ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1924



บทที่ 1924

หวังตงเสงี่ยนตอบอย่างรวดเร็วว่า “สวัสดีคุณเ……..

ในขณะนี้ ต่งรั่วหลินก็ยืนขึ้น และพูดอย่างเชื่องช้าเล็กน้อยว่า “สวัสดีประธานหวัง…….

หวังตงเสงี่ยนถึงเห็นตั้งรั่วหลิน ในเวลานี้ และพูดด้วยความ ประหลาดใจ “โอ๊ย รั่วหลินคุณก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ยังไม่ได้กลับ บ้านหรือ?”

ต่งรั่วหลินกล่าวอย่างไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อยว่า “อัน นั้น……..อีกสักครู่ฉันก็จะไปที่สนามบินแล้ว…….

ในขณะที่ขงเต๋อหลงที่อยู่ด้านข้างเห็นหวังตงเสงี่ยน สายตา

ของเขาก็ลุกเป็นไฟที่ร้อนแรงขึ้นมา

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นผู้หญิงที่สวยงามมามากมาย แต่ก็ไม่เคย เห็นคนสวยที่มีออร่า และมีเสน่ห์ในที่ทำงานแบบนี้มาก่อน ดังนั้น เขาจึงรู้สึกสั่นไหวที่หัวใจในทันที

เขายืนขึ้นโดยจิตสำนึก และถามต่งรั่วหลินว่า “รั่วหลิน คุณยัง ไม่ได้แนะนำสักหน่อยเลยว่าคนสวยคนนี้คือ?”

ต่งรั่วหลินแนะนำอย่างเร่งรีบว่า “อ้อ ใช่แล้ว ประธานหวัง ขอ แนะนำให้คุณรู้จักสักหน่อย นี่คือพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉัน ชื่อว่า ขงเต๋อหลง”
หลังจากพูดจบ ก็มองไปที่ขงเต๋อหลง “พี่ชาย นี่คือรอง ประธานตี้เหากรุ๊ปของเรา หวังตงเสงี่ยนท่านประธานหวัง

ขงเต๋อหลงยื่นมือของเขาไปทันที และกล่าวอย่างสอพลอว่า “โอ๊ย ได้ยินชื่อเสียงของประธานส่งมานานแล้ว ในวันนี้ได้เจอตัว จริงสักที ชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ เลย ผมชื่อว่าขงเต๋อหลง เป็น ทายาทของตระกูลขงแห่งเย่นจิง”

หวังตงเสงี่ยนพยักหน้าเบาๆ และพูดอย่างสุภาพว่า “ยินดีที่ได้ รู้จักคุณ”

อย่างไรก็ตาม หวังตงเสงี่ยนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ กับตัวตนของ ขงเต๋อหลงเลย

แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่เกิดจากตระกูลใหญ่ แต่เธอก็ทำงานอยู่ ที่เหากรุ๊ปมาเป็นเวลานานแล้ว และได้ติดต่อกับตระกูลใหญ่ๆ มากมาย และก็พอรู้เรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลใหญ่มากมายด้วย เธอ ก็ต้องพอรู้เรื่องของตระกูลขง ในเย่นจิงบ้างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

แม้แต่เย่เฉินคุณชายของตระกูลเยก็รู้จักกันมานานขนาดนี้ แล้ว และแน่นอนว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆ เมื่อเธอได้ เห็นขงเต๋อหลงคุณชายของตระกูลขง

แต่เดิมขงเต๋อหลงคิดว่าตัวตนที่ตัวเองเป็นคุณชายแห่ง ตระกูลขงออกมา ซึ่งจะทำให้หวังตงเสงี่ยนมองเขาด้วยความ ชื่นชมอย่างแน่นอน

แต่ไม่คาดคิดว่า หวังตงเสงี่ยนดูเหมือนจะไม่สนใจกับเรื่องที่ ตัวเองเป็นคุณชายของตระกูลขงเลย และการแสดงออกของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยทั้งสิ้น

สิ่งนี้ทำให้ในใจของขงเต๋อหลงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย และเขาก็ แอบคิดอยู่ในใจตัวเองว่า “ผมต้องการจะปฏิบัติต่อหวังตงเส วี่ยนเป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญ หากสามารถจีบหวังตงเสงี่ยนได้ และในช่วงเวลาหนึ่งปีข้างหน้าของฉันที่อยู่ในเมืองจินหลิง ก็จะ ไม่มีชีวิตที่น่าเบื่อเกินไป…..

“แต่ หวังตงเสงี่ยนคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับผม เลย….เธอก็เป็นเพียงผู้จัดการมืออาชีพคนหนึ่งเท่านั้นเอง และ ถึงเงินเดือนจะสูงแค่ไหนก็แค่หลายล้านถึงสิบล้านต่อปีเท่านั้น แล้วทำไมถึงไม่สนใจกับคุณชายแห่งตระกูลข่งอย่างผมเลย? มาตรฐานสูงเกินไปแล้วหรือเปล่า? ”

ดังนั้น เขายังคงสานต่อและพูดกับหวังตงเสวียนว่า “ประธาน ต่ง ผมเคยได้ยินว่าคุณมีความสามารถที่แข็งแกร่งมากมานาน แล้ว และเป็นยอดนักธุรกิจในแวดวงธุรกิจ ถ้าคุณมีความสนใจ มาพัฒนาในเช่นจึงในอนาคต คุณก็สามารถพิจารณามาเป็นรอง ประธานกรรมการของบริษัทขงซื่อของเราได้ ค่าตอบแทนจะต้อง เยอะกว่าที่คุณอยู่ในเหากรุ๊ปอย่างแน่นอน”

แต่เดิมเขาคิดว่า สามารถใช้เงินเดือนสูงเพื่อดึงดูดหวังตงเส วียนได้ แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า หวังตงเสงี่ยนจะส่ายหัว โดย ไม่ลังเล “ขอบคุณความหวังดีของคุณขง แต่ไม่จำเป็น ฉันอยู่ใน เหากรุ๊ปก็ค่อนข้างที่ดีอยู่แล้ว และฉันไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนงาน

ขงเต๋อหลงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอย่างอดใจไม่ได้ แต่ว่า ยังคงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดต่อไปว่า “ประธานส่ง เมืองจิงหลิงเป็นที่แห่งมีขนาดเล็กเกินไป มันจะจำกัดต่อการ พัฒนาของคุณ ไปที่เล่นจึงจะดีกว่า ดังคำกล่าวที่ว่ามหาสมุทรที่ กว้างขวางกว่าปลาก็จะสามารถกระโดดได้ตามใจมากกว่า และ ท้องฟ้าที่สูงกว่านกก็จะสามารถบินได้ตามใจมากกว่าไม่ใช่เห รอ!” (ในเชิงเปรียบเทียบ ในโลกที่กว้างใหญ่กว่า ผู้คนก็จะ สามารถแสดงความสามารถของตนได้อย่างอิสระมากกว่า)

ขงเต๋อหลงในเวลานี้ มัวแต่สนใจกับเรื่องการจีบผู้หญิงอยู่ แต่ กลับลืมไปว่ายังมีเเฉินที่ตัวเองไม่สามารถรุกรานได้อยู่ข้างๆ เขา

อันที่จริง เขาก็ไม่รู้สึกว่า จะมีปัญหาอะไร ที่ตัวเองเข้าหากับ หวังตงเสวียนอยู่ต่อหน้าเเฉิน

เพราะยังไง แม้ว่าตัวเองจะถูกเขาลงโทษ และมาใช้ชีวิตที่ยาก ล่าบากอยู่ในเมืองจินหลิงเป็นเวลาหนึ่งปี แต่เย่เฉินก็ไม่ได้บอก ว่า จะไม่ให้ตัวเองจีบผู้หญิง ในปีนี้

เย่เฉินมองออกกลอุบายเล็กน้อยที่อยู่ในใจของขงเต๋อหลงใน

เวลานี้ และเขาก็แอบคิดในใจว่า “ขงเต๋อหลงคนนี้ เปลี่ยนนิสัย

ไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ว่าจะไปถึงไหนก็จะนำตัวตนที่เขาเป็นคุณชาย

ของตระกูลขงออกมาอวดดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เพิ่มเวลาให้เขา

อีกหนึ่งปีแล้วกัน และปล่อยให้เขาอยู่ในเมืองจินหลิงเป็นเวลา

ครบสองปีถึงจะจากไปได้!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงรีบส่งข้อความผ่านวีแชทถึงชิวอี้ทันที“หนานหนาน ฝากบอกน้องชายลูกพี่ลูกน้องของคุณเหว่ยเลี้ยง สักหน่อย ให้เขาถ่ายทอดต่อตระกูลขง บทลงโทษของขงเต๋อ หลงที่อยู่ในเมืองจินหลิงขยายเวลาเพิ่มไปอีกหนึ่งปี และให้พวก เขาส่งวีแซทแจ้งไปยังขงเต๋อหลง ในตอนนี้ทันที

กู้ชิวอี้ตอบในทันทีว่า “พี่เย่เฉิน ขงเต๋อหลงคนนั้นทำให้คุณ โกรธอยู่ในเมืองจีนหลังอีกแล้วหรือ?”

เย่เฉินตอบว่า “ไม่ได้ยั่วยุอะไรผมหรอก ก็แค่อวดดีอยู่ต่อหน้า ผม ซึ่งทําให้ผมไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ