ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1841



บทที่ 1841

ตอนที่เเฉินและเขียวฉางควนรีบมาถึงที่โรงพยาบาล เซียวซู หนก็มาถึงแล้ว

เมื่อสองพ่อตาลูกเขยมาถึงที่ห้องผู้ป่วย ก็เห็นหม่าหลันกำลัง

จับมือของเซียวซูหนไว้ และการร้องไห้นั้นเรียกได้ว่าตามใจ

เซียวซูหนก็เช็ดน้ำตาด้วยความทุกข์ใจอยู่ตลอด

แม้ว่าเย่เฉินจะได้ยินว่าวันนี้แม่ยายของตัวเองโดนทำร้าย อย่างน่าสังเวชใจมาก แต่ตอนนั้นเขาอยู่ข้างนอกตลอด และไม่ ได้เข้าไป ดังนั้นจึงไม่เห็นว่าสถานการณ์ข้างในเป็นยังไงกันแน่

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่หม่าหลั่นถูกลูกน้องของหงห้าพาออก มา ก็ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในทันที เยเฉันก็ไม่ได้เจอหน้าเธอ เช่นกัน

ตอนนี้เห็นหน้าบวมช้ำบนและผมบนหน้าผากก็ยังขาดไปจุก หนึ่ง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ “โธ่เอ๊ย แม่ยายคนนี้ ของฉันช่างน่าเวทนาเสียจริง ครั้งนี้เธอถูกทำร้ายจนกลายเป็น แบบนี้ ประสบภัยที่ไม่มีเค้ามาก่อนจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆเยฉาง หมิ่นจะวิ่งมาหาเธอล่ะ?”

เมื่อเห็นเยเฉินแล้ว ในที่สุดความน้อยใจทั้งหมดของหม่าหลัน ก็มีเป้าหมายที่ระบายอารมณ์แล้ว ร้องไห้พูดว่า: “ลูกเขยที่ดี แม่ อนาถมากจริงๆ…”
พูดแล้ว ก็ร้องไห้อย่างกระหืดกระหอบ

เย่เฉินรีบก้าวขึ้นไปข้างหน้า และแกล้งทำเป็นถามอย่างกังวล

ว่า: “แม่ แม่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หม่าหลัน โบกมือ และเช็ดน้ำตาล “เฮ้อ พูดไม่ได้น่ะพูดไม่ได้ พูดแล้วก็เนืองนองด้วยน้ำตา

เมื่อเชียวฉางควนเห็นสภาพนี้ของเธอ อยากจะหัวเราะก็ไม่ กล้าหัวเราะ ก็ยืนนิ่งอยู่ที่นั่นคนเดียว และก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อหม่าหลันมองเขาแวบหนึ่ง ก็พูดอย่างโกรธเคือง: “เซียว

นางกวน แกมาทำอะไรที่นี่!!

เขียวฉางควนรีบพูดว่า “คุณว่าผมมาทำอะไรที่นี่ แน่นอนว่า ผมก็ต้องมาเยี่ยมคุณนะสิ”

“เยี่ยมฉันเหรอ?” หม่าหลับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันว่าแก

มาดูเรื่องตลกของฉันมากกว่านะ”

เขียวฉางควนคร่ำครวญในใจว่า: “โธ่เอ๊ย คุณพูดถูกจริงๆ แต่ว่าฉันไม่สามารถยอมรับได้…

ดังนั้น ทำได้เพียงพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “คุณพูดอะไร ของคุณน่ะ ต่อให้พวกเราจะทะเลาะจนแยกกันอยู่หรือจะหย่าร้าง กัน ท้ายที่สุดก็อยู่ด้วยกันไปครึ่งค่อนชีวิตแล้ว คุณถูกรังแกกลาย เป็นแบบนี้ ในใจของฉันก็ต้องเป็นทุกข์อย่างแน่นอน!

หม่าหลันเขม็งตาใส่เขา “แกทุกข์กะนะสิ! ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง ว่าในใจสุนัขแก่อย่างแกคิดอะไรอยู่ แกแมร่งแทบอยากจะให้ฉันเป็นง่อยไปตลอดชีวิต!”

เขียวฉางคนคาดไม่ถึงว่าหม่าหลั่นจะคาดเดาได้แม่นขนาดนี้

แต่ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรทั้งนั้น โชคดีที่ในเวลานี้เชียวชูหนที่อยู่ข้างๆพูดไกล่เกลี่ยว่า: “แม่ ค่ะ แม่อย่าทะเลาะกับพ่อเลยนะ เขาก็มาเยี่ยมแม่ด้วยความเป็น

ห่วง”

หม่าหลันพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “ฉันไม่ต้องการความ ห่วงใยจากเขา”

หลังจากที่พูดจบ ก็มองไปทางเยเฉิน และพูดอย่างขมขื่นว่า “ลูกเขยที่ดี ครั้งนี้ที่ทำร้ายแม่ซ้ำไปซ้ำมา ก็ยังเป็นกลุ่มคนเหล่า นั้นที่ทำแชร์ลูกโซ่ครั้งก่อน แม่โชคร้ายจริงๆ คราวนี้ก็เข้าเฝือก อีกหลายเดือน ไม่เพียงแต่ทำอาหารให้ลูกไม่ได้เท่านั้น ยิ่งไป กว่านั้นจากนี้ไปก็อยู่แต่บ้านไม่ไหนก็ไม่ได้แล้ว ชีวิตหลังจากนี้ก็ ต้องกลัดกลุ้มใจอย่างที่สุดแล้ว…”

เย่เฉินก็เข้าใจความหมายของหม่าหลับในทันที

ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างใจกว้างมาก: “แม่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ จากนี้ไปเดี๋ยวผมจะเป็นคนทำอาหารเอง อีกอย่างเดียวจะโอน เงินค่าใช้จ่ายให้แม่อีกหนึ่งแสน ระยะเวลาช่วงนี้ถ้าแม่เบื่อจริงๆ สามารถที่จะซื้อของอะไรเล่นๆ ในออนไลน์ได้ตามใจชอบ ก็ถือ เสียว่าฆ่าเวลา”

เมื่อหม่าหลันได้ยินคำพูดนี้ ก็ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากในทันที
อันที่จริง เธอไม่ได้คาดหวังว่าเเฉินจะให้เงินตัวเองเลยด้วย

เธอเพียงแค่รู้สึกว่า ก่อนหน้านี้เยเฉินให้คำมั่นสัญญากับตัว เองว่า จะให้ค่าอาหารเดือนละสามหมื่นหยวน ให้ค่าเหนื่อยท อาหารตัวเองอีกหนึ่งหมื่นหยวน ตัวเองไม่กล้าอมเงินค่าอาหาร แต่ว่าค่าเหนื่อยที่ตัวเองได้รับก็สมควรที่จะได้รับ

แต่ตอนนี้ตัวเองตาบวมแล้วก็ง่อยด้วย ไม่สามารถที่จะซื้อผัก ทําอาหารได้ งานนี้ไม่มีใครทำไม่ว่า เกรงว่าเงินหนึ่งหมื่นนี้ก็ไม่ สามารถที่จะขอจากเยเฉินได้แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ