ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2101



บทที่ 2101

เมื่ออิโตะ นานาโกะได้ยินคำพูดนี้ ถามด้วยความประหลาดใจ

ว่า “เย่เฉินซัง คุณ…คุณจะมอบของขวัญอะไรให้กับเขาเหรอ?” เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมซูรั่วหลีถึงได้หายตัวไปทำไมแอบถูกสับเปลี่ยนคนและรีบ

ร้อน โมโห ใช่มั้ย?”

อิโตะ นานาโกะพูดว่า “เป็นแบบนั้นจริงๆ พ่อของฉันบอกว่า ตอนนี้คุณอาคนนั้นกดดันเป็นอย่างมาก เพราะว่าได้รับแต่งตั้ง ในช่วงวิกฤตแบบนี้เป็นการยากที่จะทำงาน เหตุผลหลักคือความ คาดหวังของผู้คนสูงเกินไป ถ้าหากทำได้ดีทุกคนก็ย่อมดีอกดีใจ กันเป็นธรรมดา แต่ถ้าทำได้ไม่ดี เป็นไปได้ว่าจะรับความโกรธ เคืองจากมวลชน”

เย่เฉินพูดอย่างเห็นด้วยว่า “ถูกต้อง เรื่องแบบนี้เป็นดาบสอง คม ถ้าใช้ได้ไม่ดี ก็จะทําร้ายตัวเองได้

จากนั้น เย่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่ว่า ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ ที่ผมจะมอบให้เขา สามารถทำให้เขาเอาดาบสองคมนี้ เปลี่ยน กลายเป็นดาบคมเดียวได้!”

อิโตะ นานาโกะถามด้วยความประหลาดใจว่า: “เย่เฉินซัง คุณหมายความว่ายังไง? ดาบสองคมเปลี่ยนเป็นดาบคมเดียวนั้น เหรอ?”
“ใช่ เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มีของ ขวัญชิ้นใหญ่นี้ของผม เขาก็ไม่ต้องกังวลถ้าใช้ดาบเล่มนี้ได้ไม่ดี จะทําร้ายตัวเอง”

อิโตะ นานาโกะรีบพูดว่า “เย่เฉินซัง ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ที่คุณ พูดคืออะไรกันแน่?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณบอกกับเขาว่า เหตุผลที่ซูรั่วหลี ถูกคนแอบสับเปลี่ยน ทั้งหมดเป็นตระกูลซูสมรู้ร่วมคิดกันกับกอง กำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นอยู่เบื้องหลัง เป็นพวกเขาทั้ง สองฝ่ายสมรู้ร่วมคิดกันทำเรื่องแมวดาวสับเปลี่ยนองค์ชาย ต่อ จากนั้นก็โยนความผิดให้กรมตำรวจนครบาลโตเกียว”

“หา?!” เสียงของอิโตะ นานาโกะประหลาดใจอย่างสุดขีด “เย่เฉินซัง สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?! ตระกูล สม ร่วมคิดกันกับกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินจริงๆเหรอ?”

เยเฉันถามเธอว่า “ผมเคยโกหกคุณตอนไหนเหรอ?”

อิโตะ นานาโกะรีบพูดอธิบายว่า “เย่เฉินซัง นานาโกะไม่ได้ หมายความว่าอย่างนั้น…นานาโกะแค่คิดว่าเรื่องนี้ทำลาย ทัศนคติทั้งสามเกินไปแล้ว! กองทัพของกองกำลังป้องกันตนเอง ภาคพื้นดินญี่ปุ่น ทำไมถึงได้ทำเรื่องที่ไร้สาระมากขนาดนี้ออกมา ได้?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เฮ้อ พูดพร่ำบ่น เหตุผลที่ตระกูล และกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินสามารถสมรู้ร่วมคิดกัน ทำได้อย่างทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงลาภยศ ก็เพื่อผลประโยชน์ไม่ใช่เหรอ! เหตุผลหลักก็ยังเป็นอำนาจของตระกูลช ใหญ่เกินไป ปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว คุณบอกกับเพื่อนคนนั้น ของพ่อคุณว่า ให้เขามุ่งเน้นไปที่ความคืบหน้าของกองกำลัง ป้องกันตนเองภาคพื้นดิน จะต้องได้รับความคืบหน้าที่ใหญ่และ สําคัญอย่างแน่นอน”

จากนั้น เยเฉันก็พูดอีกว่า: “ตราบใดที่คุณอาคนนี้ของคุณ สามารถพอที่จะหาหลักฐานที่แท้จริงของการสมรู้ร่วมคิดกัน ระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินและตระกูลซู ต่อให้ ไม่มีทางจับตัวซูรั่วหลีกลับมาได้ ก็สามารถพอที่จะเป็นตัวแทน ของกรมตำรวจนครบาล พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่าง สวยงาม!”

อิโตะ นานาโกะก็รู้ดีว่า ก่อนหน้าที่เเฉินยังไม่ได้บอกเรื่องนี้ กับตัวเอง ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ ก็คือว่าคุณอาคนนั้นของตัว เอง สามารถที่จะจับตัวซูรั่วหลีมาดำเนินคดีได้อย่างราบรื่นหรือ เปล่า

แต่ว่าตอนนี้ ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปในทันที

ตราบใดที่คุณอาคนนั้นหาหลักฐานที่แน่นอน พิสูจน์ว่าตระกูล ซูและกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินได้เปลี่ยนซูรั่วหลีออก ไป ถ้าอย่างนั้นกรมตำรวจนครบาลก็สามารถหลุดพ้นจากความ รับผิดชอบทั้งหมดได้ในทันที ดังนั้นความผิดก็จะไปอยู่ที่ตระกูล รวมทั้งกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นทั้งหมด
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อิโตะ นานาโกะก็รีบพูดด้วยความปีติ มากว่า “เย่เฉินซัง งั้นฉันก็เป็นตัวแทนของคุณอาคนนั้น ขอบคุณ ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ของคุณก่อนแล้ว! ตราบใดที่แก้ปัญหาได้ ฉัน จะให้คุณอาคนนั้นขอบคุณเย่เฉินซังอย่างแน่นอน! ถึงเวลาให้ เขาไปขอบคุณเย่เฉินซังถึงที่ด้วยตัวเอง

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนั้น หรอก ตราบใดที่อีกหน่อยผมไปประเทศญี่ปุ่น หรือว่าอยู่ประเทศ ญี่ปุ่นมีอะไรตรงไหนที่ต้องรบกวนเขา เขาสามารถที่จะแสดง น้ำใจไมตรีตอบแทนกันและกันก็เพียงพอแล้ว”

อิโตะ นานาโกะอ้าปากพูดว่า “เย่เฉินซังวางใจเถอะ! คุณอา คนนี้ของฉันให้ความสำคัญแก่ศีลธรรมความรู้สึกเป็นอย่างมาก มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าหากครั้งนี้สามารถที่จะพลิกสถานการณ์ ได้ภายใต้ความช่วยเหลือของเยเฉินซังจริงๆ เขาจะต้องจดจํา บุญคุณของเยเฉินซังไว้แน่ๆ!

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “งั้นผมก็จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่ม เติมอีกเล็กน้อย คุณต้องให้เขาตรวจสอบกองกำลังป้องกัน ตนเองภาคพื้นดินทางทะเลที่ออกทะเลลาดตระเวนเมื่อวานนี้ให้ ดีๆ ไส้ศึกจะต้องอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้อย่างแน่นอน ให้เขาจับตัว คนเหล่านี้มาไต่สวนทีละคน จะสามารถหาความคืบหน้าได้อย่าง แน่นอน!!!

อิโตะ นานาโกะคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ระดับของกองกำลัง ป้องกันตนเองภาคพื้นดินนั้น สูงกว่าระดับของกรม ตำรวจนครบาล จับตัวคนมาตรงๆ คงจะยากที่จะส่งเสริมได้หน่วยงานภายในกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินคงจะ ก้าวก่ายอย่างแน่นอน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ