ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 120 ท่านเยอยู่นี่



บทที่ 120 ท่านเยอยู่นี่

แววตาเย่เงินเย็นชามาก แต่คิดว่าเป็นการให้เกียรติต่อหวังเต้า คุณ ไม่ไปถือสาหาความอะไรกับสองคนนั้นที่ไม่รู้อะไร

ถังเขียนและหลิวเจี้ยนหัวเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็ยิ่งดูถูกเก๋เฉิ นมากยิ่งขึ้น ถูกพูดประชดเหยียดหยามขนาดนี้แล้ว ไม่กล้าที่จะ พูดโต้ตอบอะไรออกมาบ้างเลย เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ

หลิวเจี้ยนหัวยังคงพูดเสียดสีต่อ: “แหม ฉันอยากจะบอกว่า หนตาบอดเสียจริง ในห้องเรียนของพวกเรามีผู้ชายที่ดี ๆ มากมายไม่เอา กลับมาเลือกผู้ชายห่วย ๆ อย่างเช่เฉินทำไมกัน?

ขณะที่กำลังพูด ในตอนนั้นเอง ประตูของห้องอาหารถูกคน หนึ่งเปิดขึ้นอย่างกะทันหัน

“เสียงดังตุ้บ……”

ชายบึกบึน ในชุดสีดา คนเดินบุกเข้ามาในห้องอาหาร หนึ่ง ในนั้นเป็นชายที่คาบบุหรี่และตัดทรงผมสกินเฮดพูดว่า “ทุกคน ออกไปให้หมด ฉันจะเอาห้องอาหารห้อง

หลิวเจี้ยนหัวขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แกจะทำอะไร? มองไม่เห็น เหรอว่าพวกเรากำลังทานอาหาร? ”

พูดจบ เขาทุบโต๊ะแล้วพูดว่า: “ที่นี่คือ Maple Forest Hotel ไม่เข้าใจระเบียบการใครมาก่อนได้ก่อนใครมาหลังได้ทีหลังหรือยังไง? –

ใครมาก่อนได้ก่อนใครมาหลังได้ทีหลัง? “

ชายที่คาบบุหรี่และตัดทรงผมสกินเฮดเดินไปยังด้านหน้าของ หลิวเจี้ยนหัว และตบไปที่หน้าของเขาทันที หลิวเจี้ยนหัวถูกตบ ล้มกองอยู่บนพื้น ใบหน้าปูดบวมอย่างมาก

เพิ่งกล้าหือกับกลั้นเหรอ? กูคือลูกน้องของท่านหงหาชื่อว่า หลัมเป้า! เมิงคิดว่าเมิงเป็นใคร! ”

หลินเป้า? ”

หลิวเจี้ยนหัวเอามือกุมหน้า แววตาแสดงความหวาดกลัว อย่างมาก หลินเป้าคือหัวหน้าแก๊งที่มีชื่อเสียงในบริเวณพื้นที่แห่ง นี้ แม้ว่าจะไม่โด่งดังในเมืองจีนหลัง แต่สำหรับแก๊งพวกเขาเหล่า นี้ ไม่มีใครกล้าที่จะล่วงเกิน

“ขอโทษด้วยเฮียเป้า พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้แล้ว! ” หลินเป้าหัวเราะอย่างเย็นชา มองไปยังทุกคนและดุด่าว่า “เฉยกันอยู่ทำไม ยังไม่รีบออกไปอีก!!

ต่งรั่งหลินและเซียวซูหนตระหนกตกใจ จึงรีบหลบไปอยู่ด้าน

หลังของเย่เฉิน

เยเฉันมองไปที่หลินเป้า พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ถือว่าให้ เกียรติต่อหงห้า แกรีบออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ฉันจะปล่อยชีวิตแก
* ให้ตายสิ เย่เฉินแกบ้าไปแล้วเหรอ นั่นคือหลินเป้า เฮียเป้า! ” “ขอโทษด้วยเฮียเป้า พวกเราไม่สนิทสนมกับเเฉิน คุณมีเรื่อง อะไรก็ไปจัดการกับเขาเอา อย่าได้ทำร้ายพวกเราเลย……

ในใจของหลิวเจี้ยนหัวและถังเงี่ยนค่ายเงินอย่างรุนแรง แก จะมาแกล้งทําเป็นอวดดีอะไรอีก นี่คือหลินเป้าลูกน้องของท่าน หงห้า คือผู้โหดร้ายที่ฆ่าคน หากแกอยากตายก็ไม่ใช่ว่าจะหา ทางตายด้วยวิธีแบบนี้

แต่ทว่าชายที่ชื่อหลินเป้ากลับมีท่าที่แสดงถึงความสงสัย เขา มองไปที่เเฉินแล้วเหมือนกับว่านึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ แล้วสีหน้า ท่าทีก็เปลี่ยนไปทันที ลองพูดถามดูว่า “ท่านคือ เยเฉิน…….ท่าน เย? ”

หลินเป้าติดตามท่านหงหามานาน เคยได้ยินค้าราลือถึงเยเงิน ขณะนี้เขานึกขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน

เยเฉันพูดอย่างเยือกเย็นว่า: หมายความว่าเมืองจีนหลังมีเ เงินสองคนงั้นเหรอ? !”

หลินเป้าเหมือนกับถูกฟ้าผ่า รีบคุกเข่าลงไปที่พื้นทันที “ขอโทษด้วยท่านเอาเป้าไม่รู้ว่าเป็นท่าน ถึงได้ล่วงเกินไป อา เป้าสมควรตายจริง ๆ !

หลิวเจี้ยนหัวเห็นสถานการณ์นี้แล้ว ตะลึงและพูดว่า เฮียเป้า มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า คนนี้ชื่อเย่เฉินจริง แต่เขาเป็นเพียง แค่ลูกเขยที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง ไม่นับว่าเป็นท่านผู้ใหญ่ที่สูงศักดิ์ อย่างไร!
หลินเป้าได้ยินคำพูดดังกล่าว หน้าซีดเลยทีเดียว และถีบหลิว เจี้ยนหัวกระเด็นลงไปกองกับพื้น : “แม่ง ถึงอยากตายหรือไง กล้า ที่จะดูถูกท่านเย่ มาดูกันว่าวันนี้จะต่อยถึงให้ตายอย่างไรดี

แม้ว่าหลินเป้าจะมีชื่อเสียงเบอร์หนึ่งในบริเวณพื้นที่แห่งนี้ แต่ ในใจเขาชัดเจน ว่าตนเองก็เป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งของท่านหงห้า และการพบเจอกับเย่เฉิน แม้แต่ท่านหงห้ายังต้องคุกเข่าและเสีย ส่วนตนเองนั้นแม้แต่จะเลียก็ยังไม่มีสิทธิ !

“มึงอีกคนไอ้สารเลว แม่งกล้าดูถูกท่านเย่! “ ขณะที่กำลังพูด หลินเป้าก็หันกลับไปตบหน้าของถังเรียน จน ปากของเธอมีเลือดไหลออกมา

“พอได้แล้วหลินเป้า พวกเรายังจะทานข้าวกันต่ออีก แกรีบไป เถอะ! ”

เย่เฉินก็ไม่อยากที่จะคิดเล็กคิดน้อยถือสาอะไรกับหลินเป้า ท่าทาโบกมือ เพื่อให้เขาออกไป

หลินเป้าคำนับและพูดว่า “ท่านเย่วางใจเถอะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้! “

พูดจบ หลินเป้าก็คล้ายกับหมาพันธุ์ปั๊ก ที่รีบออกไปจากห้อง อาหารทันที

ภายในห้องอาหาร หลิวเจี้ยนหัวและถังเจียนทรมานเป็นอย่าง มาก เมื่อครู่เย่เฉินที่ถูกพวกเขาทั้งสองดูถูกเหยียดหยาม กลับ กลายเป็นทาน เฮียเป้าเรียกขาน ตกลงเรื่องราวมันเป็นมายังไงกันแน่?

คงจะต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดกันเป็นแน่ เยเงินก็คือคนที่ไม่ได้ เรื่องได้ราว เหมาะสมที่จะเรียกว่าท่านได้อย่างไร?

หวังเค้าคนพูดกับทั้งสองว่า “พวกเธอทั้งสอง ต่อไปควรเพิ่ม ความระมัดระวังรอบคอบหน่อย ออกมาด้านนอกต้องรู้จักถ่อม ตัวบ้าง อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด ในใจต้องคำนึงถึงความ เหมาะสม วันนี้ดีที่มีเย่เฉินอยู่ ไม่งั้นพวกเธอทั้งสองคงแย่หนัก แน่นอน !”

หลิวเจี้ยนหัวและถังเจียนที่เพิ่งถูกหลินเป้าทำร้าย ขณะนี้ไม่ กล้าเพียงแม่แต่จะผายลม

หวังเต้าคนก็รีบพูดกับเเฉินต่อว่า “เเฉิน ลำบากนายแล้ว ฉันเป็นตัวแทนทุกคนดื่มคารวะนายหนึ่งแก้ว ขอบคุณนาย มาก! ”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “แค่เรื่องเล็กน้อย

วันรุ่งขึ้น เซียวซูหนได้รับการติดต่อจากบริษัทก่อสร้างสิ้นเหอ ให้ไปสัมภาษณ์งาน

เวลาสัมภาษณ์คือช่วงบ่าย เย่เฉินได้อาศัยจังหวะช่วงที่เชี่ยวช หวั่นไม่ได้สนใจตน โทรศัพท์ไปหาหวังเจิ้งกาง

เมื่อโทรศัพท์ต่อสายได้แล้ว หวังเจิ้งกางก็ได้ทักทายด้วยน้ำ เสียงที่เคารพ “อาจารย์เย ท่านมีอะไรให้รับใช้? ”
“พอดีภรรยาของฉันจะไปสมัครงานที่บริษัท เย่เฉินพูดว่า ก่อสร้างสิ้นเหอ ฉันโทรหาคุณเพื่อต้องการทราบรายละเอียด เกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้สักหน่อย

หวังเจิ้งกางตกใจและพูดว่า “บริษัทก่อสร้างสิ้นเหอ? บริษัท แห่งนี้คือวิสาหกิจที่ตระกูลหวังลงทุนและครองหุ้นส่วนทั้งหมด คุณเชียวจะมาสมัครงานที่บริษัทแห่งนี้เหรอ? อย่างนี้คงจะไม่เป็น ธรรมต่อคุณเฑียวสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะปลดตำแหน่งประธาน กรรมการบริษัทออกเลย ให้คุณเขียวเข้ามารับตำแหน่งแทน? ”

เย่เฉินได้ยินดังนั้นแล้วก็ตกใจ บริษัทก่อสร้างสิ้นเหอเป็นของ ตระกูลหวังซึ่งเขาคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้

ถ้าหากได้รับความช่วยเหลือจากหวังเจิ้งกาง ก็จะดีมาก แต่ คิดไปคิดมา ภรรยาต้องการอาศัยความสามารถของตนเอง เ เฉินจึงพูดกลับไปว่า: “คงไม่ต้องหรอก รบกวนคุณเมื่อถึงเวลา สัมภาษณ์ ช่วยจัดการให้ภรรยาของฉันสัมภาษณ์งานผ่านก็เพียง พอแล้ว”

หวังเจิ้งกางพูดอย่างเคารพว่า “ตกลงอาจารย์เย่ ฉันจะไป ดำเนินการเดี๋ยวนี้”

ทางด้านนี้ หลังจากหวังเจิ้งกางวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็รีบสั่ง ให้ผู้ช่วยของตนติดต่อไปยังผู้บริหารระดับสูงของบริษัทก่อสร้าง สิ้นเหอเพื่อแจ้งรายละเอียดดังกล่าว เรื่องที่อาจารย์เยรับสั่งมา เขาจะต้องจัดการให้เสร็จอย่างสวยงาม
เวลาบ่ายสอง เขียวชหนเตรียมออกเดินทางไปสัมภาษณ์งาน ที่บริษัทก่อสร้างสิ้นเหอ

เนื่องจากวันนี้รถยนต์ได้นำส่งไปเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงและตรวจ สภาพรถ ดังนั้นเเฉินและเซียวซูหนจึงต้องเรียกใช้รถบริการ แต่พอดีช่วงเวลานี้เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งสองคนยืนรอรถ ข้างทางอยู่เป็นเวลานาน รถบริการก็ยังไม่มารับสักที

เซียวซูหนค่อนข้างจะร้อนใจ พูดอย่างเป็นกังวลว่า “หาก สายไปกว่านี้ จะพลาดการสัมภาษณ์งานที่บริษัทก่อสร้างสิ้นเหอ ทำให้เกิดความประทับใจที่ไม่ดีอย่างแน่นอน รู้อย่างนี้แล้วคงไม่ นํารถยนต์ไปเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงหรอก…….

เย่เฉินก็ไม่มีหนทางเช่นกัน ดูคิวที่เรียกใช้รถบริการ ยังคงมี อีกห้าสิบกว่าคิวจึงจะถึงคิวของตนเอง วางแผนผิดพลาดไปจริง

ขณะนั้นเอง เงาของรถ โรลส์-รอยซ์สีดำ ขับมาจอดอย่างช้า ๆ ที่ด้านหน้าของทั้งสองคน

เมื่อเปิดกระจกรถลง ผู้ที่อยู่ในรถคือหวังเจิ้งกาง เขาแสดง ท่าทีตกใจแล้วพูดว่า “คุณเย่ คุณกำลังรอรถบริการกันอยู่ใช่ ไหม? ”

เย่เฉินตะลึงเล็กน้อย หวังเจิ้งกางมาได้อย่างบังเอิญเกินไปเห รอเปล่า?

แล้วก็พูดว่า ฉันกำลังจะพาภรรยาของฉันไปสัมภาษณ์งานที่ บริษัทก่อสร้างสิ้นเหอ คุณทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ