เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่1108 พรุ่งนี้ยังจะมาอีกไหม



บทที่1108 พรุ่งนี้ยังจะมาอีกไหม

เสี่ยวเหยียนกังวลมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา ตาของเธอแดง เล็กน้อย พอได้ยินเสียงที่อบอุ่นของหานซิงตอบรับตัวเองนั้น เธอ ถึงได้รู้ตัวว่าเธอกำลังไม่มีเหตุผลอยู่

เธอรีบปล่อยมือแล้วก้าวถอยหลัง พอถอยหลังออกมาแล้วก็ เก็บของใส่ถุงอีกครั้ง

ช่วงเวลานั้นไม่มีใครพูดอะไร ห้องรับแขกก็เข้าสู่ห้วงของ ความเงียบ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู ซูจิ๋วยืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้า

ที่เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม

“พวกคุณทานเสร็จกันรึยังคะ? ประธานหาน อีกห้านาทีจะมี ประชุมผ่านทางวิดีโอคอล ฉันเตรียมข้อมูลไว้หมดแล้วค่ะ”

หานชิงขมวดคิ้ว เสี่ยวเหยียนก็หันหน้ามา

พึ่งจะประชุมเสร็จเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ? ประชุมอีกแล้วเหรอ? วันๆ หนึ่งต้องยุ่งขนาดไหนกัน? แล้วอีกอย่างเขายังไม่มีเวลาสำหรับ การกินมื้อเที่ยงหลังจากประชุมเลยไม่ใช่เหรอ? ถ้าเดี๋ยวจะ ประชุมอีก แม้แต่มื้อเที่ยงก็ไม่สนใจจะกินเลยเหรอ?

“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวไป
ซูจิ่วได้รับคําตอบที่ตัวเองต้องการ แล้วก็โบกมือให้เสี่ยวเห ยียน หลังจากนั้นก็ออกไป

เสี่ยวเหยียนรู้สึกอึดอัดหนักกว่าเดิม เธอถือถุงแล้วก็ลุกขึ้น

“ในเมื่อคุณยังมีธุระอื่นอีก ถ้ายังงั้นฉันกลับก่อนนะ”

พอเห็นว่าสาวน้อยจะไปแล้ว หานซึ่งก็อยากจะเอ่ยปากบอกให้ เธอรอเขาอยู่ที่นี่ แต่ว่าเธอก็รอเขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว ระหว่างนั้น ก็เบื่อจนหลับไป ถ้าเกิดว่าให้เธออยู่ต่อจะเพื่อเหตุผลอะไรกันล่ะ?

หานซึ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดว่า “ขาของเธอยังบาดเจ็บอยู่ ให้ลุงหนานไปส่งเธอกลับแล้วกัน รอเขาอยู่ที่นี่ประมาณ15นาที

หลังจากนั้นเขาก็โทรหาลุงหนาน พอลุงหนานรู้ข่าวก็รีบตาม

มาอย่างรวดเร็ว และหานซึ่งก็ออกไปก่อนที่การประชุมทางวิดีโอ

จะเริ่มขึ้น ก่อนที่จะไปนั้น เขาถามเธอออกมาหนึ่งประโยค

“ยังจะมาอีกไหม?”

“หา?”

“พรุ่งนี้”

เสี่ยวเหยียนกะพริบตา คำพูดของเธอติดอ่างเล็กน้อย “มา มา

แหละ……”

พอเขาไปแล้ว เสี่ยวเหยียนถึงได้รู้ตัวว่าอัตราการเต้นของหัวใจเธอมันเพิ่มขึ้นอย่างแปลกประหลาด หานซิง……กำลังเชิญ เธออยู่งั้นเหรอ?

ในใจของเธอ มีความคิดที่เมื่อก่อนเธอไม่กล้าคิด ค่อยๆก่อ

ตัวขึ้นอย่างช้าๆ

เธอรู้ว่านั่นคืออะไร แต่ว่าไม่กล้าไปคิดถึงมันอย่างละเอียด แค่ อยากจะปกป้อง และบำรุงอย่างระมัดระวัง

เธอรออยู่ในห้องรับรองประมาณสิบนาที แล้วลุงหนานก็มารับ เธอ ลุงหนานสวมใส่เสื้อเชิ้ตและแจ็คเก็ตบางๆ ยืนยิ้มอยู่หน้า ประตูพร้อมกับมองหน้าเสี่ยวเหยียน

“คุณเสี่ยวเหยียนครับ ประธานทานให้ผมมารับคุณไปส่งที่ บ้าน”

พอเห็นลุงหนาน เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกสนิทสนมเป็นกันเองเป็น พิเศษ เมื่อก่อนเธอกับมู่จื่อเคยนั่งรถของเขามาก็ไม่น้อย แต่ว่า พอเห็นสิ่งที่เขาสวมใส่ แล้วก็ดูสิ่งที่ตัวเองสวมใส่ เธอก็รู้สึกเก้อ เข็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าหน้าหนาวใกล้จะผ่านไปแล้ว แต่ว่ามันก็ยังรู้สึกเย็น อยู่ หลายคนเปลี่ยนมาใส่เสื้อคลุมบางๆนานแล้ว แต่ว่าเสี่ยวเหยี ยนยังใส่เสื้อขนเป็ดอยู่เลย เสื้อยืดง่ายๆแล้วก็เสื้อขนเป็ด

ร้อนก็ถอดหนาวก็ใส่ มันสะดวกมากจะตาย

แต่ว่าการแต่งตัวแบบนี้คนอื่นจะมองว่าเป็นประสาทได้ง่าย เพราะยังไงก็มีบางคนใส่เสื้อแขนสั้นไปแล้ว
“ลุงหนาน รบกวนคุณด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ทิ้งถุงราเม็งในถังขยะที่ชั้นล่าง เดิมทีเสี่ยวเหยียนวางแผนจะกลับบ้าน แต่ว่าพอคิดไปคิดมา เธอ ไปช่วยงานที่ร้านดีกว่า ดังนั้นก็เลยให้ลุงหนานไปส่งเธอที่ร้าน

หลังจากไปถึงร้านแล้ว หลัวหุยเหม่ยเห็นว่าเธอลงมาจากรถ ก็ หรี่ตาสำรวจคนแกที่อยู่ในรถนั้น รอให้เสี่ยวเหยียนเข้ามาใน ร้านก็ดึงเธอไปอีกทางหนึ่ง

“ใครมาส่งลูกน่ะ?”

เสี่ยวเหยียนถูกถามแบบนี้ สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป “ไม่มีอะไร ทําไมเหรอ?”

พอเห็นว่าลูกสาวพยายามหลบตา หลัวหุยเหม่ยก็คว้าคอเสื้อ ของเธอ “นี่มันท่าทางอะไรกันหะ ไม่กล้าพูดยังงั้นเหรอ? แต่ว่า เมื่อกี้แม่เห็นนะ คนที่มาส่งลูกเป็นผู้ชายแก่ ลูกคงไม่ได้……

“แม่!” เสี่ยวเหยียนรู้จักหลวยเหมยดี พอได้ยินพอพูดแบบนี้ ก็สามารถคาดเดาสิ่งที่เธอคิดได้ รีบห้ามเธอทันที หลังจากนั้นก็ พูดว่า “นั่นเป็นผู้ใหญ่ที่หนูเคารพมาก แม้ห้ามใช้ความคิดแคบๆ เด็ดขาดเลยนะ!

“พูดมั่วอะไรกัน? แม่ของลูกพูดอะไรแล้วงั้นเหรอ?”

เสี่ยวเหยียนโกรธ “ใครจะไปรู้ว่าถ้าเกิดว่าไม่ห้ามแม่ไว้ แม่ คงจะพูดอะไรที่ไม่สามารถฟังได้ออกมาก็ได้ ก็เลยต้องบอกไว้ก่อน”

“ผู้ใหญ่ที่เคารพอะไรกัน? ขับรถดีขนาดนั้น บอกแม่มา

เสี่ยวเหยียนไม่อยากจะคุยด้วย “หนูเจ็บขา ขึ้นไปพักผ่อนก่อน

“เล่ามาให้ชัดเจนแล้วค่อยไป จะรีบอะไร?”

ถึงแม้ว่าหลัวหุ้ยเหม่ยจะพูดแบบนี้ แต่พอนึกถึงอาการบาด เจ็บที่ขาของเสี่ยวเหยียน ก็เลยไม่กล้าตามไป กลัวว่าถ้าเกิดว่า ตามไปแล้วเธอจะวิ่ง แล้วพอวิ่งแล้วการฟื้นฟูตัวเองของแผลที่ขา เธอจะช้าลงกว่าเดิม

วันกำหนดคลอดของหาน จื่อใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว วันเวลา ช่วงนี้ ท้องของเธอใหญ่จนไม่สามารถนั่งยองได้อีก ทุกครั้งที่จะ นอนลง หรือจะลุกขึ้นจากเตียงก็จะยากลำบากอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ตอนที่ตั้งท้องเสี่ยวหมี่โต้ว ท้องของเธอก็ไม่ได้โต

ขนาดนี้นะ

ครั้งนี้กลับรู้สึกเหมือนกับว่าอุ้มลูกบอลอยู่ยังไงยังงั้น แล้วอีก อย่างสิ่งที่สำคัญก็คือ มือขาและคอ หรือแม้แต่ใบหน้าของเธอก็ กลมขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพราะว่าแบบนี้หาน จื่อก็เลยไปบ่นกับเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยี ยนก็ค้นหาทางอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นก็บอกให้หานคู่จื่อ
“ฉันได้ยินมาว่าลูกคนที่สองนั้นแตกต่างจากลูกคนแรกอย่าง แน่นอน คุณแม่หลายคนมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากหลังคลอดบุตร และการฟื้นฟูร่างกายจะยากขึ้น แต่ว่าเธอต้องมั่นใจในตัวเองนะ คลอดลูกน้อยออกมาแล้วก็ดีแล้ว”

มั่นใจเหรอ? มั่นใจบ้าอะไรกัน?

ถึงแม้ว่าทานมู่จื่อจะไม่ได้รู้สึกว่าเยโม่เซ็นเป็นคนมองคนที่ ภายนอกอะไรแบบนั้น ยังไงเธอกับเย่ไม่เป็นก็ผ่านอะไรกันมา หลายเรื่องจนกว่าจะมาถึงตอนนี้ เขาไม่มีทางทิ้งเธอเพราะว่าเธอ อ้วนขึ้นเป็นเท่าหรอก

แต่ว่าถ้าจะให้คนที่ตัวเองรักเห็นสภาพที่แม้แต่ตัวเองยังรับไม่ ได้ หลังจากนี้เขาก็จดจําไว้ในใจตลอดไป

ต่อให้ผอมลง ภาพที่เธออ้วนนี้มันก็จะไม่หายไป

คิดไปคิดมา หาน จื่อก็น้ำตาไหล ตั้งแต่ตอนเย็นเป็นต้นไป เธอไม่ให้เยโมเงินเข้ามาที่ห้องของเธอ ไล่เยโม่เป็นไปนอนที่ ห้องรับแขก

อยู่ดีๆ จู่ๆอารมณ์เธอก็เปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้ ในฐานะที่ เป็นสามีของหาน จื่อ เย่โม่เซินก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย แต่ว่า ตอนแรกเขานึกว่าเป็นแค่เพราะว่าเธออารมณ์ไม่ดี ผ่านไปสอง วันก็หายแล้ว

ใครจะไปรู้ว่าผ่านไปหลายวัน เธอก็ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ แถม ยังแย่ลงอีกต่างหาก
ไม่ใช่แค่ไม่ให้เขาเข้าไปในห้อง แถมยังไม่ยอมเจอเขาอีกต่าง หาก นี่มันทำให้เยโม่เป็นรู้สึกหนักใจมาก ไม่ได้เจอเธอ เขาก็ถาม

ไม่ได้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่เพราะว่าเธอท้องโตแล้ว เย่ โม่เชิ นก็ไม่กล้าผลีผลามเข้าไป กลัวว่าจะทำให้เธอโกรธ สุดท้ายก็คิด ไปคิดมาแล้ว ก็ได้แต่ไปหาสังอาน

พอสังอานได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความ สงสัย “เกิดอะไรขึ้น? แกทำอะไรผิดไปรึเปล่า? แกคงไม่ได้แอบ ไปเด็ดดอกไม้อะไรด้านนอกตอนที่ ชื่อตั้งท้องอยู่ใช่ไหม? เพราะ ฉะนั้นเธอก็เลยไม่อยากสนใจแก? เย่ ไม่เซน ถ้าเกิดว่าแกกล้าทำ เรื่องแบบนี้จริงๆ ฉันจะตัดขาแกแทนแม่ของแกแทน

เย่ไม่เซ็น : ”

สีหน้าของเขาจมดิ่ง ดูไม่มีความสุข

“ใช่หรือไม่ใช่? รีบพูดมา” สั่งอานวางแผนว่าถ้าเกิดว่าเยโม่ เซินยังไม่ยอมพูดอีก เธอจะทรมานเขาเพื่อให้เขายอมสารภาพ

เย่โมเซิน “เล่นเสร็จรึยัง? ตอนนี้ผมกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ เธออยู่ หยุดวุ่นวายได้แล้ว ผมจะทำเรื่องแบบนั้นรึยังไงกัน?”

“ใครจะไปรู้แกล่ะ?” ถึงแม้ว่าปากของสั่งอานจะเยาะเย้ย แต่ ว่าเธอก็รู้ว่าเย่ไม่เป็นไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้แน่นอน ยังไง ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถเข้าตาเขาได้หรอก

หลายปีมานี้ มีเพียงแค่หาน จื่อคนเดียวเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ