ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 528



บทที่ 528

แต่ถึงยังไงหงห้าก็ไม่ได้กลัวหลวกว่าง พอเห็นสีหน้าที่อาฆาต แค้นของหลิวกว่าง เขาก็มองกลับไปเหมือนกัน แล้วก็จงใจยื่นมือ ไปลูบหน้าผาก

พอเขาลูบหน้าผากหลิวกว่าง หลิวกว่างก็โมโหจนตัวสั่น แต่ว่า ถึงจะสั่นขนาดไหน เขาในตอนนี้ก็ไม่สามารถจะทำอะไร หงห้าได้

เพราะหงห้าแข็งแกร่งกว่าเขามาก และตงไห้ก็บอกแล้ว ตอน นี้ตัวเขาเองยังไม่มีความสามารถมากพอจะเป็นลูกน้องได้ ตอนนี้ ยังต้องทดสอบดูก่อน

พอคิดได้แบบนี้ หลิวกว่างก็ทรมานใจจะขาด

มันเรื่องบ้าอะไรกันหนักหนา การเป็นสุนัขรับใช้ ยังต้องผ่าน การทดสอบอีก!

แต่ว่าทดสอบก็ทดสอบเถอะ ขอแค่สามารถพลิกสถานการณ์ ได้ แบบนั้นตัวเขาถึงจะสามารถเอาชนะหงห้าได้

ตามคำที่มีคนเคยบอกไว้ ถ้าไม่อดทนอาจจะพลาดการใหญ่ และนี่เรียกว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

หงห้าเป็นถึงคนที่ควบคุม ในเทียนเซียง และงานเลี้ยงครั้งนี้ เขาก็เป็นคนจัดขึ้น แน่นอนว่าเขาก็จะเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว และก็ได้เชิญให้ประธาน นั่งที่นั่งของประธาน แต่ว่าอู๋ซินนั้นกลับนั่ง อยู่ด้านขวามือของเขา

และในตอนนี้ ที่นั่งด้านซ้ายของประธาน ก็เลยวางอยู่ ทุกคน ต่างเล็งมาที่นั่งตรงนั้นเพื่อใกล้ชิดกับประธานมากขึ้น

แต่เพราะว่าหลิวกว่างเดินมาตามหลังอู่ตงไห่พอดี ดังนั้นเขา เลยเร็วกว่าคนอื่น พออู่ตงไห่นั่งลงไป เขาก็อาศัยจังหวะนี้คล้อย ตาม และก็นั่งลงไปข้างซ้ายของอู่ตงได้ทันที

ในนั้นไม่กี่คนก็พากันเลียแข้งเลียขาต่อ แต่ตงไห่กลับไม่พูด อะไร เอาแต่นั่งนิ่งๆ ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

หลังจากที่พวกนั้นทำการทักทายกันเสร็จ ตงไม่ถึงได้พูด ขึ้น : “วันนี้ที่เชิญทุกคนมา หลักๆ ก็เพื่อทำความรู้จักกับทุกคน เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาที่จินหลิง หลังจากนี้หากว่ามีปัญหาอะไรที่ นี่ คงต้องรบกวนทุกคนให้ความช่วยเหลือ

หลิวกว่างลุกขึ้นคนแรก แล้วพูดขึ้นอย่างยิ้มๆ : “มันต้องเป็น แบบนั้นอยู่แล้ว ประธาน คุณให้ความสำคัญกับเราก็ถือว่าเป็น วาสนาของตระกูลหลิวแล้ว พวกเราตระกูลหลิวยอมทำทุกอย่าง ตามคำสั่งประธาน เลย

เขารู้ดี ว่าตอนนี้คงไม่ต้องการคนที่แสดงออกว่าจะทำงานให้ เขา ดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่พูดออกมาอย่างกล้าหาญ

อู่ตงไห่มองเขา ก็พยักหน้าให้อย่างชื่นชม แล้วพูดขึ้น “หลิว กว่าง ต่อไปคุณต้องตั้งใจทำงาน งานของผมขาดคุณไม่ได้”
หลิวกว่างดูเป็นคนมีไหวพริบมาก และเดาออกว่าตนอยากฟัง อะไร

“ขอบคุณประธาน ผมจะพยายามสุดความสามารถ เพื่อรับ ใช้คุณ”

ตระกูลจ้าว ตระกูลซงต่างก็แย่งกันแสดงออกทางท่าที ทั้งสอง คนก็ล้วนแต่มีท่าทีที่นอบน้อม และชัดเจนว่าอยากจะลงเรือลำ เดียวกันกับตระกูล

มีเพียงหวังเจิ้งกาง ฉินกาง แล้วก็หน้า สามคนที่มองหน้ากัน แต่ก็ไม่พูดอะไร

พวกเขารู้ดี ว่าอู่ตงไห่ต้องการให้พวกเขาแสดงท่าทีออกมา

ถ้าหากว่าวันนี้พวกเขาแสดงออกว่าจะช่วยตระกูล งั้นก็ เท่ากับว่าเป็นการหันเหไปพึ่งตระกูลอย่างชัดเจน

แต่ว่า ทั้งสามคนนี้คิดแค่เพียงอยากรับใช้และติดตามเย่เฉิน ดังนั้นสิ่งที่อู่ตงไห่พูดออกมา พวกเขาจึงไม่ยอมพูดอะไร

ยังไงซะ ในสายตาของพวกเขาสามคนนั้น เย่เฉินก็ยังเป็นคน ที่วิเศษสําหรับพวกเขา ลองเทียบกันแล้ว ถึงตระกูลอู๋จะแข็งแกร่ง แค่ไหน ก็เป็นแค่คนธรรมดา ในเมื่อเป็นคนธรรมดา แล้วจะมี คุณสมบัติอะไรไปเทียบกับเย่เฉินได้ล่ะ?

ตงไห่หันไปมองพวกเขาสามคน แล้วพูดขึ้น : “สามท่านนี้ รู้สึกเหมือนจะไม่พอใจช่วยเหลือตระกูลอู่ใช่ไหม? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ