ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1209



บทที่ 1209

เยเงินคล้องผ้ากันเปื้อนและไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหาร อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีก ครั้ง

โดยที่ไม่ได้คิดว่า คนที่โทรมานั้นจะเป็นยัยพริกขี้หนูฉันเข้าเส วี่ยนจากตระกูลฉิน

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่เฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ปกติแล้วยัยพริกขี้หนูก็ไม่ค่อยจะโทรมาหานะ หรือว่าจะเกิด เรื่องอะไรเข้าให้ล่ะเนี่ย? ”

เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงรีบรับโทรศัพท์ทันที พร้อมกับเอ่ยปากถาม

ว่า “เอ้าเสงี่ยน โทรหาฉันมีเรื่องอะไร? ”

ฉันเอ้าเสงี่ยนพูดอย่างเขินอายว่า “อาจารย์เย่ ไม่รู้ว่าท่านยัง จําได้อยู่ไหมคราวก่อนที่ฉันบอกว่าฉันไปลงสมัครการแข่งขัน ซานดาวิทยาลัยนานาชาตินะ? ”

เยเฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “จำได้แน่นอน รับปากเธอไปแล้วนี่ ว่าจะไปเชียร์เธอใช่ไหมล่ะ? จริงสิ ว่าแต่วันไหนเธอยังไม่บอก ฉันเลยนะ”

ฉันเอ้าเสงี่ยนยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ที่จริงอาจารย์เ ก็ยังจำได้นี่นา เอ้าเสงี่ยนมีความสุขมากเลย
หลังจากนั้น ฉันเอ้าเสงี่ยนก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นอาย มากว่า “อาจารย์เย่ ตอนช่วงสายของวันนี้ ฉันจะเล่นรอบสุดท้าย ของรอบคัดเลือก ไม่รู้ว่าท่านพอจะมีเวลามาดูไหม….

เย่เฉินถามอย่างสงสัย “เล่นรอบคัดเลือกงั้นเหรอ? ระบบการ แข่งขันของเธอจัดยังไงกัน?”

ฉันเอ้าเสงี่ยนพูด “เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับวิทยาลัย ระดับนานาชาติ จึงมีคนเข้าร่วมมากขึ้นน่ะค่ะ แล้วผู้เข้าแข่งขันก็ มีหลายสิบคนเลยที่ระดับน้ำหนักเดียวกับฉัน ดังนั้นเราจึงต้อง เล่นรอบคัดเลือกสองสามรอบก่อนค่ะ จากนั้นแปดอันดับแรกก็จะ ถูกเลือกไป แล้วจากนั้นก็ค่อยเล่นรอบน็อคเอาท์ค่ะ”

เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ “นี่เล่นจนมาถึงรอบสุดท้าย แล้วงั้นเหรอ? เล่นกันทั้งหมดที่เกมกันนะ? ทำไมไม่เคยได้ยิน เธอพูดมาก่อนเลย?

ฉันเอ้าเสงี่ยนรีบพูด “รอบน็อคเอาท์มีเกมค่ะ ช่วงสายของวัน นี้คือเกมสุดท้ายแล้ว ถ้าวันนี้ชนะ ฉันก็จะได้เข้ารอบเป็นแปดทีม สุดท้ายน่ะค่ะ! ที่ไม่ได้บอกกับท่านก่อน เพราะกลัวว่าท่านจะ ไม่มีเวลามา อีกอย่างพ่อก็บอกกับฉันแล้วด้วยว่าเวลาของท่านมี ค่ามาก ไม่อยากให้ไปรบกวน

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “เด็กผู้หญิงอย่างเธอจะมาเกรงใจอะไร ฉันล่ะ? ”

หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็ยิ้มอย่างเต็มใจและพูดว่า “เอาล่ะ ให้ เวลาและที่อยู่มา ฉันจะไปให้กำลังใจเธอช่วงสายๆ! ”
“จริงเหรอคะ? | “เมื่อฉันเอาเสงี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็ดีใจอย่าง บอกไม่ถูก “มันดีมากเลยค่ะอาจารย์เย่! การแข่งขันของฉันตอน ประมาณสิบโมงเช้าค่ะ ที่สนามยิมเนเซียมของจีนหลัง ที่สนาม มีคนหลายกลุ่มแข่งกันเยอะมากเลย ฉันกลัวว่าท่านจะหาไม่เจอ ถ้าท่านถึงแล้ว ให้บอกฉัน เดี๋ยวฉันจะให้พ่อไปรับค่ะ!”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “ไม่มีปัญหาเลย งั้นก็ตามนี้ ช่วงสายๆฉัน จะไปให้ตรงเวลาเลย

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็มีคำถามผุดขึ้นมา จึงถามฉันเอ้าเสวี่ย นอย่างสงสัยว่า “จริงเจ้าเสงี่ยนเธอแข่งขันที่กี่กิโลกรัมเห รอ? ”

ฉันเอ้าเสงี่ยนรีบพูดว่า “อาจารย์เย่ เอ้าเสงี่ยนลงแข่งของห้า สิบสองกิโลกรัมไปค่ะ”

เย่เฉินได้ยินดังนั้นก็พูดติดตลกว่า “ห้าสิบสองกิโลกรัม มันก็ คือหนึ่งร้อยสี่กรมนั้นสินะ?

“ใช่แล้ว! ”

เย่เฉินหยอกล้อเธออย่างจงใจและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เคย ได้ยินว่าผู้หญิงจะเกินร้อยเลยนะ? สงสัยเธอต้องลดน้ำหนักซะ แล้ว”

ฉันเอ้าเสงี่ยนรีบพูดไปว่า “ไม่ใช่สักหน่อย อาจารย์เย่! ระดับ การแข่งขันกิโลกรัมของซานดานะ ไม่ได้แบ่งตามน้ำหนักจริงๆ หรอกนะคะ อย่างเช่น ตราบใดที่น้ำหนักน้อยกว่าสี่สิบแปด กิโลกรัม ก็จะได้ไปอยู่ในระดับที่สี่สิบแปดกิโลกรัม แต่ถ้าน้ำหนักอยู่ระหว่างสี่สิบแปดถึงห้าสิบสองกิโลกรัมล่ะก็ ก็จะต้องไปอยู่ที่ ระดับห้าสิบสองกิโลกรัม ฉัน49.5กิโลกรัม นั่นเท่ากับว่า 99กรัม ยังไม่เกินร้อยสักหน่อยเพียงแต่ว่าโดนไปจัดอยู่ในระดับที่ห้าสิบ สองเท่านั้นเอง! ถ้าท่านไม่เชื่อล่ะก็ รอดูเลย เดี๋ยวฉันจะสั่งให้ดู เอง!

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่ล้อเล่นกับเธอเอง อย่าโกรธ เลย”

ฉันเอ้าเสงี่ยนกล่าวอย่างขยันขันแข็งว่า “ฉันไม่ได้โกรธนะ ฉัน แค่กลัวว่าท่านจะมองว่าฉันเป็นคนอ้วน! ฉันสูงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบ น้ำหนักบังคับให้อยู่ในเกณฑ์หนึ่งร้อยก็ถือว่าเก่งมากแล้วนะ! เพื่อนฉันบอกว่าฉันหุ่นสมส่วนทั้งนั้น!

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะเอาล่ะเอาล่ะ ยัยพริกขี้หนูฉินเข้าเส วียนมีหุ่นที่สมส่วน ฉันจะจำเอาไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ