ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 759



บทที่ 759

พอลนั้นเกิดและโตมาในครอบครัวที่มีความรู้ ดังนั้นความเป็น สมบัติผู้ดี โดยรวมถือว่าสูงมาก ไม่เหมือนกับคนอื่น ที่พอได้ว่าเป็ เฉินเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลอื่น ก็จะมองเขาในอีกแบบหนึ่ง

ส่วนเย่เฉินก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะอายอะไร เพราะตนเองเป็นลูกเขย ที่แต่งเข้าตระกูล ก็ไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว บอกได้เลยว่าพึ่งพา อาศัยผู้หญิงเสียจนมีประสบการณ์แล้ว เก่งในด้านนี้แล้ว

ในตอนนี้ พอลก็พูดกับเย่เฉินว่า “เอ่อคุณเย่ครับ ในเมื่อคุณ รู้จักผู้จัดการทั่วไปเฉินของโรงแรมป่ายจินฮานกง แต่ไม่ทราบว่า คุณพอจะมีเวลาแนะนำผมให้รู้จักหน่อยได้ไหมครับ? ผมก็เพิ่ง ย้ายกิจการกลับมาที่จินหลิง ต้องการขยับขยายฐานธุรกิจและ พรรคพวกที่จินหลิง ถ้าคุณไม่สามารถช่วยผมได้ล่ะก็ ผมจะ ตอบแทนคุณแย่อย่างงามเลยครับ”

เยเฉันก็ไม่อยากให้พอลรู้ว่า ตนเองนั้นสนิทกับเฉินจือข่าย มากแค่ไหน เพราะเมื่อครู่เขาเองก็เกือบจะเดาชาติกำเนิดของ ตนเองกับตระกูลเยออกมาได้แล้ว ถ้าให้เขาได้รู้จักกับเฉินจือ ข่ายผ่านทางตนเองล่ะก็ ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้รู้เรื่องราย ละเอียดอะไรในนั้นมากขึ้น

ดังนั้นเขาก็เลยพูดขอโทษกับพอลว่า “คุณพอลครับ พูดตาม ตรงเลยนะ ผมไม่ได้สนิทอะไรกับผู้จัดการเฉินเลย ผมแค่เป็น เพื่อนกับเพื่อนของผู้จัดการเงินอีกที พูดแล้วก็น่าอาย คนที่ผม“ฮวงจุ้ยซินแสฮวงจุ้ยหรือครับ? ” เย่เฉินยิ้มเบาแล้วพูดว่า ไม่ขั้นซินแสฮวงจุ้ยหรอกครับ ก็

แค่อ่านหนังสือไม่กี่เล่ม แล้วเรียนกับอาจารย์ผู้รู้ช่วงหนึ่ง

ว่าไป คล้ายจะเป็นการไปหลอกให้เชื่อกว่า”

เซียวควนก็กลัวเเฉินจะทำตัวไม่ก็เลยพูดกู้ สถานการณ์ว่า เอ้อบริษัทนายทำธุรกิจด้านอะไรได้ย้ายมาจากอเมริกาที่จินหลิงเลย กิจการคงจะใหญ่โต มากเลย

พอลก็พูดยิ้มว่า คุณอาเซียวครับ จริงๆ แล้วบริษัทของเป็นบริษัททนายความระหว่างประเทศครับ ๆ หน้าที่ ด้านกฎหมายให้ครับบริษัทใหญ่ในโลกกว่า500แห่ง

เซียวฉางควนถามอย่างตกใจทนายความด้วยหรือเปล่า? ”

พอลพหน้า แล้วพูดว่า ใช่ครับคุณอาเซียว กับล้วน เป็นทนายความครับ บอกตามตรงเลยก็คือ ผมนั้นสืบทอดมา จากพ่อทีครับ

เงื่อนไขสูงมากเลยล่ะสิ โดยปกติแล้วจะต้องจบปริญญาเอกเลย ใช่ไหม”
พอลก็ยิ้มๆ พูดว่า “คุณอาเซียวพูดถูกต้องเลยครับ ที่อเมริกา มีอาชีพอยู่สองอย่างที่ต้องการวุฒิการศึกษาที่สูงที่สุด ก็คือ แพทย์ และทนายความ โดยปกติแล้วทนายความที่ขึ้นทะเบียน อย่างน้อยต้องจบปริญญาเอกจากวิทยาลัยด้านกฎหมาย

เขียวฉางควนก็ก้มหัวเบาๆ แล้วถามว่า “แล้วนายวุฒิการ ศึกษาอะไรหรือ? ”

พอลก็พูดถ่อมตัวว่า “ผมจบปริญญาเอกจากโรงเรียน กฎหมายมหาวิทยาลัยเยล

เซียวฉางควนทั้งตกใจและพยักหน้าพูดว่า “มหาวิทยาลัยเยล นั่นเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกเลยนะ! สามารถสอบเข้ามหา วิทยานี้ได้ ก็ไม่ธรรมดาเลย! ”

พอลก็ตั้งใจถูดว่า “บอกตามตรงครับคุณอา ต่อให้ได้ใบ ประกาศดอกเตอร์แล้ว ก็มีแค่ใบรับรองว่าจะได้เข้าสู่เส้นทาง ทนายความที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ทนายความที่ดีๆ นั้น จะต้องใช้ เวลาที่ยาวนานมาก ถึงขนาดต้องมีประสบการณ์10-20กันเลยที เดียว หรือไม่ก็ชนะคดีมามากกว่า100คดีถึงจะได้ ดังนั้นสำหรับ ผมแล้ว ผมก็เป็นแค่มือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการเท่านั้น”

พูดถึงจุดนี้ พอลก็มองหานเหม่ยง แม่ของตนเอง แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วผมก็เพิ่งจบมาไม่นาน ถ้าให้ผมมาบริหารบริษัท สำนักทนายความของพวกเราเองล่ะก็ ประสบการณ์ของผมมัน ยังไม่พอ ดังนั้นตอนนี้ผมก็ได้แต่รับตำแหน่งหน้าที่ผู้จัดการทั่วไป เท่านั้น แต่คนที่ช่วยเหลือผมอยู่เบื้องหลังและเป็นคนที่บริหารบริษัทอยู่เบื้องหลังนั้น ก็คือแม่ของผม ถ้าไม่ได้แม่ช่วยเหลือ บริษัทของเราก็คงจะพังลงในมือของผมแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ