ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1861



บทที่ 1861

ซูจือหยูรู้ว่า บันทึกการเข้าออกนอกเมืองเป็นเอกสารความลับ ของศุลกากร แต่กล้องวงจรปิดของสนามบินนั้นไม่ใช่

ดังนั้น เธอแอบคิดไตร่ตรองในใจว่า “หากผู้มีพระคุณได้นั่ง เครื่องบินจากประเทศญี่ปุ่นกลับมาที่ประเทศแล้วล่ะก็ งั้นเขาจะ ต้องหนีบันทึกกล้องวงจรปิดของสนามบินญี่ปุ่นไม่พ้นอย่าง แน่นอน ขอเพียงแค่ฉันเปิดอ่านบันทึกเทปอย่างละเอียด ก็จะ ต้องหาร่องรอยของเขาเจออย่างแน่นอน”

“เพียงแต่ ภาระงานนี้อาจจะใหญ่โตมโหฬารมาก…

“อีกทั้ง ที่เคยเห็นผู้มีพระคุณ ก็มีเพียงแค่ฉันกับพี่ชายเท่านั้น ดังนั้นอย่างมากที่สุดฉันให้พี่ชายมาให้ความช่วยเหลือแก่ฉันได้ คนอื่นๆคิดอยากจะช่วยก็ช่วยไม่ไหว”

คิดถึงตรงนี้ ซูจือหยูแม้จะรู้สึกว่าโอกาสค่อนข้างที่จะเลือนราง แต่ยังคงไม่ยอมแพ้ เธอเอ่ยปากขึ้นในทันทีว่า “ย่านจื่อ งั้นก็ รบกวนเธอช่วยฉันทำสำเนาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด จากนั้นใช้ อินเทอร์เน็ตที่เป็นของตระกูลซูโดยเฉพาะส่งมาให้ฉัน

ข้อมูลที่กว้างใหญ่มหาศาลราวกับทะเล ถ่ายโอนขึ้นมาวุ่นวาย มาก อินเทอร์เน็ตธรรมดาคิดอยากจะถ่ายโอนบันทึกเทปกล้อง วงจรปิดที่ติดต่อกันหลายวันของกล้องจำนวนมาก หลากหลาย สนามบิน เกรงว่าแค่ถ่ายโอนก็ต้องสองสามเดือน
แต่ว่า ตระกูลระดับสูงสุดอย่างตระกูลนี้ ต่างก็มีอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่เป็นของตัวเอง โดย เฉพาะ ถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วมาก เวลาหนึ่งถึงสองวันก็สามารถ ถ่ายโอนมาได้ทั้งหมด

ฝ่ายตรงข้ามตอบรับลงมาในทันที เอ่ยว่า “ฉันจะให้คนไป จัดการเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้ก็จะเริ่มถ่ายโอนข้อมูลให้กับเธอ

ในขณะที่พูด เธอก็อดไม่ได้ที่จะเตือนซูจือหยู “จอหยู บันทึก กล้องวงจรปิดมากมายขนาดนี้ ดูจบทั้งหมดเกรงว่าต้องใช้เวลา นานมาก อีกทั้ง หากผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้สุดท้ายกลับ ไม่ได้กลับประเทศมาจากประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ กำลังใจและกาย ทั้งหมดที่เธอทุ่มลงไปก็จะสูญเปล่า หากเธอมีความผิดพลาดและ การตกหล่นแม้เพียงเล็กน้อย ตกหล่นผู้มีพระคุณของเธอไปใน หมู่นักท่องเที่ยวจำนวนเป็นล้าน งั้นกำลังใจและกายที่เธอทุ่มลง ไปก็จะไหลไปตามกระแสน้ำเช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนหน้าที่จะเริ่ม ลงมือทํา เธอจะต้องคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน

ซูจือหยูยิ้มเล็กน้อย “สิ่งเหล่านี้ต่างก็ไม่ใช่ปัญหา! ต่อให้ต้อง ดูบันทึกกล้องวงจรปิดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหนึ่งปี ฉันก็ จะต้องยืนหยัดดูจนจบให้ได้อย่างแน่นอน”

ฝ่ายตรงข้ามถอนหายใจอย่างจนปัญญา เอ่ยว่า “โอ๊ย ก็ได้ ยังเป็นซูจือหยุคนนั้นที่ฉันรู้จักจริงๆ พลังที่เรื่องใดๆ ก็ตามไม่ถึง จุดหมายสาบานว่าจะไม่เลิกราแบบนี้ที่อยู่บนร่างกายของเธอ คือ สิ่งที่ชีวิตนี้ฉันต่างก็ไม่มีทางที่จะเรียนรู้ได้…”
ซูจือหยูหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “นั่นเป็นเพราะเธอยังไม่เจอกับ เรื่องที่ทำให้เธอไม่ถึงจุดหมาย สาบานว่าจะไม่เลิกรา หากเธอ พบเข้าล่ะก็ เธอก็จะเป็นเหมือนกันกับฉัน”

ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะพร้อมกับหยอกล้อว่า “ทำไม? คือเธอเอา ผู้มีพระคุณของเธอคนนี้ เห็นเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวแล้วหรอ?”

ซูจื่อหยูหัวเราะเยาะออกมา เอ่ยว่า “เจ้าชายขี่ม้าขาวนับเป็น อะไรได้ แค่ขี่ม้าเป็นก็เท่านั้น ผู้มีพระคุณของฉันคนนี้ ความสามา รถนะมากกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวมากนัก!

“จิ๊ๆๆ…” ฝ่ายตรงข้ามจิ๊ปากไม่หยุด ทอดถอนใจออกมาว่า “งั้นฉันขอแสดงความยินดีกับเธอล่วงหน้าที่เธอหาผู้มีพระคุณ ของเธอเจอ ถือโอกาสแก้ไขปัญหางานแต่งงานเรื่องสำคัญของ เธอทิ้งไปด้วยกันเลย หากเป็นแบบนี้จริงๆล่ะก็ งั้นใช้เวลาและ กำลังกายกำลังใจไปหาเขาหน่อยก็ไม่ถือว่าขาดทุน ถึงอย่างไรก็ เป็นเรื่องดีที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพอร์เฟกต์!

ซูจือหยูที่อยู่ในสายโทรศัพท์ฝั่งนี้คิดไม่ถึงว่าจะเขินจนหน้า แดงขึ้นมา โพล่งออกไปว่า “เธอพูดจาวอะไรของเธอน่ะ! ฉัน เพียงแค่อยากหาผู้มีพระคุณให้เจอ ขอบคุณเขาต่อหน้าที่ เท่านั้น!

“ฉันไม่เชื่อเธอหรอก! ” ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะคิกคักพร้อมกับ เอ่ย “หากเพียงแค่เพื่อขอบคุณ ตอนที่เขาช่วยชีวิตเธอ เธอไม่ได้ พูดขอบคุณหรอกหรอ?”

ซูจือหยตอบกลับอย่างค่อนข้างที่จะเก้อเขิน “ตอนนั้นฉันพูดแล้ว…”

ฝ่ายตรงข้ามจึงเอ่ย ” ในเมื่อตอนนั้นต่างก็พูดว่าขอบคุณไป แล้ว เวลานี้มีความจําเป็นอะไรต้องหาเขาออกมาให้เป็นเรื่อง วุ่นวายซับซ้อนอีก หรือว่าก็เพื่อที่จะขอบคุณต่อหน้าอีกครั้งจริงๆ หรอ?”

ซูจือหยูเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างที่จะเขินอาย “ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ แค่เพื่อขอบคุณหรอก ทางตระกูลช่วงนี้ก็กำลังตามหายอดฝีมือ ระดับสูงสุดร่วมงานกัน ฉันก็เลยคิดว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีในการยิง ปืนนัดเดียวได้นกสองตัวพอดี ไม่เพียงแต่สามารถขอบคุณเขา ต่อหน้า ยังสามารถช่วยตระกูลแนะนำจับคู่ ดูว่าทั้งสองฝ่ายจะมี โอกาสร่วมมือกันสักหน่อยหรือเปล่า”

ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ งั้นก็คือ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวแล้ว ไม่เพียงแต่สามารถขอบคุณต่อ หน้า ยังสามารถขยายการร่วมมือกับตระกูล ยิ่งสามารถหา ลูกเขยที่ดีให้กับตระกูลได้อีกด้วย!!

ซูจือหยูรู้สึกข้างแก้มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยในทันที อดไม่ได้ที่จะ เอ่ยขึ้นด้วยความโกรธเคือง “เธอน่ะปากพูดอะไรดีๆไม่เป็นเลย จริงๆ ฉันไม่พูดจาไร้สาระกับเธอแล้ว เธอรีบเตรียมข้อมูลให้ฉัน ให้เรียบร้อย จากนั้นฉันทางนี้ก็จะเริ่มลงมือกรองแล้ว!

ฝ่ายตรงข้ามถึงได้หยุดหยอกล้อต่อไป เอ่ยอย่างจริงจังว่า “ฉันจะจัดการลงไปเดี๋ยวนี้ แต่ว่าวันนี้มองดูก็เป็นวันเตรียมส่ง ท้ายปีเก่าวันที่ยี่สิบแปดแล้ว คืนมะรืนนี้ก็คือคืนก่อนวันตรุษจีนตอนที่บ้านพวกเธอฉลองตรุษจีนกฎประเพณีมากมายขนาดนั้น เธอทําทันหรอ?”

ซูจือหยูเอ่ย “ทำไม่ทันก็ต้องทำ เธอรีบเตรียมให้ฉัน อย่าล่าช้า โดยเด็ดขาด”

“ได้ ฉันรู้แล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ