ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2331



บทที่ 2331

ยิ่งเข้าใกล้อุโมงค์ที่นัดหมายเอาไว้เท่าไหร่ ในใจของหลิว จ้านก็ยิ่งประหม่ามากเท่านั้น

สำหรับเขาแล้ว แพ้หรือชนะมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดตรง หน้านี้

ดังนั้น เขาอธิษฐานในใจไม่หยุดว่า “พระผู้เป็นเจ้า หลิวร้าน คนนี้ไม่เคยขอร้องใครมาก่อน ตอนนี้ขออ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปกปักรักษาให้วันนี้ราบรื่นด้วยเถิด

“ถ้าเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ผมจัดการสองแม่ลูกนี้เสร็จ ขอแค่ท่านคุ้มครองผมให้หนีรอดแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น!

“เวลาหนึ่งชั่วโมง ก็มากพอให้ตระกูลซูเตรียมการให้ผมหนีได้

แล้ว!

“พรุ่งนี้ ผมก็จะกลายเป็นคนใหม่ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่าง ประเทศ! ”

คิดมาถึงตรงนี้ ลึกในใจของหลิวร้านก็ตื่นเต้นจนทนไม่ได้

ในเวลานี้ ตู้ไม่ชิงและซูจือหยูนั่งอยู่บนเบาะหลัง ในใจของ สองแม่ลูกเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

ในใจของซูจือหมูประหม่าเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นรถขับเข้าไป ในภูเขา หัวใจของเธอก็ยิ่งลนลานแปลกๆ เหมือนจะมีบางอย่างทะแม่งๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่ามันทะแม่งตรงไหน

ตู้ไห่ชิงสังเกตได้ว่าซูจือหยูกำลังไม่สบายใจ เพื่อไม่ให้ลูกสาว ตื่นตระหนกมากเกินไป ให้ชิงจึงจับมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พร้อมทั้งส่งสายตาให้กำลังใจเธอเป็นระยะ เพื่อให้เธอผ่อน คลายได้มากที่สุด

แต่ซูจือหยูกลับไม่สามารถผ่อนคลายได้ง่ายๆ เธออดเอ่ยปาก

ถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “นายจะพาพวกฉันไปไหนกันแน่?

หลิวจ้านตอบกลับเสียงเย็น โดยไม่ได้หันหน้ากลับมา “แกไม่ ต้องสนหรอกว่าจะไปที่ไหน นั่ง

นิ่งๆอยู่บนรถก็พอแล้ว!”

ซูจือหยูจี้ถามต่อว่า “แล้วนายจะปล่อยพวกฉันไปเมื่อไหร่?

มือหนึ่งของหลิวจ้านกุมพวงมาลัย อีกมือหนึ่งแกว่งปืนที่ถือเอา ไว้ไปมา เอ่ยพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ปล่อยแกไปตอนไหนหรือจะ ปล่อยพวกแกไปหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฉันทั้งหมด ถ้า แกยอมนั่งเงียบๆ ไม่พูดมาก ฉันอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้ แต่ถ้าแก เอาแต่ถามนั่นถามนี่ ฉันจะฆ่าแกทิ้งตอนนี้เลย

ตู้ไฟชิงรู้ว่าหลิวจ้านสามารถฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา ดังนั้น จึงซือถือหยออกมาว่า “จอห! เงียบ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว! ”

ซูจือหยูทำได้เพียงหุบปากอย่างเชื่อฟัง แต่ว่า ในใจของเธอกลับกระวนกระวายมากกว่าเดิม ความ รู้สึกทะแม่งๆยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เธอพยายามค้นหารายละเอียดต่างๆของเรื่องนี้ หวังว่าจะเจอ เบาะแสที่ตัวเองมองข้าม

ผ่านไปไม่กี่นาที ในหัวของเธอก็มีรายละเอียดบางอย่างโผล่

ขึ้นมา

เธอคิดไปถึง ช่วงที่หลิวร้านรับโทรศัพท์ตอนอยู่ในหอเพชรนิล จินดา!

อีกอย่าง เหมือนเขาจะควัก โทรศัพท์ออกมา ส่งข้อความหา ใครบางคนอีกด้วย

รายละเอียดตรงส่วนนี้ ทำให้เธอรู้สึกเครียดขึ้นมาในทันที

“นักโทษหนีคดีที่แหกคุกออกมา ทั้งๆ ที่กำลังถูกล้อมจับ ทำไมยังมีกะจิตกะใจคุยโทรศัพท์ ส่งข้อความหาคนอื่น แถมยัง คุยนานด้วย”

“ถ้าคนที่โทรคุยและส่งข้อความเป็นคนในครอบครัวของเขา แบบนั้นก็ยิ่งอธิบายยาก เพราะในสถานการณ์แบบนี้คนปกติมัก จะใช้วิธีที่เร็วที่สุดบอกคนในครอบครัวว่าตัวเองกำลังยุ่ง จากนั้น ก็จะรีบตัดสายทิ้ง ไม่มีทางคุยกันนานๆแบบนี้”

“เพราะว่า ในเมื่อเขามีโทรศัพท์ ก็สามารถติดต่อกับคนใน ครอบครัวได้ทุกเมื่อทุกเวลา ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็ไม่น่ามี ความจําเป็นต้องโทรคุยกับครอบครัวในสถานการณ์สำคัญ อย่างนี้ อย่างนั้นคงเสียสมาธิ ส่งผลต่อเรื่องที่กำลังกระทำแน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยกับชีวิตของเขาด้วย แล้ว”
“เหมือนอย่างตอนที่หมอกำลังผ่าตัดให้คนไข้ เขาว่ากันว่า ห้ามพกโทรศัพท์เข้าไปเพื่อโทรหาหรือส่งข้อความให้คนใน ครอบครัวเด็ดขาด เพราะมันถือเป็นการรบกวนการทำงาน หาก เสียสมาธิไปแค่นิดเดียวผลที่ตามมาอาจจะหนักหนาสาหัสก็ได้

“ถ้าหลิวจ้านเพิ่งเดินทางสายอาชญากรรม ประสบการณ์ยังไม่ มากก็พอจะเข้าใจได้ แต่เขาคือนักโทษหนีคดีที่แหกคุก และมี ไหวพริบต่อเรื่องต่างๆเป็นอย่างดี คนแบบนี้ ไม่น่าจะทำพลาด แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆหรอก”

“ดังนั้น ไม่ว่ายังไงคนที่คุยโทรศัพท์และส่งข้อความหาเขา ไม่มีทาง ใช่คนในครอบครัวของเขาแน่นอน เรื่องที่คนในสาย กับเขาคุยกัน ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากแน่ๆ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ