ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่947



บทที่947

อู๋ซินน้อยใจมาก

เขาอยากที่จะช่วยพ่อแบ่งเบาภาระ แต่เขาไม่คิดเลยว่าแอคท ลุมนี้เชื่อถือไม่ได้เลย

ไม่เพียงเชื่อถือไม่ได้ แถมยังหักหลังเขาอีกด้วย

เขาโกรธสุดขีดและบอกกับอู่ตงไห่ว่า “พ่อไอ้แอคหลุมนั้นรับ เงินผมแล้ว ยังกล้าเปิดเผยผมอีก ผมจะทำให้มันตายอย่างโหด เหี้ยม!”

อู่ตงไห่พูดอย่างเย็นชาว่า: “นายไม่ใช่โง่แบบธรรมดานะ เพียงแค่แอคหลุมยาจกคนหนึ่งที่ไม่มีเกียรติศักดิ์ เขาจะกล้ามา ต่อกรกับตระกูล ได้อย่างไร? ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลังคอยเล่น งานพวกเราอยู่!”

อู๋ซินรีบถามไปว่า “พ่อ พ่อคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ใครจะกล้าดีแบบนี้ กล้าฆ่าน้องชายของแม่ และยังฆ่าสมาชิก สำคัญของสำนักขอทานทั้งหมด ยังกล้ามาต่อกรตระกูลอย่าง เปิดเผยด้วย!”

อู่ตงไห่กัดฟัน: “พ่อก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่พ่อก็นึกไม่ออก เหมือนกัน ว่าใครจะมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ปกติตระกูลที่ เป็นศัตรูกับพวกเรา ก็ถูกพวกเราจัดการไปแล้ว พวกเขาคงไม่มี อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่จะวางแผนเรื่องที่ใหญ่แบบนี้..….…..
อู๋ซินอดไม่ได้ที่จะถาม: “พ่อหมายความว่ามีตระกูลที่มีอำนาจ ยิ่งกว่ากำลังพุ่งเป้าหมายมาทางเราหรือ?”

อู่ตงไหถอนหายใจ: “พ่อก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่พ่อมีความ รู้สึกว่าได้ทันทีว่า เยเฉินที่อยู่ที่จินหลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

“เย่เฉินหรือ?” อู๋ซินตกใจและพูดว่า “เขาคงไม่มีพลังอำนาจ มากขนาดนี้มั้ง ถ้าเขาเป็นงูเจ้าถิ่นอยู่ที่ดินหลังก็อาจจะเป็นไปได้ แต่เขาจะมีความสามารถขนาดนี้เลยหรือ? เขาจับสมาชิกหลัก ของสำนักขอทานที่อยู่ที่ซูหางทั้งหมด? ตระกูลอาจจะยังไม่มี ความสามารถนั่นเลยนะ!”

อู่ตงไห่พยักหน้า: “ที่นายพูดก็มีเหตุผล แต่เท่าที่พ่อสังเกตมา และเห็นข้อความบนโซเชียลหนึ่งข้อความ

อู๋ซินรีบถามไปว่า “ข้อความอะไร?”อู่ตงไห่พูดอย่างไม่พอใจ ว่า “น้องชายที่สมควรตายของฉัน เด็กชุดนั้นที่เขาต้องการซื้อ ตอนนี้ เป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า นหลิง”

พูดถึงประโยคนี้ อู่ตงไห่เงียบไปสักพักแล้วกัดฟันพูดว่า “ฉัน เคยสืบประวัติของเย่เฉิน เขาเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำ พร้าจินหลิง!”

“เป็นแบบนี้นี่เอง!” อู๋ซินอุทานด้วยความตกใจและพูดว่า “ถ้า เป็นแบบนี้ เด็กที่ถูกลักพาตัวเหล่านี้ ก็เป็นน้องชายน้องสาวของ เย่เฉินสินะ!”

“ใช่แล้ว!” อู่ตงไห่พูดว่า “ฉันถึงเดาว่าเรื่องนี้ เย่เฉินต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ๆ!”

อู๋ซินอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พ่อ แต่เย่เฉินน่าจะไม่มีความ สามารถที่จะทําแบบนี้ไม่ใช่หรือ? ถึงเขาจะมีคนหนุนหลังที่จิน หลิง แต่คงไม่มีอำนาจมากขนาดนี้ ถึงจะให้ตระกูลซึ่งออกหน้า พวกเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะฆ่าน้องชายพ่อและสมาชิกหลัก ของสํานักขอทานอยู่ดี!

อู่ตงไห่พูดด้วยความกังวลว่า: “นี่เป็นเรื่องที่ฉันกังวลมากที่สุด ถ้าตระกูลซึ่งเป็นคนหนุนหลังให้เขา ฉันจะไม่กลัวเลย แต่คนที่ฉัน กลัวก็คือเฉินจือข่าย!”

ตอนที่อยู่ในหลิง อู่ตงไห่พ่อลูกถูกเฉินจือข่ายไล่ออกจากป้าย จินฮานกง

ตอนนั้นขาของพวกเขาหัก และรอเฮลิคอปเตอร์มาถึงอย่าง ยากลำบาก เฉินจือข่ายไม่อนุญาตให้เฮลิคอปเตอร์จอดลงจอดที่ ลานกว้างของฝ่ายจินฮานกง หรือจะพูดว่าเขาไม่ไว้หน้าพ่อลูก ของตระกูลอื่นี่เลยก็ได้

แต่เฉินจือข่ายเป็นคนของตระกูลเย่ เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ ดังนั้นพ่อ ลูกของตระกูล ก็เลยไม่กล้าไปล้างแค้นเขา อู่ตงไห่สงสัยว่า คนที่มีความสามารถที่จะจัดการกับสำนัก

ขอทานที่ซูหางทั้งสำนักได้ มีเพียงแค่เฉินจือข่าย

อู๋ซินได้ยินการคาดการณ์แบบนี้ เขาเริ่มที่จะลนลานขึ้นมาแล้ว เขามองไปหาอู่ตงไห่ และถาม โพล่งไปว่า “พ่อ ทำไมเฉินจือข่าย ถึงคอยช่วยเหลือเย่เฉินแบบนี้? เขาเป็นเพียงแค่คนออกเสียงของตระกูลเปเท่านั้นเอง”

“ตามความจริงแล้ว ถ้าเป็นการตัดสินใจของเขาเอง เขาไม่มี ทางที่จะเคลื่อนย้ายกองกำลังครั้งใหญ่แบบนี้ เบื้องหลังของเรื่อง นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเยีแน่นอน เขาทำไมถึงกล้าใช้ ความสัมพันธ์เขากับตระกูลเย่เพื่อไปช่วยเยเฉิน?”

หรือว่า……..

อู๋ซินพูดถึงประโยคนี้ สีหน้าของเขาดูแย่มาก

เขามองไปที่พ่อของเขาและถามด้วยเสียงที่เบาว่า “พ่อ เย่ เฉันคงไม่ใช่คนของตระกูลเยใช่มั้ย? แบบนี้ก็ดูออกแล้วว่า เขา เป็นคนของตระกูลเย ดังนั้นเฉินจือข่ายถึงไว้หน้าเขา และเขาเป็น คนของตระกูลเย่ ถึงได้มีพลังอำนาจมากขนาดนี้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ