ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่1404



บทที่1404

เยเฉันรู้ว่ากู้เย็นจงหวังดีต่อตนเอง แต่เขายังคงส่ายหน้าเบาๆ เขาเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังยิ่ง “ลุงกู้ แม้ผมกับพ่อแม่จะมีวาสนาต่อ กันค่อนข้างสั้น ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาเพียงแปดปี แต่ที่ไหล เวียนอยู่ในกายผม คือสายเลือดของพวกท่านทั้งสอง หากชาตินี้ ไม่อาจแก้แค้นให้พวกเขาได้ อย่างนั้นผมจะไม่ผิดต่อสายเลือด และชีวิตที่พวกท่านมอบให้ผมได้อย่างไร?”

หลินหว่านชิวที่ไม่ได้พูดอะไรมาตลอด พอฟังถึงตรงนี้ ก็อด ขอบตาแดงเรื่ออุทานเสียงเบาไม่ได้ “เย็นจง บุคลิก และอุปนิสัย ของเฉินเอ๋อ แทบจะไม่ต่างอะไรกับพี่เยู่ในตอนนั้นเลย พี่เยู่ใน ตอนนั้นหากขยี้เจอเม็ดทรายเข้าตา เขาไม่มีทางพาลูกเมียจาก เย่นจิงไปอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวหรอก ตอนนั้นคุณยังโน้มน้าว พี่เย่ไม่ได้ ตอนนี้ก็อย่าได้โน้มน้าวเฉินเอ๋อเลย”

กู้เย็นจงพยักหน้าอย่างห่อเหี่ยว ถอนใจยาวออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่เย่เฉิน แล้วก็มองไปที่กู้ชิวลูกสาว ก่อนจะเอ่ย ขึ้นอย่างจริงจังว่า “เฉินเอ๋อ เรื่องอื่นสามารถชะลอก่อนได้ หาก อนาคตเธอต้องเป็นศัตรูกับตระกูลเย่จริง ให้ตระกูลเย่ชดใช้ออก มา อย่างน้อยก็ต้องมีกำลังที่กล้าแข็งมากเพียงพอก่อน

กู้เย้นจงพูดจบ ก็นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ตามความเห็นลุง เรื่องด่วนของเธอ ยังคงออกมาจากจินหลังจะ ดีกว่า กลับมาเย่นจิง แต่งงานกับหนานหนานก่อน ถึงตอนนั้นต่อให้เธอไม่ได้กลับสู่ตระกูลเยอย่างเป็นทางการ เธอก็เป็นลูกเขย ของตระกูลเรา ถึงเวลาหากลุงเคราะห์ดียังไม่ตาย ลุงยัง สามารถจัดการเรื่องให้เธอได้บ้าง ให้เธอลงหลักปักฐานอยู่ใน ตระกูลกู้ ให้ตระกูลเป็นแหล่งเงินทุน เป็นเส้นสายให้เธอได้ ใช้สอยโดยสมบูรณ์”

หลินหวานซิวได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นโดยไม่ลังเล ว่า “ใช่แล้ว เฉินเอ๋อ แม้ตอนนี้เธอจะเคยแต่งงานแล้ว แต่การ หมั้นหมายของเธอกับหนานหนาน นานกว่าการแต่งงานของเธอ ในตอนนี้ถึงยี่สิบกว่าปีเชียวนะ ดังนั้นหญิงสาวตระกูลเซียวคน นั้นที่เธอพูดถึง พูดได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ คนที่เข้ามาแทรกการ หมั้นหมายดั้งเดิมของเธอ

กล่าวถึงตรงนี้ หลินหว่านชั่วก็รีบแสดงความเห็นอีกว่า “แน่นอนว่าถ้าไม่ได้ตำหนิเธอคนนั้น เพราะอย่างไรเรื่องนี้เธอคน นั้นก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ น้าแค่อยากบอกว่า ตามการ จัดการของพ่อแม่เธอในตอนนั้น เธอก็ควรจะแต่งงานกับหนาน หนาน ส่วนหญิงสาวตระกูลเซียวคนนั้น ถึงเวลาตระกูลจะไม่มี ทางเอาเปรียบเธอคนนั้น หลังหย่ากันแล้ว น้าจะเตรียมเงินเป็น ค่าชดเชยให้เธอคนนั้นพันล้าน ไม่มีทางทำให้เธอลำบากใจเด็ด ขาด”

เย่เฉินพลันกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาทันที

ก่อนที่เขาจะมาตระกูลกู้ สิ่งที่กังวลใจที่สุดก็คือเรื่องหมั้น หมายที่พ่อแม่กู้ชิวเอ่ยขึ้นกับตัวเองนี่แหละ
การหมั้นหมายในวัยเด็ก อย่างไรก็ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ แล้ว นานหลายปีขนาดนี้ ตนกับชิวไม่เคยพบหน้ากันเลย จึง ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกันโดยสิ้นเชิง

หากตอนนี้ตนยังโสด ใคร่ครวญถึงการจัดการของพ่อแม่ก่อน ตาย ตนเองคงจะสามารถบ่มเพาะความรู้สึกกับชิวได้ หากเข้า

กันได้ จะแต่งงานตามที่พ่อแม่จัดการก็ไม่เสียหาย

แต่ตอนนี้ตนเองแต่งงานแล้ว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จะให้ ตนเองทอดทิ้งเซียวซูหนแล้วมาอยู่กับชิวได้อย่างไร?

เห็นเย่เฉินเงียบไม่พูดไม่จา หลินหวานซิวก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจังว่า “เฉินเอ๋อ สุขภาพร่างกายของลุง เธอในตอนนี้ คิดว่าเธอเองก็คงได้ยินมาจากหนานหนานแล้ว ก่อนหน้านี้ พวกเราได้ไปเป็นเพื่อนลุงของเธอรักษาตัวอยู่ต่าง ประเทศเป็นเวลานานมาก สองวันมานี้หมอในประเทศพบว่าโรค ของลุงกู้เธอมีอาการแย่ลง จึงแนะนำให้ลุงกู้เธอรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลต่อ แต่สถานการณ์ที่ไม่ดีขึ้น ไม่แน่ว่าวันไหนอาจ จะ…”

พอพูดถึงตรงนี้ หลินหว่านชิวก็รู้สึกเศร้าเสียใจไปชั่วขณะ ถอน หายใจออกมาหลายครั้ง จากนั้นก็เช็ดน้ำตา แล้วค่อยกลาย ต่อว่า “การหมั้นหมายของเธอกับหนานหนาน เป็นพวกเราสี่คน ตกลงกันเอง ในเวลานั้น ตอนนี้ในสี่คนจากไปแล้วสองคน สุขภาพของลุงกู้เธอเกรงว่าคงจะซื้อได้อีกไม่นานเท่าไหร่นัก พ่อ แม่เธอจากไปก่อนแล้ว ไม่ได้เห็นเด็กอย่างพวกเธอสองคน แต่งงานกัน น้าจึงหวังจากใจจริงว่าลุงของเธออย่าได้มีความรู้สึกเสียดายแบบเดียวกันเลย…

กู้ชิว ที่อยู่ด้านข้างดวงตาแดงก่ำแล้ว นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ ขยับเขยื้อน น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย

เธอในเวลานี้ ไหนเลยจะยังเป็นดาราสาวที่ทำให้ชาวโลกและ คนทั้งประเทศตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่งคนนั้นได้อีก เธอในตอนนี้ ก็คือสายน้อยที่น่าสงสารอับจนหนทาง ทำให้เยเฉินเห็นแล้ว อด รู้สึกสงสารจับใจขึ้นมาไม่ได้…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ