ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่1399



บทที่1399

เครื่องบินลงจอด เย่เฉินกับต่งรั่งหลินลงจากเครื่องบินพร้อม กัน

เพราะเย่เฉินไม่ได้ฝากสัมภาระ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรอหยิบ กระเป๋าเดินทาง ส่วนต่งรั่งหลินอย่างไรก็เป็นสุภาพสตรีคนหนึ่ง ปกติออกจากบ้านก็ต้องพกเสื้อผ้ามาไม่น้อยรวมถึงเครื่องสำอาง และครีมทาผิว

โดยเฉพาะสิ่งของจําพวกเครื่องสำอางและครีม ความจุอาจ เกินมาตรฐานได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการฝากส่ง

หลังลงจากเครื่องบิน เธอยังไม่อาจไปเลยเหมือนอย่างเยเฉิน

ได้ ยังต้องไปยังช่องหยิบสัมภาระเพื่อรอกระเป๋าเดินทางออกมา

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบร้อนถามเเฉินว่า “เยเฉิน อีกเดี๋ยวคุณจะ ไปยังไง?”

เย่เฉินกล่าวว่า “ผมจะออกไปเรียกแท็กซี่คันหนึ่งแล้วก็ไปเลย ต่งตั่งหลินรีบร้อนพูดว่า “งั้นคุณรอฉันอีกสักเดี๋ยวไม่ดีกว่า หรือ พวกเราไปด้วยกันเถอะ? รถของที่บ้านมารับฉันพอดี ฉันไป ส่งคุณได้”

เย่เฉินยิ้มพลางโบกมือ ไม่ต้องหรอกนั่งหลิน ทางผมด่วนมาก ไปก่อนล่ะ”
ต่งตั่งหลินกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “งั้นก็ได้ ไว้วันหลังเราค่อย นัดกันใหม่ คุณอย่าลืมที่รับปากฉันไว้ละ พวกเราต้องไปกินข้าว ด้วยกันหนึ่งมื้อ”

“ได้” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “คุณรอสัมภาระเถอะ ผมไปก่อนนะ ไว้วันหลังค่อยนัดกัน

หลังจากบอกลาต่งตั่งหลินแล้ว เย่เฉินก็สาวเท้าเดินออกจาก สนามบินเย่นจิงตามลำพัง

หลังเขาออกประตูมา ก็ถอนหายใจออกมาแทบไม่ทัน เตรียม จะไปโบกรถตรงจุดเทียบท่ารถแท็กซี่ที่จอดรอเป็นแถว

หลังจากที่เขาเพิ่งออกมา ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งห่อด้วยเสื้อกัน หนาวขนเป็ดอย่างหนา สวมด้วยชุดของเสื้อกันหนาว ทั้งยังสวม แว่นตา พร้อมที่ปิดปาก สาวเท้าอย่างรวดเร็วตรงมาทางเขา

ไม่รอให้เขาเห็นชัด หญิงสาวคนนั้นก็โผเข้ามาหาเขาด้วย ความดีใจ ร้องเรียกเขาอย่างมีความสุขว่า “พี่เเฉิน!

เย่เฉินจำเสียงของหญิงสาวคนนี้ได้ เธอคือชิวอี้นั่นเอง ดังนั้น จึงปล่อยวางความระแวดระวังลง ปล่อยให้เธอโผเข้ามาในอ้อม แขนของตนเอง

เขากอดกู้ชิวอี้ไว้เบาๆ เยเฉันถามเธออย่างอดรนทนไม่ไหวว่า “ก็บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องมารับฉัน? ทำไมยังจะมา อีก?”

กู้ชิว กล่าวด้วยความร่าเริงสดใสว่า “อยากมาเจอพี่ให้เร็วหน่อยนะ! ฉันกลัวว่าหากฉันอยู่ที่บ้าน จะทนไม่ไหวเอาข่าวที่พี่จะ มาไปบอกพ่อกับแม่ก่อน ดังนั้นฉันจึงวิ่งออกมาเสียเลย

เย่เฉินถามอีกว่า “เธอออกมาเองคงไม่ได้ถูกปาปารัสซีจับตาดู หรอกนะ หากถูกปาปารัสซีแอบถ่ายได้ว่าดาราดังอย่างเธอกอด อยู่กับผู้ชายคนหนึ่งหน้าประตูสนามบิน เกรงว่าจะกระทบกับชื่อ เสียงของเธออย่างใหญ่หลวงน่ะสิ

“กลัวอะไร!” กู้ชิวอี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสอย่างมาก หาก ถูกถ่ายได้จริง แล้วเปิดเผยออกมา ฉันก็จะบอกว่า คนที่ฉันกอด คือคู่หมั้นของฉัน หากชื่อเสียงจะตกต่ำลงเพราะเรื่องนี้ อย่างนั้น ก็ปล่อยมันไปเถอะ เดิมทีฉันก็ไม่ได้อาศัยวงการบันเทิงเลี้ยงชีพ อยู่แล้ว เข้ามาเล่นๆ เพื่อจะตามหาพี่ได้สะดวกเท่านั้นเอง ตอนนี้ หาพี่เจอแล้ว ฉันก็ถอนตัวออกจากวงการได้ทุกเมื่อ

“เอาเถอะ” เย่เฉินจนปัญญา จากนั้นก็ถามเธอว่า “พวกเรายัง คงรีบไปพบคุณลุงคุณน้าก่อนดีกว่า เธอขับรถมาใช่ไหม?” กู้ซิวอี้พยักหน้าพร้อมพูดว่า “ฉันเอารถจอดไว้ที่ลานจอดรถ

เมื่อกี้ ไป พวกเราไปเอารถกัน!”

พูดจบกู้ชิวอี้ก็กอดแขนของเย่เฉินไว้ กระโดดโลดเต้นพาเขา

ไปยังลานจอดรถ

วันนี้รถที่กู้ชิว ขับมา คือรถวอลโว่เก่าอืดที่ไม่สะดุดตาเป็น อย่างมากคันหนึ่ง หลังเข้าไปนั่งในรถแล้ว เธอก็ดึงหมวกลง พูด อย่างรู้สึกผิดอยู่บ้างว่า “พี่เย่เฉิน ขอโทษด้วยนะ รถที่ขับมาวันนี้ ซอมซ่อไปหน่อย ความจริงคือรถหลายคันของบ้านเราปาปารัสซีจําได้หมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องขับรถอีแก่คันนี้ออกมา พี่อย่า รังเกียจมันเลยนะ”

เย่เฉินพยักหน้ายิ้มๆ พลางกล่าวว่า “หลายปีมานี้ฉันมีชีวิต ผ่านมายังไงเธอไม่ใช่ไม่รู้ คราวก่อนก็บอกกับเธอแล้วว่า เมื่อ ก่อนใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลังจากออกมาทำงาน ปู่ของภรรยาฉันก็จัดการให้ฉันไปเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง วัน เวลาที่ลำบากอย่างไรฉันก็ผ่านมาหมดแล้ว ต่อให้เธอบอกกับฉัน ว่าต้องการให้ฉันเดินไปบ้านเธอ ฉันก็ไม่ขัดข้อง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ