ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1953



บทที่ 1953

รถตู้ที่ยังหวั่นถึงนั่งมา ขับออกจากตัวเมืองโตเกียวด้วยความ รวดเร็ว มุ่งตรงไปยังพื้นที่ภูเขาแถบชานเมืองของโตเกียว

แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีภูเขาเยอะ แต่เมืองหลวงอย่างโตเกียวกลับตั้ง อยู่ในกวนตงสิงหยวน ดังนั้นพื้นที่ทั่วทั้งโตเกียวจึงเป็นพื้นที่ราบ ในเขตตัวเมืองแทบจะมองไม่เห็นยอดเขา ต้องขับออกมาสี่สิบ กว่ากิโลไปจนถึงเขตนิชิทามะโตเกียว ถึงจะเริ่มเข้ามาในเขต เขา

เมื่อเข้ามาในเขตดังกล่าวก็จะเป็นเส้นทางบนภูเขาซะส่วน ใหญ่ แต่ว่าสภาพถนนกลับดีมาก รถยนต์เลี้ยวโค้งแล้วโค้งเล่า ไม่หยุด ยิ่งขับขึ้นไปสูงจากระดับน้ำทะเลเรื่อยๆ

เนื่องจากว่าเป็นเขตภูเขา ซ้ำยังเป็นเวลากลางคืน บนถนน สายนี้จึงไม่มีรถคันอื่นขับไปมาเลย ถ้ามองลงมาจากข้างบน ก็ จะเห็นแค่แสงไฟจากรถที่ซ่งหวั่นถึงนั่งกำลังแล่นอยู่บนถนน

ในตอนนี้ซึ่งหวั่นถึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

แม้ว่าสุดท้ายแล้วการร่วมงานกับบริษัทนิปปอนสติในครั้งนี้ ตระกูลซึ่งอาจจะเสียสิทธิ์ถือหุ้นที่มากกว่าไป แต่ยังดีที่สิทธิ์นี้ก็ ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือของบริษัทนิปปอนสตีเหมือนกัน ถือเป็นวิธี แก้ไขที่เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย

ตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูล แม้ว่าซึ่งหวั่นถึงจะพยายามมาตลอด แต่ก็ไม่เคยทำผลงานที่โดดเด่นออกมาได้เลยสักอย่าง

ดังนั้น เธอจึงให้ความสำคัญกับการร่วมงานกับบริษัท นิปปอนสติในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

และเธอก็หวังว่าจะสามารถใช้ผลการร่วมงานในครั้งนี้ พิสูจน์ ให้ทุกคนเห็นว่า เธอมีความสามารถพอที่จะทำให้ตระกูลซึ่งดี ขึ้นอย่างแน่นอน

ในตอนนี้เอง รถขับมาถึงครึ่งทาง ซึ่งเป็นบริเวณริมเขาพอดี สามารถมองวิวยามกลางคืนเบื้องล่างของโตเกียวได้อย่าง ชัดเจน

เฉินย่านที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งหวั่นถึง หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป วิวนอกหน้าต่างอย่างตื่นเต้น พร้อมกับอุทานออกมาว่า “มอง จากบนนี้วิวกลางคืนของโตเกียว ดูพิเศษสุดๆไปเลย…

เธอพูดพร้อมกับถ่ายรูปไปด้วยหลายๆรูป จากนั้นก็เอ่ยพูด อย่างเสียดายว่า “ไอหยา โทรศัพท์ถ่ายไม่ชัดเลย ถ่ายออกมา แล้วไม่สวยเหมือนภาพตรงหน้าเลย!!

ซึ่งหวั่นถึงยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ตอนกลางคืนแสง

มันน้อย เพราะฉะนั้นต้องเปิดแสงนานๆ ถ้าเธออยากถ่ายวิว

กลางคืน ต้องหาสถานที่ที่สายตาเปิดกว้างได้ และต้องมีกล้อง

เลนส์เดียวพร้อมขาตั้งกล้อง จากนั้นก็ปรับโหมดเปิดรับแสง

นานๆ ถึงจะสามารถถ่ายความรู้สึกในตอนนี้ออกมาได้

เฉินย่านเอ่ยพูดอย่างช็อกๆว่า “ประธานซ่ง คุณรู้เรื่องพวกนี้ ด้วยเหรอ!
ซ่งหวั่นถึงพูดยิ้มๆ “ตอนเรียนมหาลัยคนเขานิยมเข้าชมรมกัน คนอย่างฉันมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงและเต้นค่อนข้างน้อย เลยเลือกถ่ายภาพนะ

เฉินย่านพูดยิ้มๆว่า “งั้นถ้ามีโอกาสฉันขอเรียนกับคุณได้ ไหม! ”

ซึ่งหวั่นถึงพยักหน้า “ถ้าสัญญาราบรื่นดีทุกอย่าง เราก็จะพัก ผ่อนอยู่ที่โตเกียวต่อสักสองสามวัน ถึงตอนนั้น ฉันจะซื้อกล้อง กับขาตั้งกล้อง แล้วเราค่อยมาถ่ายวิวกลางคืนที่นี่กัน

“ดีเลยค่ะ!” เฉินย่านเอ่ยพูดอย่างร่าเริง “แบบนี้เราจะได้เดิน เที่ยวเล่นที่โตเกียวด้วย!”

ขณะนั้นเอง รถก็ขับมาถึงทางโค้งที่เป็นรูปตัวบ คนขับรถจึง ผ่อนความเร็วลงเพื่อเข้าโค้ง หลังจากผ่านโค้งมาได้อย่างราบ รื่น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างหน้า

คนขับรถเปิดไฟสูงโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็เบิกตาอ้าปาก กว้างเมื่อพบว่า มีรถบรรทุกคันใหญ่แล่นอยู่กลางถนน และ กำลังปล่อยเกียร์พุ่งมาทางรถของเขา

รถของอีกฝ่ายใหญ่มาก แล้วพอปล่อยเกียร์ความเร็วก็ยิ่งสูง บนเส้นทางที่เป็นภูเขาแบบนี้ ถ้าเกิดว่าชนกันขึ้นมา ก็แทบไม่ กล้าจินตนาการถึงผลลัพธ์คนขับรถเปิดไฟกะพริบพร้อมทั้งบีบ แตรไม่หยุด แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด

ที่น่ากลัวก็คือ ทางบนภูเขาเดิมทีมันก็แคบอยู่แล้ว ประมาณ รถสองคันวิ่งสวนกันได้ แต่อีกฝ่ายกลับขับกลางถนน ไม่มีช่องว่างให้รถอีกคันหลบเลยสักนิด!

เมื่อซ่งหวั่นถึงเห็นแบบนั้น ในหัวก็มีบางอย่างฉายวาบเข้ามา “รถบรรทุกคันนั้นกำลังทำอะไร?! ทำไมไม่ลดความเร็ว

ไม่ทันรอให้เธอเข้าใจ รถบรรทุกคันนั้นก็ชนเข้ากับด้านหน้า ของรถตู้ทันที!

เนื่องจากว่ารถบรรทุกปล่อยเกียร์ แถมยังบรรทุกดินโคลนมา เต็มรถ ดังนั้นน้ำหนักและแรงชนจึงมีเยอะมาก

เมื่อรถที่ซ่งหวั่นถึงนั่งมาเผชิญหน้ากับรถบรรทุก ก็เทียบเท่า กระดาษดีๆนี่เอง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ