ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 866



บทที่ 866

สี่ยอดลูกน้องอยู่ที่จินหลง ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่แบ่งกันไป ประจำท้องที่ คนที่มีชื่อเสียงมากสุดก็คือ หม่าจงเหลียง

ในวงการเขาเรียกกันว่า เฮียเหลียงจื่อ

เจียงหมิงไม่เคยเลยว่า ตนเองจะหลบเลี่ยงรถปอร์เซ่แท้ๆ แต่ กลับมาชนรถPhaetonของหม่าจงเหลียงเสียได้

ตอนนี้ในใจเขาก็รู้สึกผิดจนแทบอยากจะตาย ถ้ารู้ว่าเป็นแบบ นี้แต่แรก เมื่อครู่ก็ชนปอร์เซคันนั้นไปเสียก็ดี ไม่สิ ถ้ารูปว่าจะเป็นแบบนี้ ตนเองก็คงไม่แข่งกับเย่เฉินหรอก

ว่ารถ ใครจะเร็วกว่ากัน!

ถูกต้อง!

ต้องโทษไอ้เย่เฉินนั่น ที่กล้ามาหรอกตนเอง รถBMW520ของ มันนั้น จำนวนแรงม้าสูงมาก ดูก็รู้ว่าเป็นรถแต่ง

ถ้ามันไม่ได้หรอกตนเอง ตนเองก็คงไม่เลือกทำแบบนี้หรอก? พอคิดถึงจุดนี้ ในใจเจียงหมิงก็โกรธเย่เฉินมาก

พอหม่าจงเหลียงเห็นไอ้หนุ่มหน้าซีดเซียว ก็ส่งเสียงไม่พอใจ ว่า “ไปเอาใบขับขี่มึงมา บัตรประชาชน เอามาให้ดูสิ! ”

เจียงหมิงก็ไม่กล้าขัด รีบกลับเข้าไปในรถ แล้วก็เอาเอกสาร ทั้งหมดออกมา แล้วก็ยื่นให้กับหม่าจงเหลียงอย่างเคารพ
พอหม่าจงเหลี่ยงเห็นเอกสาร ก็เอาเอกสารทั้งหมดใส่กระเป๋า ตนเองไป

จากนั้น เขาก็มองเจียงหมิง แล้วพูดเสียงเย็นว่า “ชื่อเจียงหมิง ใช่ไหม? กูอยู่ในวงการนี้มานาน จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะเอาเรื่อง เด็กๆ อย่างมึงหรอกนะ แต่รถคันนี้เพิ่งซื้อมาได้ยังไม่ถึงเดือน แต่มาถูกมึงชนแบบนี้ ต่อให้ถึงซ่อมให้ แต่รถมันก็มีตำหนิแล้ว ไม่ใช่รถใหม่แล้ว”

พูดถึงตรงนี้ หม่าจงเหลียงก็ตวาดว่า “ดังนั้น ก็มีทางเลือกให้ มึงง่ายๆ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป รถPhaetonคัน ก็เป็นของมึงแล้ว”

เจียงหมิงได้ยินดังนั้น ก็อึ้ง

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหม่าจงเหลียงพูดแบบนี้? เอา รถPhaetonมาให้ตนเองนั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้แน่?

ในตอนนี้ หม่าจงเหลียงก็พูดด้วยสีหน้าร้ายๆ ว่า “รถคันนี้ให้ มึง แล้วมึงก็ซื้อคันใหม่เหมือนเดิมมาให้ รถที่แต่งมาในระดับ เดียวกัน แล้วก็จะไม่เอาเรื่อง จึงยังถือว่าโชคดี ที่ตอนนี้ก อารมณ์ดีมาก ไม่งั้นล่ะก็ แค่เรื่องที่มึงมาชนรถกนี้ ก็จะตีขาถึง ให้หักก่อนเลย

พอเจียงหมิงได้ยินที่หม่าจงเหลียงพูด ก็สิ้นหวังแล้วคุกเข่าลง กับพื้น

ให้ตนเองซื้อรถคันใหม่ชดใช้ นั่นมันตั้ง2ล้านกว่าเลยนะ ตนเองจะไปเอาเงินมากมายอย่างนั้นมาจากไหน
แล้วอีกอย่าง เอารถคันนี้มาให้ตนเอง แล้วจะมีประโยชน์ อะไร? แค่ซ่อมก็หลายแสนแล้ว ซ่อมแล้วขายก็ขาดทุนหลายแสน ทั้งหมดทั้งมวล แค่ทํารถของเขาคนเดียวก็ล้านกว่าแล้ว!

นี่ยังไม่ได้คิดค่าเสียหายของรถตนเองเลยนะ!

บริษัทประกันก็จ่ายได้แค่5แสน ความเสียหายของตนเอง ทั้งหมด ก็คงจะล้านกว่า

ตอนนี้เงี่ยงหมิงก็แทบจะหัวใจวาย เพราะว่าที่เขาซื้อรถเบนซ์ คันนี้มา ก็ผ่อนจ่าย แต่ละเดือนก็ต้องส่งค่างวดเดือนละหมื่นกว่า หยวน แถมยังต้องส่ง3ปี

ทรัพย์ของตนเองทั้งหมดก็ควักออกมาดาวน์รถแล้ว แล้วอีก อย่าง เงินเดือนของตนเองก็แค่2หมื่นหยวนต้นๆ แล้วจะเอา ที่ไหนไปชดใช้ค่าเสียเป็นล้าน?

พอคิดถึงจุดนี้ เจียงหมิงก็พูดกับหม่าจงเหลียงว่า “เฮียเหลียง ชื่อครับ เรื่องในวันนี้ล้วนโทษผมเอง ผมผิดเองทั้งหมด ผม ยอมรับ! แต่ผมไม่มีเงินจริงๆ ไม่มีปัญญาซื้อรถแพงแบบนี้ไปคืน เฮียได้หรอกครับ!

“กูไม่สน” หม่าจงเหลียงก็ด่าว่า “มึงมาชนรถกู ก็ต้องชดใช้ให้ กูพอใจ จึงไม่มีเงิน ก็ไปคิดหาวิธีสิวะ กูให้มึงอย่างมากอาทิตย์ เดียว ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์ กูไม่ได้เห็นรถPhaetonคันใหม่ของ กู งั้นกูก็จะให้คนไปจัดการมึง”

พูดจบ หม่าจงเหลียงก็พูดต่ออีกว่า “กูมีธุระ งั้นรถคันนี้ ก็เป็น ของมึงแล้วกัน จึงมีเวลาแค่อาทิตย์เดียวนะ ถ้าถึงตอนนั้นถึงแก้ปัญหาไม่ได้ เดี๋ยวกูช่วยจัดการมึงเอง ถ้ามึงคิดหนี กูก็จะฆ่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ