ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 592



บทที่ 592

“ซุน โหย่วฉายงั้นหรือ? ” เซียวฉางควนกขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “ไอ้คนนั้นนะหรือ ไอ้คนหยาบโลน ที่พอมีเงินหน่อยก็ลืมชื่อแซ่ ตนเองน่ะหรือ? ”

สวี่เหวินหยวนพยักหน้า แล้วพูดว่า “แค่ผมที่คอยสนับสนุน นายคนเดียว มันยังไม่พอ เดี๋ยวพอคนอื่นๆ มาถึง คุณต้องหาทาง

ให้ได้การ

สนับสนุนจากกรรมการผู้จัดการคนอื่นๆ มาให้ได้ เช่นนี้คุณถึง จะมีโอกาสชนะซุน โหย่วฉาย ในการคัดเลือกภายใน แล้วได้ ตำแหน่งมา เข้าใจแล้วใช่ไหม? ”

เซียวฉางควนรีบพยักหน้า แล้วพูดอย่างกัวลว่า “พี่สวี่ พี่พูด เช่นนี้ ช่างเป็นเหมือนน้ำทิพย์มารดหัวให้ผมได้รับรู้อะไรดีๆ จริงๆ ครับ ขอบคุณมากเลย

สวี่เหวินหย่วนก็ยิ้มๆ แล้วพูดว่า “คุณจะต้องมาเกรงใจกับผม ทําไมกัน!

พูดไป เขาก็มองเวลา แล้วพูดว่า “พวกท่านประธานก็ใกล้จะ ถึงแล้ว พวกเราไปรอที่ประตูห้องอาหารเถอะ จะได้ดูจริงใจ หน่อย”

เซียวฉางควนก็พยักหน้า แล้วก็ไม่กล้านั่งต่อ ก็เลยเดินไปรอที่ ประตูพร้อมกับสวี่เหวินหยวน เพื่อรอการมาถึงของประธานสมาคมและกรรมการคนอื่นๆ

หลังจากนั้นไม่นาน คนของสมาคมศิลปะจีนคนอื่นๆ ก็มาถึง ตามๆ กัน

มีชายแก่แต่ท่าทางยังแข็งแรง ถูกคนห้อมล้อมไว้ราวกับดาว ล้อมเดือน ก็เดินมาถึงยังประตูห้องอาหาร

พอสวี่เหวินหยวนเห็นชายแก่คนนี้ ก็เลยรีบขึ้นหน้าไปยิ้ม ต้อนรับ “ท่านประธานครับ! ”

เขียวฉางควนก็รีบพูดอย่างเคารพด้วยว่า “ประธานเพียสวัสดี ครับ! ”

ประธานเพียก็ก้มหัวเล็กๆ แล้วแกล้งบ่นว่า “ฉางควร ดูคุณส จะจัดงานใหญ่โตทำไมกัน? บอกแล้วไม่ใช่หรือว่า งานเลี้ยงพวก เรา จัดงานเรียบๆง่ายๆก็พอแล้ว คุณไปหาร้านธรรมดา แล้วจอง ห้องใหญ่ๆ ก็พอแล้ว จะต้องเสียเงินมาจองห้องที่เรียนเชียง ทําไมกัน? ”

ถึงแม้ปากเขาจะพูดเช่นนี้ แถมยังมีนัยว่าไม่พอใจที่เชียงฉาง ควนจัดงานใหญ่ไป แต่นั่นก็เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ในใจ เขาไม่ได้คิดเช่นนี้

ถ้าหากว่าเขียวฉางควนไปจัดงานเลี้ยงที่ร้านอาหารธรรมดา จริงๆ ละก็ เขาจะต้องหันหัวกลับแน่นอน หลังจากนั้นก็คงไม่ คบค้าสมาคมกับเขาอีก

เซียวฉางควนรีบพูดว่า “วันนี้ทุกท่านล้วนเป็นผู้ใหญ่ของสมาคม ในเมื่อผู้มา ผมจะกล้าละเลยได้อย่างไรครับ! ”

พูดไป เขาก็หัวเราะ แล้วพูดว่า ” ในเมื่อทุกท่านมาถึงแล้ว พวก เราก็รีบเข้าไปนั่งกันเลยครับ”

ประธานเพียก็พยักหน้า แล้วพูดว่า “ได้ๆๆ ทุกคนเข้าไปนั่ง เถอะ! ”

ในตอนนี้ ชายวัยกลางคนที่เดินตามหลังประธานเพียก็ส่ง เสียงไม่พอใจว่า “เซียวางคาน คุณเชิญมางานเลี้ยงที่เทียนเซี ยง แต่จองแค่ห้องทองแดง ดูเหมือนจะไม่ให้เกียรติท่าน ประธานกับกรรมการคนอื่นๆ เลยนะ? ”

เซียวฉางควนก็มองฝั่งตรงข้าม แล้วก็หน้าเสีย พร้อมพูดว่า “ซุนโหย่วฉาย ผมเชิญทุกท่านมาทานข้าว แต่ไม่ได้เชิญคุณเลย นะ คุณจะมีหน้ามาทำอะไร? แล้วอีกอย่าง ห้องที่ผมจอง มันเกี่ยว อะไรกับคุณ ใช่ที่ที่คุณมาจะปากมากที่นี่หรือ? ”

คนตรงหน้าเขาคนนี้ ก็คือซุนโหยวฉาย คนที่เป็นคู่แข่งที่จะมา แย่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกับเขา

ซุนโหย่วฉายก็พูดเยาะเย้ยว่า “พูดแบบนี้ไม่ได้ ประธานเพีย ตำแหน่งใหญ่โต พวกกรรมการผู้จัดการต่างๆ นั้นไม่เท่าไร

พูดไป ซุนโหย่วฉายก็ส่งเสียงไม่พอใจ “วันนี้คุณเชิญทุกคนมา ทานข้าว มีจุดประสงค์อะไร ทุกคนล้วนรู้ดี ก็เพื่อตำแหน่ง กรรมการ

ผู้จัดการไม่ใช่หรือ? แต่ว่านะ คุณคิดว่าคุณจองห้องอาหารระดับทองแดงต่ำสุด แล้วท่านประธานจะสนับสนุนคุณอย่างนั้น หรือ? ไม่มีความจริงใจเอาเสียเลย คิดว่าทุกคนเป็นไอ้บ้านนอกที่ ไม่รู้จักแสงสี แล้วจะหลอกได้ง่ายๆ งั้นหรือ

พูดจบ เขาก็มองทุกคน แล้วก็ยิ้มหน้าบานพูดว่า “แค่ห้อง อาหารระดับทองแดง มันไม่เหมาะกับฐานะของทุกท่าน เพื่อจะ แสดงถึงความจริงใจที่ผมมีให้กับท่านประธานและทุกท่าน ผมได้ จองห้องอาหารระดับทองคำไว้ให้แล้ว พวกเราก็ย้ายไปที่ห้องนั้น กันเถอะครับ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ