใบหน้าของเสี่ยวเหยี ยนก็แดงยิ่งขึ้นไปอีก เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อยหลังจาก นั้นก็พูดขึ้น : “ฉันยังทำอาหารค้างอยู่เลย นายหานนั่ง ก่อนเลย อีกเดี่ยวก็เสร็จแล้ว”

พูดจบก็รีบหันตัวกลับเข้าไปในห้องครัว

“คุณลุง!

ในขณะเดียวกันนั้น ก็มีร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งตรงออก มาจากห้องครัว หลังจากนั้นก็ตรงไปหาหานชิง

ทันทีที่เห็นร่างน้อย ๆ นั่น แววตาของหานชิงที่ มืดมนก่อนหน้านี้ก็ถูกสอดแทรกด้วยความอบอุ่น เขาย่อตัวลงและกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขน

“ยี่ซู”

หานยี่ซู คือชื่อเดิมที่หานชิงตั้งให้กับเขา

ส่วนชื่อเล่นเสี่ยวหมี่โต้วนั้น เป็นชื่อที่เสี่ยวเหยียน ช่วยตั้งให้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ