เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

บทที่ 372 วัยรุ่นขี้เหงา



บทที่ 372 วัยรุ่นขี้เหงา

เมื่อมาถึงบริษัทแล้ว หานมู่จื่อถึงกับต้องตะลึงกับภาพ ที่อยู่ตรงหน้า

เดิมทีเธอคิดว่า บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเป็นแค่บริษัทเล็กๆ เท่านั้นถึงจะถูก ไม่น่าจะขนาดใหญ่ขนาดนั้น

โดยทั่วไปแล้วบริษัทที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งใหม่ ที่จริงแล้วไม่ ควรเรียกเป็นบริษัท ถึงแม้จะเป็นบริษัทก็จริง แต่มีขนาด เล็กมากด้วย คล้ายๆสำนักงานพวกนั้น จากนั้นเริ่มต้นจาก ธุรกิจขนาดเล็ก

แต่ว่าหานมู่จื่อนึกไม่ถึงว่าหานชิงจะเตรียมตึกใหญ่ ขนาดนี้ให้เธอ

ถึงแม้จะเทียบกับตึกใหญ่ของบริษัทตระกูลหานไม่ได้ แต่ว่าก็พอๆกับตึกที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ตอนที่หานมู่จื่อ เดินเข้าไป ยังคิดว่าอยู่ชั้นไหนสักชั้นหนึ่ง นึกไม่ถึงซูจิ๋วจะ พูดว่า “ทั้งตึกนี้ นายหานเตรียมไว้ให้คุณมู่จื่อนะคะ”

เสี่ยวเหยียนได้ยินดังนั้นแล้ว กลั้นใจไม่อยู่จนต้องหาย ใจลึกๆทีหนึ่ง กอดแขนของหานมู่จื่อไว้และอุทานว่า: “พี่ ชายเธอรวยมากจริงๆเลย อีกทั้งยังจริงใจด้วย!”

รวยก็เป็นความจริง จริงใจก็เป็นความจริง แต่ว่า….นี่มันจริงใจมากเกินไปแล้ว

“นี่จะโอ้อวดเกินไปหรือเปล่า? เป็นแค่บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่เองนะ”

“คุณมู่จื่อ คุณอย่าลืมไปนะคะ ว่าตอนนี้คุณคือลูกสาว เศรษฐีอย่างตระกูลหาน เบื้องหลังของคุณคือทั้งตระกูล หาน ไม่ว่าจะเป็นแค่ตึกนี้ตึกเดียว ต่อให้เอาทั้งตระกูลหาน มาให้คุณกับมือ ฉันว่านายหานก็จะยินยอมอย่างไม่ลังเล ใจเลย”

หานมู่จื่อ: “ไปเถอะ ขึ้นไปดูว่าข้างบนสภาพแวดล้อม เป็นยังไงบ้าง”

“ชั้นหนึ่งเป็นแผนกต้อนรับ ถึงเวลานั้นคุณสามารถหา พนักงานต้อนรับและพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วย ตนเอง”

ซูจิ๋วแนะนำให้หานมู่จื่อไปด้วยและเดินไปกดลิฟต์ด้าน หน้าไปด้วย

พอประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปพร้อม

ไปถึงชั้นสอง ซูจิ๋วก็แนะนำเพิ่มอีกสองสามประโยค

กัน

“ชั้นสองเป็นห้องครัวค่ะ ถึงเวลาแล้วคุณมู่จื่อสามารถ หาเชฟทำอาหารและพนักงานทำความสะอาดด้วยตนเอง ได้ค่ะ”

“อิม” หานมู่จื่อพยักหน้า

นึกไม่ถึงว่าพี่ชายของเธอวางแผนได้รอบคอบมาก แค่ ให้ทีมงานกับเธอ นอกจากนั้นก็ต้องพึ่งตนเองแล้ว เช่นนี้ยัง ดีหน่อย
“ชั้นสามก็จะเป็นห้องทำงานของพนักงานค่ะ วัน นี้….พวกเขาก็อยู่นะคะ อยากรอดูเจ้านายใหม่ของพวก เขา

ได้ยินว่าทีมงานชุดนั้นอยู่ที่ชั้นสามและพวกเธอกำลัง จะขึ้นไปชั้นสามด้วย หานมู่จื่อยังไม่ทันตอบสนองอะไร เสี่ยวเหยียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาก่อนแล้ว

“จะไปเจอพวกเขาแล้วเหรอ? ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเลย พวกเขาจะดูถูกพวกเราไหม?”

ได้ยินแล้ว ซูจิ๋วหันไปมองเธอและยิ้ม: “เสี่ยวเหยียน คุณอย่าตื่นเต้นสิ ตามเหตุผลแล้ว คุณก็เป็นผู้ช่วยของ คุณมู่จื่อ ควรจะถือได้ว่าเป็นเจ้านายของพวกเขาด้วย”

หานมู่จื่อพยักหน้า: “อืม ถึงเวลาแล้วฉันจะหา ตำแหน่งหนึ่งให้แก ไม่ต้องตื่นเต้นอะไรหรอก

เสี่ยวเหยียนได้ยินแล้ว ฝันหวานทันที อยู่ดีๆก็ได้เลื่อน ตำแหน่งกะทันหันแล้วเหรอเนี่ย? โอ้โห!”

ถ้ารู้แต่แรกว่าแกล้งทำเป็นกลัวก็ได้เลื่อนตำแหน่ง เมื่อ ก่อนเธอควรจะแกล้งทำเป็นเสแสร้งซะบ้าง! หานมู่จื่อไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไหร่นัก เพราะเธอพอ

จะเดาออกว่าข้างหน้าจะต้องเผชิญอะไรบ้าง

หลังจากที่ไปถึงชั้นสาม ซูจิ๋วพาพวกเธอสองคนเข้าไป ในห้องทำงาน

มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรอเจ้านายคนใหม่มาถึง ทุกคนต่าง อยากรู้ว่าเทพองค์ไหนที่ทำให้นายหานต้องจ้างพวกเขาและให้เงินเดือนสูงขนาดนั้น ดังนั้นก่อนที่รอเธอมาถึงต่าง พากันสนทนาโต้เถียงกัน

จางยู่”พวกคุณว่าเจ้านายคนใหม่ของเราเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิง เป็นครั้งแรกที่นายหานสนับสนุนคนๆหนึ่งโดย ไม่ยั้งมือเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเทวดามาจากไหนกันแน่”

หน้าตาของจางยู่ธรรมดาๆ พูดจาก็มีน้ำเสียงที่สุภาพ

“เพศไหนยังต้องทายอีกเหรอ? ก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ! ถ้า เป็นผู้ชาย หานชิงจะเอาใจใส่และทุ่มเทขนาดนี้ได้ยังไง?”

พูดจบ เขายิ้มหัวเราะทีหนึ่ง รอยยิ้มนั้นคงมีแต่ผู้ชาย เท่านั้นที่รู้กัน

ชายคนนี้ชื่อหลี่จุ้นเฟิง เมื่อก่อนเป็นดีไซน์เนอร์ที่ชอบ ความเป็นอิสระ ปล่อยตัวตลอดเวลา

ซู่กั่วเอ๋อ: “ฉันก็คิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงนะ” พูดจบแล้ว เธอยิ้มนิดๆ จากนั้นก็เปิดหนังสือที่อยู่ตรงหน้าต่อไป

เลิงเยาเยาที่อยู่ข้างๆกำลังถือลิปสติกทาปากแต่งหน้า อยู่ มีเวลาว่างก็ออกมาพูดด้วยประโยคหนึ่ง

“ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ขอแค่มีสิทธิ์เป็นเจ้านายก็ พอ ถ้าหากฉันเห็นว่าคนๆนี้ไม่มีความสามารถ มาเป็นเจ้า นายของฉัน ฉันคงไม่พอใจอย่างแน่นอน ต้องรู้ซะบ้าง ว่า พวกเราเป็นทีมงานที่ยอดเยี่ยมทั้งทีม”

หวังอานที่อยู่ด้านข้างจ้องมองเลิงเยาเยาด้วยหน้าตาที่ ยิ้มแย้มและพยักหน้า: “เยาเยาพูดมีเหตุผลนะ ฉันชอบ หน้าตาที่มั่นใจของเยาเยาเช่นนี้มากที่สุดเลย”
ได้ยินดังนั้นแล้ว เลิงเยาเยาจ้องมองหวังอานด้วย ความดูถูก: “เกี่ยวอะไรกับคุณ”

หวังอานก็ยังยิ้มแย้มและมองเธออยู่ เซียวอียี่ที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็ไม่พูดจาอะไร แต่มอง ไปทางด้านหลังที่มีวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งอยู่นิ่งๆและถามด้วย

เสียงเบาๆว่า: “หลินเจิง นายคิดยังไงบ้าง?”

วัยรุ่นคนนี้ใส่เสื้อทีเชิ้ตสีขาว มีผมทรงหน้าม้าที่ปล่อย ผมลงมาบังสายตาของเขา เขาก้มหน้าอยู่และไม่รู้ว่ากำลัง คิดอะไรอยู่ แสงแดดจากนอกหน้าต่างที่ส่องเข้ามาบนตัว ของหนุ่มคนนี้ ทำให้เขาดูดีเป็นพิเศษ

แววตาของเซียวยียี่เต็มไปด้วยความหลงใหลปลื้มใจ

“หลินเจิง?”

หนุ่มวัยรุ่นที่ชื่อหลินเจิง ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมา มอง หน้าของเซียวยียด้วยแววตาที่เย็นชา จากนั้นเขาก็หันกลับ ไป “ไม่คิดยังไง”

น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นมาก ฟังไม่ออกว่ามีความ รู้สึกอย่างไร

พอเขาเอ่ยปากพูด คนที่พูดคุยกันอยู่ด้านหน้าต่างพา กันหันไปมองเขา

แววตาของสาวๆทุกคนจะอ่อนโยนกว่า เพราะหลินเจิง เป็นหนุ่มที่หน้าตาหล่อเลยทีเดียว แต่ว่าบนตัวของหนุ่มคน นี้ไม่มีชีวิตชีวาเลย อีกทั้งนิสัยของเขาจะค่อนข้างโดด เดี๋ยวเกินไป ดังนั้นในเวลาปกติแล้ว พวกเธอจะไม่ค่อยชอบเข้าใกล้เขา

ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ สีหน้าบนใบหน้าไม่ค่อยดี จึงกัดริมฝีปากและเงียบๆไม่พูดจา

ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันนั้น ด้านนอกมีเสียง รองเท้าส้นสูงดังขึ้นกะทันหัน

“เหมือนมีคนมาแล้ว” จางยู่ลุกขึ้นมาก่อน จากนั้นเดิน ไปที่หน้าประตูและมองไป

ซูจิ๋ว ทุกคนต่างก็รู้จัก เธอเป็นคนที่เจรจากับทุกๆ

คนในตอนแรกนั่นเอง ทันใดนั้นก็เห็นคนอีกสองคนที่อยู่ ข้างๆของซูจิ๋ว ตอนแรกจางยู่ตะลึงไปสักพัก จากนั้นก็มี สติกลับมาและกำลังคิดอยู่ว่า

สองคนนี้คือใคร?

“จางยู่” ซูจิ๋วเห็นเธอแล้ว จึงหันไปเรียกเธอ

“คุณเลขาซู” จางยู่พูดคำว่าคุณเลขาซู ทำให้คนอื่น ต่างลุกขึ้นมายืน

“คุณเลขาซูมาแล้ว? พาเจ้านายใหม่ของพวกเรามาเห รอด้วยเหรอคะ?”

ทุกคนยืนขึ้นหมด นอกจากหลินเจิงหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่มุม นั้นที่ไม่แสดงอาการใดๆ

เสียงของสูงค่อยๆใกล้เข้ามา ในที่สุดซูจิ๋วก็ได้พา หานมู่จื่อและเสี่ยวเหยียนเข้าไปด้านในที่เต็มไปด้วย สายตามองของทุกคน

วันนี้หานมู่จื่อไม่ได้ใส่แว่นตาสีดำ อีกทั้งยังใส่ชุดธรรมดา แค่เสื้อแขนกุดสีขาวและกางเกงยีนส์ แล้วก็ใส่ เสื้อแขนยาวกันแดดสีฟ้าบางๆด้านนอก

หู ผมที่ยาวตรงนุ่มลื่นใช้ยางมัดผมมัดทรงหางม้าไว้หลัง อีกทั้งเธอก็ไม่ได้แต่งหน้า ดังนั้นหน้าตาดูแล้วจะมีความ อ่อนโยน บนใบหน้าเธอมีรอยยิ้มนิดๆ ดูแล้วมีความอ่อน โยนเป็นพิเศษ

แต่ในขณะเดียวกัน ก็เต็มไปด้วยสามคำนี้: รังแก

ง่าย!

“หลี่จุ้นเฟิงเหมือนอย่างที่นายพูดไว้จริงๆ ดูแล้วเจ้า นายใหม่ของเราจะเป็นผู้หญิง อีกทั้ง ….หน้าตายังสวยไม่ เบา”

เลิงเยาเยาปิดฝากล่องใส่เครื่องสำอางด้วยเสียงที่ดัง ปัง แววตามองไปที่หานมู่จื่อด้วยความอคติ

เธอเกลียดผู้หญิงที่สวยกว่าเธอ!

ถ้าจะให้ดีเธอมีความสามารถเก่งกว่าตนเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ