ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 192 คุณไม่มีปัญญาซื้อสักคัน (2)



บทที่ 192 คุณไม่มีปัญญาซื้อสักคัน (2)

เขามีความคิดเป็นอื่นต่อเชียวชูหนมาตลอด และก็รู้ว่าเธ่เฉิน เป็นใคร เพียงแต่แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ได้รู้ว่าคนตรงหน้าก็คือสามียากจนคนนั้นของเซียวซูหน เกา จวิ้นเว่ยจึงมองดูเย่เฉิน แล้วทำเป็นถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ไม่รู้ว่าตนนี้คุณแม่ทำงานอยู่ที่ไหน?

เย่เฉินพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ผมเป็นแค่คนตกงาน

จางเจวียนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจอยู่ด้านข้างว่า “งั้นก็แสดงว่า รอให้ภรรยาเลี้ยงหรือ?”

สายตาเกาจวิ้นเว่ยฉายแววไม่พอใจ เมื่อก่อนตอนที่เซียวห ร้นยังอยู่ที่บริษัทเซียวซื่อ เขาก็รู้สึกดีกับเซียวซูหน ตอนนี้ได้ยิน ว่าเซียว หนออกมาเปิดบริษัทเองแล้ว เขาจึงตั้งใจเข้าหาเซียว ซูหน เสนองานว่าจะทำการต่อเติมศูนย์นิทรรศการใหม่ แล้ว เชื้อเชิญเซียวซูหนมา

คิดว่าตนเองได้มีโอกาสแสดงความมั่งคั่งของตนต่อหน้าเซียว ชูหน จึงมองดูเเฉิน พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “เย่เฉิน ที่จริงวันนี้คุณ ไม่ควรมาที่นี่ วันนี้คนที่มาร่วมงานมอเตอร์โชว์ ล้วนเป็นคนที่ มีหน้ามีตามีอิทธิพลในเมืองจีนหลัง เป็นแค่เขยแต่งเข้าแล้วมาที่ นี่ไม่เป็นการทำให้หวั่นเสียหน้าหรือ?”

เซียวซูหนได้ยินประโยคนี้แล้ว สีหน้าดูแย่ลงทันที เธอคิดไม่ถึงว่าเกาจนเว่ยจะพูดจาเสียดสีเเฉิน ในใจจึงไม่ค่อยพอใจ

แต่ไม่รอให้เขียวชูหนได้พูดอะไร สายตาของเยเฉันก็เยือก เย็นลง พร้อมพูดขึ้นว่า “นิทรรศการแบบนี้ดูดีมากหรือ? หาก ไม่ใช่เพราะรถของผมอยู่ที่นี่ ต่อให้เชิญผมก็ไม่มา

“รถของคุณอยู่ที่นี่? คุณไม่ดูสถานะของตัวเองเลยหรือ?”

จางเจวียนที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาอย่างดูถูกว่า “คุณไม่รู้หรือ ว่ารถที่นำมาโชว์ที่นี่ ล้วนเป็นรถราคาเริ่มต้นที่หลักล้านหรือ? ฉัน ว่าคนจนๆอย่างคุณ แม้แต่ล้อรถที่นี่ก็ไม่มีปัญญาซื้อ

เกาจวิ้นเว่ยยิ่งไม่พอใจเย่เฉิน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโอหังว่า “เ เฉิน ผมเข้าใจคนที่มาเป็นเขยแต่งเข้าอย่างคุณ รอให้มีคนเลี้ยง ไม่ใช่หรือ? อยากได้ทานอะไรที่มีหน้ามีตา จึงจะให้ชหรับซื้อรถ ให้คุณใช่ไหม?”

เซียวซูหนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นซาว่า “ประธานเกา เย่เงินไม่ จําเป็นต้องอาศัยฉันซื้อให้ รถที่ฉันขับ เย่เฉินเป็นคนซื้อให้

เกาจวิ้นเว่ยถึง คิดไม่ถึงว่าคนจนๆอย่างเเฉินแบบนี้ ยังจะมี ปัญญาซื้อรถให้กับเซียวซูหน

จางเจวียนที่อยู่ด้านข้าง มองดูเย่เฉินอย่างไม่พอใจ พร้อม หัวเราะพูดขึ้นว่า “อย่างคุณน่ะหรือที่มีปัญญาซื้อรถ?”

พูดเสร็จ ก็หันไปพูดกับเซียวซูหนว่า “ซูหน สามีของเธอซื้อ รถอะไรให้เธอ? คงไม่ใช่CheryQQuะ”

เซียวซูหนพูดว่า “เย่เฉินซื้อทั้งหมดสองคัน คันหนึ่งชื่อให้แม่ฉันเป็นบีเอ็มดับเบิลยู520 อีกดันซื้อให้พ่อของฉันเป็นบีเอ็ มดับเบิลยู 530″

จางเจวียนพูดขึ้นอย่างแปลกประหลาดใจว่า “โอ้ คิดไม่ถึงว่า สามีของเธอจะมีตังค์เหมือนกัน” เกาจนเวยสายหัว พร้อมพูดขึ้นอย่างดูถูกว่า “บีเอ็มดับเบิล

ยู520? รถแบบนี้ที่บ้านผมให้คนใช้ขับ คู่ควรกับชูหนด้วยหรือ

จากนั้น เขามองดูเย่เฉิน พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เย่เฉิน รถบีเอ็ มดับเบิลยู520ราคาถูกมาก หากผ่อนจ่าย เงินดาวน์ก็แค่หนึ่ง แสนเอง แต่รถหรูของที่นี่ ล้วนระดับล้าน คุณไม่มีปัญญาซื้อรถหรู ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปมีบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 5 อย่างที่สุดก็แค่บีเอ็ มดับเบิลยู 740 อีกอย่าง งานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ยังมีรถ สปอร์ตหรูหราอันดับต้นๆ ของโลกสองคัน ครั้งนี้คุณจะได้เปิดหู เปิดตาจริงๆแล้ว”

เย่เฉินยิ้มแย้ม ชี้ไปที่รถหรูชั้นนำสองคนที่อยู่บนเวที แล้วถาม ว่า “คุณพูดว่าผมไม่มีปัญญาซื้อรถหรูที่อยู่ที่นี่ งั้นผมขอถามคุณ ว่า รถสปอร์ตหรูหราอันดับต้นๆของโลกสองคันนี้ คุณมีปัญญา ซื้อไหม?”

เกาจวิ้นเว่ยพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “ที่อยู่ในศูนย์นิทรรศการนี้ นอกจากสองคันนี้ที่ผมไม่มีปัญญาซื้อ อย่างอื่นผมมีปัญญาซื้อได้ ทุกคัน คุณล่ะ? คนจนๆอย่างคุณ ผมว่าคุณคงไม่มีปัญญาซื้อสัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ