ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 757



บทที่ 757

เย่เฉินไม่คิดเลยว่า พอลจะสามารถเดาตัวตนจริงๆ ของตนเอง ออกได้ในไม่นาน

แต่ว่า เขาก็รู้ว่าพอลแค่เดาเท่านั้น เขายังไม่สามารถยอมรับ มันได้เด็ดขาด

เยเฉันกำลังจะปฏิเสธออกไป พ่อตาตนเองก็หัวเราะพูดขึ้นมา ข้างๆ ว่า “ไอ้หยา พอล คุณคิดมากไปแล้ว ลูกเขยของผมคนนี้ เป็นลูกเขยที่ผมขอให้แต่งเข้าในตระกูล ถ้าเขาเป็นคนตระกูลเย่ ล่ะก็ ตระกูลของพวกเราก็คงจะรุ่งโรจน์ไปนานแล้ว

ถึงแม้ปกติแล้ว เซียวฉางควนจะไม่ค่อยฉลาดเท่าไร และไม่ ค่อยทำเรื่องอะไรดีๆ แต่ชื่อเสียงของตระกูลเย่แห่งเย่นจิง เขาก็ นับว่ารู้ดีพอตัว

ถึงขนาดบอกได้ว่า ทั้งประเทศจีน มีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักตระกูลเย่ แห่งเย่นจิง เพราะว่าตระกูลเย่แห่งเย่นจึงมีชื่อเสียงมาก

ด้วยเหตุนี้ เขาถึงไม่เชื่อว่าเย่เฉินจะเป็นคนตระกูลเย่

เพราะว่า ในโลกนี้มีคนแซ่เย่จำนวนมาก แต่ตระกูลเบ่มีแค่ ตระกูลเดียวเท่านั้น

เขารู้ชาติกำเนิดของเเฉินดี สมัยเป็นทารกก็เข้าไปอยู่สถาน เลี้ยงเด็กกำพร้า อายุ18ก็ออกมาทำงานก่อสร้าง อายุ20ต้นก็ถูก คุณท่านใหญ่พากลับมาบ้าน แล้วกลายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลมา

คนแบบนี้จะเป็นคนของตระกูลเยีแห่งเมืองเจิงได้อย่างไร กัน?

ถ้าเย่เฉินเป็นคนของตระกูลเย่แห่งเมืองเย่จิงล่ะก็ ตนเองก็คง

เป็นคุณชายแห่งตระกูลใหญ่ในจักรวาลที่เร่ร่อนอยู่ด้านนอกแล้ว

ล่ะ?

พอพอลได้ยินว่าเย่เฉินเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูล ก็รีบรู้สึก ว่าตนเองเดาผิดไป เพราะตระกูลเย่แห่งเย่นจึงเป็นถึงตระกูล ขนาดไหนกันล่ะ ตระกูลใหญ่แบบนี้ จะให้คุณชายของตัวไป แต่งงานเข้าตระกูลอื่นได้อย่างไรกัน? ต่อให้เป็นประธานาธิบดี ของอเมริกา ก็ไม่มีทางมีคุณสมบัติแบบนี้

ดังนั้นเขาก็เลยหัวเราะพูดกับเย่เฉินว่า “ดูเหมือนว่าผมจะ เข้าใจผิดแล้ว ขอโทษด้วยครับ ก็เพราะว่าคุณเซ่เย่ แล้วโรงแรม ป้ายจินฮานกงนี้ ก็เป็นกิจการของตระกูลเย่แห่งเย่นจิง ดังนั้นผม ก็เลยคิดมากไป หวังว่าคุณเย่จะเข้าใจนะครับ”

เย่เฉินก็ยิ้มๆ พูดว่า “คุณพอลครับ คุณไม่ต้องเกรงใจแบบนี้ ก็ได้”

ในขณะที่คุยกัน ผู้จัดการของโซนอาหารก็พาพวกเขาไปยัง ประตูของห้องอาหาร แล้วก็พูดกับทั้ง4คนอย่างเคารพว่า “คุณเย่ และทั้ง3ท่านครับ เชิญด้านในเลยครับ!

ทั้ง4คนเดินเข้าห้องอาหารไป เย่เฉินก็เชิญพ่อตาตนเองนั่ง ตำแหน่งหลัก แล้วก็พูดกับคนรักเก่าของพ่อตาว่า “คุณป้าหานครับ นั่งกับพ่อตาผมแล้วกันนะครับ เพราะพวกคุณไม่ได้เจอกัน นานแล้ว คงจะมีเรื่องที่ต้องคุยกันไม่น้อย

หานเหม่ยจิงก็พยักหน้า แล้วยิ้มพูดว่า “เสี่ยวเย่นะ งั้นนายก ไปนั่งกับพอลแล้วกัน ป้าเห็นนายคุณกันถูกคอดี”

เย่เฉินก็รีบตอบรับ แต่ในใจตนเองก็ยังคงเตือนสติตนเองว่า พูดจาต่อหน้าพอล จะต้องระวังมากๆ หน่อย เพราะว่าคนคนนี้ไม่ ธรรมดา

พอนั่งลง เย่เฉินก็เอาเมนูยื่นให้กับผู้อาวุโสทั้ง2คน ให้พวก เขาเลือกสั่งอาหารที่ชื่นชอบ

เซียวฉางควรรีบพูดว่า “ไอ้หยา เหม่ยฉิง ผมยังจำได้ว่าคุณ ชอบอาหารอะไรบ้าง ให้ผมสั่งให้ดีไหม? ”

หานเหม่ยงก็ถามอย่างตกใจว่า “จริงหรือนี่ ห่างกันไปหลาย

ปี คุณยังจำได้หรือว่าฉันกินชอบอะไร? ”

เขียวฉางควนก็ย้มพูดว่า “ของมันแน่นอนอยู่แล้ว เรื่องนี้ผมไม่ ลืมแน่”

พูดไป เซียวฉางควนก็หยิบเมนูขึ้นมา แล้วก็สั่งกับพนักงานไป รวดเดียว ล้วนเป็นอาหารท้องถิ่นของจินหลิงทั้งนั้น

พอเชียวฉางควนสั่งอาหารแต่ละอย่าง สีหน้าของหานเหม่ย งก็ยิ่งตกใจขึ้นไปเรื่อยๆ พอหลังจากเซียวฉางควนสั่งไปรวด เดียวแล้ว เธอก็ตกใจจนพูดไม่ออก

เพราะอาหารแต่ละอย่างที่เขาสั่งไปนั้น ล้วนเป็นอาหารจีนหลังที่ตนเองชอบมากทั้งนั้นเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ