เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่982 ใจกลางจักรวาล



บทที่982 ใจกลางจักรวาล

เดิมทีฉือจีนตั้งใจจะออกไปโน้มน้าวให้เสี่ยวหมี่โต้วอยู่เป็น เพื่อนคนแก่อย่างเขา คิดไม่ถึงว่าพอเดินออกไปจะเห็นหลาน สะใภ้ของตนเองหานมู่จื่อยืนถามสารทุกข์สุขดิบอยู่ ก็ช่างเถอะ

แต่เจ้าหลานชายคนนี้ ยังจะมาคิดว่าคุณตาอย่างเขาจะทำ อะไรหลานสะใภ้คนนี้อีกหรือ

มันไม่พูดเหตุผลกันขนาดนั้นเลยหรือ พอได้ยินเสียงของฉือจีน เยโม่เซ็นจึงเงยหน้าขึ้น สบเข้ากับ แววตาไม่สบอารมณ์ของ เฉือจีนเข้าพอดี

เขาเม้มริมฝีปากบางๆ โดยไม่ได้ต่อปากต่อคำ

อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่ฉือจีนท่าในบริษัทก่อนหน้านี้อยู่ใน ความทรงจําของเย่ โม่เป็น อย่างลึกซึ้ง มาจนถึงตอนนี้เยโม่เป็น เลยรู้สึกว่าฉือจินคงจะสร้างความลำบากอะไรให้ กับหานคู่จื่อ

“คุณตาคะ คุณตายังมีธุระอื่นอีกไม่ใช่หรือคะ” ในเวลานี้เอง หานมู่จื่อส่งเสียงพูดขัดขืนทำลายบรรยากาศ

พอเธอเตือนขึ้นมาแบบนี้ ฉือจีนจึงนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอย่างอื่น ที่ต้องทำอีก เขามองซ้าย ขวา เห็นเสี่ยวหมี่โต้วยืนอยู่ข้างหน้า ไม่ไกลนัก สีหน้าแสดงอาการดีใจลิงโลด จากนั้นจึงก้าวเท้าเดิน ไปหาเสี่ยวหมี่โต้ว
ไม่นานนัก ฉือจีนจึงเดินไปหยุดตรงหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยว หมี่โต้วเองก็เดินขึ้นหน้า อย่างว่าง่าย คุณตาทวดครับ เดินช้า หน่อยสิครับ”

“เสี่ยวหมี่โต้ว ตาทวดมีเรื่องอยากจะถาม เจ้าจะออกไปคุยกับ ตาทวดข้างนอกได้หรือเปล่าล่ะ

เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาปริบๆ หันไปมองคุณลุงของตนหาน

หาเชิงพยักหน้าค่อยๆ

“ได้ครับคุณตาทวด งั้นเราไปที่อื่นกันครับ “พูดจบเสี่ยวหมี่โต้ วจึงเดินขึ้นหน้าจูงมือ

ยูฉือจินไปทางอื่น

รอจนไปกันแล้ว สั่งอานหรี่ตามองหานซิงทีหนึ่ง”นายก็วางใจ ให้เสี่ยวหมี่โต้วไปแบบนั้นเหรอ ไม่กลัวว่าน้องสาวนายจะมาคิด บัญชีกับนายหรือไง”

ทานชิงมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คนที่พาไปน่ะคือคุณตาทวด ของเสี่ยวหมี่โต้วเองนะ จื่อจะมาคิดบัญชีอะไรห

ส่งอานยิ้มกรุ้มกริ่ม มือกอดอกไม่ได้ตอบอะไร

“คุณน้า พี่ชาย”

หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วโดนพาไป หานมอก็พาเย่ ไม่เซ็นเข้า มา จากนั้นจึงมีเสียงคนทั้งคู่ ขึ้น
ไม่นานนัก ฉือจีนจึงเดินไปหยุดตรงหน้าเสี่ยวหมี่โต้ว เสี่ยว หมี่โต้วเองก็เดินขึ้นหน้า อย่างว่าง่าย คุณตาทวดครับ เดินช้า หน่อยสิครับ”

“เสี่ยวหมี่โต้ว ตาทวดมีเรื่องอยากจะถาม เจ้าจะออกไปคุยกับ ตาทวดข้างนอกได้หรือเปล่าล่ะ

เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาปริบๆ หันไปมองคุณลุงของตนหาน

หาเชิงพยักหน้าค่อยๆ

“ได้ครับคุณตาทวด งั้นเราไปที่อื่นกันครับ “พูดจบเสี่ยวหมี่โต้ วจึงเดินขึ้นหน้าจูงมือ

ยูฉือจินไปทางอื่น

รอจนไปกันแล้ว สั่งอานหรี่ตามองหานซิงทีหนึ่ง”นายก็วางใจ ให้เสี่ยวหมี่โต้วไปแบบนั้นเหรอ ไม่กลัวว่าน้องสาวนายจะมาคิด บัญชีกับนายหรือไง”

ทานชิงมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คนที่พาไปน่ะคือคุณตาทวด ของเสี่ยวหมี่โต้วเองนะ จื่อจะมาคิดบัญชีอะไรห

ส่งอานยิ้มกรุ้มกริ่ม มือกอดอกไม่ได้ตอบอะไร

“คุณน้า พี่ชาย”

หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วโดนพาไป หานมอก็พาเย่ ไม่เซ็นเข้า มา จากนั้นจึงมีเสียงคนทั้งคู่ ขึ้นตรงตะขอเปิดเล็กๆก่อน จากนั้นจึงจะเปิดฝากล่องได้

หาน จื่อเป็นนักออกแบบ แม้ว่าเธอจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า แต่ว่าว่าด้วยเรื่องการออกแบบนั้นเธอมีพรสวรรค์ในทุกด้านอยู่ แล้ว ดังนั้นต่อให้ตอนแรกจะรู้สึกหลงงงงวย แต่ว่าท้ายที่สุดเธอ ก็ได้เปิดกล่องออกอย่างง่ายดาย

พอเปิดกล่องออกแล้ว ทุกคนรู้สึกว่าตรงหน้ามีแสงระยิบระยับ

จากนั้นจึงเห็นสร้อยไพลินเส้นแวววาวนอนราบอยู่ในกล่อง เมื่อเห็นสร้อยเส้นนี้แล้ว นอกจากหาน จื่อ สีหน้าคนอื่นๆ ต่าง ก็เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะสังอาน พอได้เห็นสร้อยเส้นนี้แล้ว สีหน้าแววตา ของหล่อนตกตะลึงขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตตามไปด้วย

ไพลินสีฟ้าส่องระยิบระยับเป็นสีฟ้าอ่อนๆประกายใต้แสงไฟ ราวตกอยู่ในความฝัน เหมือนกับมหาชเลอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด หากยังเหมือนดวงดาวพร่างพราวสุกสกาวในจักรวาล งดงาม จนทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตา

เมื่อดูถึงตรงนี้ สีหน้าอันราบเรียบของหาน จื่อก็เปลี่ยนไป เล็กน้อย ริมฝีปากเริ่มสั่นไหว เบาๆ

ต่อให้ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเห็นสร้อยเส้นนี้มาก่อน แต่พอมา พินิจดูตอนนี้ ก็ค้นพบว่าสร้อยไพลินเส้นนี้มีจุดเด่นในตนเอง แล้ว ไพลินเม็ดใหญ่ขนาดนั้น มูลค่า….แน่นอนว่าจะต้องสูงกว่าที่เธอ คิดไว้มาก
ฉับพลัน หาน จื่อก็รู้สึกว่ากล่องที่กำลังประคองอยู่ที่หนักอึ้ง ขึ้นมา หนักจนเธอเกือบจะ ประคองไม่อยู่

“The Heart of Galaxy หัวใจแห่งจักรวาล

หานชิงที่เงียบมาโดยตลอดจู่ๆก็พูดออกมาสี่คำ

หาน จื่อเงยหน้ามองไปทางเขา แต่ไม่เป็นเองก็พยักหน้าขึ้น ในเวลานี้ ถูกต้อง ก็คือ The Heart of Galaxyหัวใจแห่ง จักรวาล”

The Heart of Galaxy หัวใจแห่งจักรวาลอย่างนั้นเหรอ ตั้งชื่อได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ว่าหานมู่จื่อรู้สึกทะแม่งๆอย่างไรชอบกล สร้อยที่สวยงาม

ขนาดนี้ ทำไมถึงได้ตั้งชื่อแบบนี้

สั่งอานมองดูสร้อยเส้นนี้ น้ำตาค่อยๆตื้นขึ้น อารมณ์ค่อนข้าง พลุ่งพล่าน

“ดูท่าคุณน้าสังคุ้นเคยกับสร้อยเส้นนี้นะ”หานชิงจ้องมองเธอ แล้วย้ายบทสนทนาไปที่ สังอาน จุดประสงค์ก็เพื่อให้เธอไขตอบ ข้อข้องใจ

ในตอนที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่สั่งอาน เธอถึงได้สติคืน แล้ว ผืนน้ำตาเจ้ากรรมไม่ให้ไหลออกมา จากนั้นจึงยิ้มอ่อนๆ พูด ขึ้น ใช่แล้ว ฉันคุ้นเคยกับสร้อยเส้นนี้ คุ้นมากด้วย……
เธอครุ่นคิดอยู่ครบหนึ่ง คะเนว่าคงกำลังคิดว่าจะเปิดปากพูด อย่างไร

ไม่นานนัก เธอจึงได้พูดออกมาตรงๆว่า “ก่อนที่แม่ฉันจะเสีย ชีวิต สร้อยเส้นนี้เคยเป็นของแม่ฉัน เป็นของขวัญที่ท่านมอบให้ กับเธอ แล้วก็เป็นของขวัญชิ้นที่เธอชอบมากที่สุด แต่ว่า……ใน ตอนที่เธอล้มป่วยหนัก คุณแม่ได้มอบสร้อยเส้นนี้ไว้ให้กับพี่สาว ของฉัน บอกว่าไม่อยากให้อาการป่วยของตัวเองติดสร้อยเส้นนี้

พูดมาถึงตรงนี้ สั่งอานจึงหยุดชะงัก จากนั้นพูดต่อ“ก็เลย ว่า กันแบบซีเรียส สร้อยเส้นนี้ควรจะเป็นของขวัญออกเรือนของพี่ สาวฉัน เพียงแต่ ในตอนนั้นที่เราออกจากบ้าน พี่สาวเก็บสร้อย เส้นนี้ขึ้น ไม่ได้เอาไปด้วย เพราะเธอรู้ว่าสำหรับท่านผู้เฒ่ากับคุณ แม่ฉันแล้ว มีความหมายที่สำคัญมาก ก็เลย……..ต่อให้เธอจะ โกรธมากมายสักแค่ไหน ก็อดที่จะนำของมีค่าไปด้วยไม่ได้ หลัง จากที่พวกเราออกจากบ้าน สร้อยเส้นนี้ก็ถูกทิ้งไว้ในบ้านตระกูล ฉือ คิดไม่ถึงว่า…ท่านผู้เฒ่าจะเก็บมันเอาไว้

แถมยังทำกล่องที่วิจิตรขนาดนี้ล็อกมันเอาไว้

ในขณะนั้นเอง สั่งอานก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังฉือจินอะไรขนาด นั้นแล้ว

อย่างน้อย เขายังเก็บของเหล่านี้เอาไว้ หมายความว่าเขายัง ไม่ได้ลืมเรื่องราวในอดีตทั้งหมด

ฟังมาถึงตรงนี้ หาน จื่อถึงได้รู้ความเป็นมาของสร้อยเส้นนี้ เธอจึงยื่นกล่องนี้ใส่มือ สงอาน “น้าเล็ก ของสิ่งนี้มันแพงเกินไปในเมื่อมันเป็นของพี่สาวเธอ งั้น……..

เธอไม่กล้าเก็บเอาไว้ ถ้าหากเธอรู้ว่าข้างในกล่องนี้มีของราคา สูงขนาดนี้อยู่ เธอคงจะไม่รับไว้แน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ