ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2276



บทที่ 2276

อาจจะไปพิชิตภูเขาเอเวอเรตต์ และอาจไปเล่นสกีที่ภูเขาแอ ลป์ ไปเที่ยวพักผ่อนที่ฝรั่งเศส ไปสำรวจขั้วโลกใต้หรือไปดำน้ำที่ เกาะตาฮิติ

แต่อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันเกิดการ เปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน

เดิมทีเขาคือลูกคุณหนูตระกูลเศรษฐีอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ใบนี้ หกเจ็ดพันล้านคนทั่วโลก คนที่สามารถมีชาติกำเนิด ขนาดนี้ ไม่เกินร้อยคน

แต่ว่าหลังอายุแปดขวบ เขาก็กลายเป็นเด็กกำพร้าที่น่าสงสาร และน่าเวทนาที่สุด

เทียบกับเด็กกําพร้าคนอื่นๆ แล้ว ชีวิตของเขาลำบากมากกว่า

นัก

นี่เป็นเพราะเขาไม่เพียงไร้พ่อได้แม่เหมือนกับเด็กกำพร้าคน อื่นๆ แต่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนคน อื่นๆ ด้วย

ภายในใจของเขาในวัยเด็ก ยังต้องแบกรับความเจ็บปวด ทรมานที่พ่อกับแม่ถูกฆาตกรรมอยู่เป็นนิจ แบกรับความ เคียดแค้นที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ แบกรับการหล่นลงมาจาก สวรรค์ลงสู่นรก
พริบตาเดียว ก็ผ่านมาแล้วสิบเก้าปี

เด็กชายตัวเล็กๆ ที่ยืนร้องไห้ปริ่มจะขาดใจอยู่หน้าประตูสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าคนนั้น ปัจจุบันนี้ได้เติบใหญ่กลายเป็นชายหนุ่ม อายุยี่สิบเจ็ดปีคนหนึ่ง

ดังเช่นที่ซุนยูฟางพูด ชีวิตคนเราช่วงอายุที่สวยงามที่สุด อยู่ ระหว่างยี่สิบปีถึงสามสิบปี แต่สำหรับเยเฉินแล้ว เวลาสิบปีนี้ได้ ผ่านไปเจ็ดปีแล้ว

เยเงินเอามือแตะที่หน้าอกแล้วอดถามตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ “เจ็ดปีที่ผ่านมานี้ ฉันไม่มีโอกาสได้เสพสุขกับชีวิต แล้วหลังจาก นี้อีกสามปีล่ะ? หากสามปี ความแค้นใหญ่หลวงของพ่อแม่ยังไม่ ได้สะสาง อย่างนั้นเวลาสิบปีของฉัน ก็คงจะผ่านไปทั้งอย่างนี้ แล้ว…”

พอคิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเยเฉินจะมากจะน้อยก็รู้สึกหดหู

อยู่บ้าง

แต่เขามีชีวิต โดยไร้ความแค้นมาสิบเก้าปี

แม้ในสิบเก้าปีมานี้ สิบห้าปีก่อนจะอยู่โดดเดียวไม่มีใครให้ พึ่งพิง และอีกสามปีต่อมาก็ได้รับคำพูดเหน็บแนมต่างๆ นาๆ เรียกได้ว่าลิ้มรสความขมขื่นร้อยชนิดบนโลกนี้มาหมดแล้ว

ซุนยูฟางคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ตนพูดไม่กี่ประโยค เย่เฉินถึง กับดูท่าทางหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนลึกในจิตใจ ถามตัวเองขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หรือว่าเมื่อกี้ฉันไม่ระวังพูด อะไรผิดไป? ทำไมเสี่ยวเย่เวลานี้ถึงรู้สึกเหมือนกับว่ามีเรื่องหนักใจอยู่กันล่ะ?”

กำลังคิดอยู่ดีๆ หวังตงเสงี่ยนก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาแล้ว

ในมือเธอหิ้วถุงพลาสติกมาสองถุง เจ้าตัวยังอ้าปากหอบ หายใจ ก่อนจะพูดอย่างยากลำบากอยู่บ้าง “พ่อ…แม่…หนู…หนู ซื้ออาหารกลับมาแล้ว รีบ…รีบทานเถอะ…

ซุนฟางเห็นลูกสาวท่าทางเหนื่อยหอบ จึงรีบร้อนถามว่า “ตง เสงี่ยน นี่ลูกเป็นอะไรไป?”

หวังตงเสงี่ยนรีบกล่าวว่า “ไม่เป็นอะไรค่ะ เมื่อกี้หนูแค่วิ่งมา

เร็วไปนิด ตอนนี้เลยหายใจไม่ทัน พักสักเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว

หวังเฉิงหย่วนพูดด้วยความสงสารอย่างห้ามไม่ได้ “อั้ยหยา ลูกจะวิ่งเร็วขนาดนี้ไปทำไม? ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ซื้อก็พอแล้ว ไม่ใช่เรื่องด่วนมากสักหน่อย

หวังตงเสงี่ยนพูดอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก “พ่อหิวไม่ใช่ เหรอคะ? ไม่ได้กินข้าวมานานขนาดนี้ หนูก็กลัวว่าพ่อจะหิวจน ทําลายสุขภาพ…”

อันที่จริง หวังตงเสงี่ยนเขินที่จะพูดความจริงออกมา

ที่เธอวิ่งมาเร็วขนาดนี้ ก็เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะพูดอะไรที่ไม่ ควรพูดกับเย่เฉิน

ดังนั้นเธอจงตั้งใจวิ่งให้เร็วขึ้นนิดหน่อย พยายามย่นเวลาที่เ เฉินอยู่กับพ่อแม่ตามลำพัง
ในเวลานี้เอง พยาบาลก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับบิน พูด โพล่งออกมาด้วยความดีใจเต็มใบหน้า หัวหน้าฝ่ายเงิน! ผล เลือคนไข้ออกมาแล้ว ค่าซีรั่มครีเอตินินมีแค่45!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ