ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1012



บทที่ 1012

เซียวฉางเฉียนทำได้เพียงพูดอย่างจนใจว่า : “ครับๆๆ แม่พูด ฟังที่แม่ว่าหมดเลย โอเคไหม? ถูก

นายหญิงใหญ่เซียวจ้องมองแวบหนึ่ง พูดว่า : “ใช้แรงหน่อย สับให้เนื้อหมูละเอียดหน่อย!

“ผมรู้แล้วครับ…….” เซียวฉางเฉียนตอบกลับอย่างคับแค้นใจ

จนถึงเวลาพลบค่ำ ทำหมูสับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไข่ไก่ก็ผัด เสร็จแล้ว ดอกแดฟโฟดิลกอใหญ่ก็ล้างจนสะอาด วางไว้ที่เชียง

นายหญิงใหญ่ผสมไส้ด้วยตัวเอง ใช้ไข่ไก่และกุยช่ายก่อน ใส่

เครื่องปรุงคลุกเคล้ากุยช่ายและไข่ไก่ แล้วใช้เนื้อหมูกับกุยช่าย

คลุกเคล้าเป็นหมูกุยช่าย

คนอื่นๆของตระกูลเซียว แต่ละคนต่างก็เริ่มน้ำลายไหลกันแล้ว ถึงอย่างไรช่วงนี้ภายในบ้านก็ค่อนข้างปั่นป่วน ทำเกี่ยวบ้านๆ เรียบง่ายทำกินกันเองในชีวิตแบบนี้ พวกเขาไม่ได้กินมานาน มากแล้ว

นายหญิงใหญ่เชียวพาทุกคนมาห่อเกี่ยวด้วยตัวเอง พูดตาม ความจริง ทุกคนห่อเกี๊ยว ได้เละตุ้มเปะมาก มีทุกรูปแบบเลย คล้ายๆกับบรรยากาศของช่วงวันปีใหม่ของจีนจริงๆ

นายหญิงใหญ่เซียวที่อารมณ์ร้ายมาโดยตลอด ในตอนนี้เวลา นี้ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นของการใช้ชีวิตในครอบครัวแล้ว
ในที่สุดเธอก็มีด้านที่มีความเมตตา สอนหลานชายหลานสาว ว่าจะห่อเกี่ยวยังไงให้ดีขึ้นและแน่นขึ้นอย่างมีความอดทน

ในใจของเซียวฉางเฉียนก็ถอดหายใจยาวอย่างมาก เขาก็ รู้สึกชอบภาพฉากที่มีความสุขแบบนี้อย่างมาก

โดยเฉพาะการกลับมาขอภรรยาที่หายตัวไป ทั้งสองคนก็กลับ

มาสู่ชีวิตที่รักและกลมเกลียวกันแบบตอนเริ่มแรกดั่งเดิมแล้ว

เพิ่มลูกชายลูกสาวที่อยู่ข้างกาย แถมยังอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ โตที่ดีขนาดนี้ อีกไม่นาน บริษัทเชียวชื่อก็จะกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง

ชีวิตในช่วงเวลานี้สมบูรณ์แบบอย่างมากที่สุดแล้ว

ถ้าหากให้เขาใช้ค่มาบรรยายถึงความรู้สึกในตอนนี้ งั้นก็ คือ : “ชีวิตนี้เพียงพอแล้ว”

คิดว่าชีวิตได้ถึงขั้นสูงสุดแล้ว

นายหญิงใหญ่เชียวพาทุกคนห่อเกี่ยวน้ำได้เยอะมาก เฉียนหง เย่นย้ายเตาไฟฟ้าที่อยู่ในครัวมาที่ห้องรับแขก ทุกคนต่างก็ดูทีวี ที่ห้องรับแขกไปพลาง ห่อเกี๊ยวน้ำไปพลาง เตรียมต้มเกี๊ยวน้ำ

แม้ว่าทีวีเครื่องนั้นจะเล็กไปหน่อย แต่ดูแล้วก็ไม่เลวเลยนะ เขียวไห่หลงเจอภาพยนตร์ตลกของโจว ซิงฉือเรื่องหนึ่ง (Hail the Judge)) ทุกคนต่างก็ดูด้วยความสนใจอย่างมาก

เฉียนหงเล่นดูทีวีไปพลางมองดูเกี่ยวในหม้อไปพลาง อย่าง รวดเร็ว เกี๊ยวในหม้อก็ลอยขึ้นมาแล้ว เพียงแป๊บเดียวก็ลอยขึ้น มาส่งกลิ่นหอมฉุย เมื่อทุกคนได้กลิ่นก็เกิดความอยากอาหารเลย
นายหญิงใหญ่เซียวรีบพูดเร่งว่า : “หงเล่น รีบเอาถ้วยมาให้

ฉัน”

เชียวฉางเฉียนหัวเราะฮิๆพร้อมพูดว่า : “รีบตักเกี่ยวขึ้นมา แล้วก็ต้มอีกชุดนึง ผมจะไปทำซอสเปรี้ยวสักหน่อย ไว้กินกับ เกี๊ยว!

เซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยก็รีบล้อมกันเข้ามา รอให้เฉียนหงเย่นตักเกี่ยวขึ้นมา เซียวฉางเฉียนก็ถือจิ๊กโฉ่ว มาแล้ว

ดังนั้น สมาชิกทั้งห้าคนของตระกูลเดียวก็กินเกี๊ยวน้ำที่พวก เขาห่อด้วยตัวเองอย่างมีความสุข

เซียวฉางเฉียนลงมือเร็วที่สุด ก็ไม่ได้ระวังว่าเกี๊ยวมันร้อน

หยิบแล้วเอาเข้าไปในปากเลย พูดออกมาอย่างไม่ชัดเจนว่า :

“ไอ้หยาๆ เนื้อหมูที่ตัวเองสับเองกับมือหอมอร่อยมากเลย นายหญิงใหญ่เซียวก็รีบกินหนึ่งชิ้น พูดชื่นชมว่า : “ไอ้หยา กุยช่ายนี้อ่อนนุ่มดีจริงๆ! ”

เฉียนหงเย่นกินไปด้วย เอ่ยถามด้วยว่า : “จะว่าไปเอากุยช่าย ที่ดีขนาดนี้มาจากไหนกัน? ปกติแล้วแม้ว่าจะไปซื้อที่ตลาดก็ไม่ สามารถซื้อกุยช่ายที่ดีขนาดนี้ได้! ”

นายหญิงใหญ่เขียวกินเข้าไปอีกคำนึง พูดอย่างถอนหายใจว่า : “เย่เฉินไอ้เด็กเวร ยังถือว่ามีความสามารถบ้าง ก่อนหน้านี้มอง เขาผิดไป ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเขามีความสามารถในการหลอกลวงแบบนี้ ก็จะเก็บเขาไว้ที่บริษัทเชียว อ ไม่แน่ก็อาจจะทำประโยชน์ ได้เยอะ ”

เซียวไห่หลงรีบพูดว่า “คุณย่า บริษัทเซียวซื่อจะต้องการเศษ สวะแบบนี้ได้ยังไงกัน? อย่างเเฉินขยะที่ชอบหลอกลวงเงินคน อื่นแบบนี้ สักวันก็คงก่อเรื่องใหญ่ขึ้น ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่ามีกี่คนต่อ คิวจะสับเขาให้ตาย!

นายหญิงใหญ่เชียวพูดซึมออกมา โบกไม้โบกมือว่า : “พอแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว รีบกินกันเถอะ วันนี้เกี่ยว เยอะแยะเลย อย่างน้อยทุกคนจะต้องกินสองด้วยนะ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ