ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 455



บทที่ 455

“เป็นอินทร์พรมณ์องค์ไหนกัน?

พอได้ยินคําของอู่ตงไห่ อู๋ซินก็เหลืออด แล้วพูดอย่างโมโหว่า “พ่อครับ ในกลุ่มวัยรุ่นในเจียงหนาน มีใครบ้างกล้ามาบอกว่า ตนเองเป็นอินทร์เป็นพรมณ์ต่อหน้าผม? ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่อหน้า ผม มันก็เป็นเพียงไอ้กระจอก ต่อให้เป็นมังกรบนฟากฟ้า ต่อหน้า ผม มันก็จะต้องมาขดตัวตรงหน้า! ”

พูดไปดังนั้น ใบหน้าเขาก็นิ่งขึ้น แล้วพูดว่า “คุณท่านซึ่งคนนี้ ไม่รู้เสียบ้างว่าคนอื่นจะมีอะไรดีๆ ให้ ให้ส่งหวั่นถึงแต่งกับผม นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีของตระกูลพวกเขา ตระกูลซงคิดว่าตัว เองเป็นใคร ถึงได้มาดูถูกผม

อู่ตงไห่ก็พูดนิ่งๆ ว่า “อู๋ซิน อย่าลืมว่าที่นี่คือตระกูลซง มาพูด มั่วที่นี่ เพื่อคนตระกูลซ่งได้ยินเข้า เรื่องนี้ของเรา แกคิดว่ามันจะมี โอกาสสําเร็จอีกหรือ?”

อู๋ซินได้ยินดังนั้น ก็รีบหุบปากตนเอง

อู่ตงไห้ก็ถอนหายใจพูดว่า “แกนี่นะ ทำอะไรก็รีบร้อน ต่อไปจะ ทำงาน จะต้องใจเย็นๆ มากกว่านี้หน่อย

อู๋ซินก็รีบพูดว่า “ขอโทษครับพ่อ ผมรีบร้อนไปหน่อย

อู่ตงไห่พูดว่า “คุณท่านซึ่งเป็นคนฉลาด ไม่เช่นนั้น ก็คงไม่มี กิจการของตระกูลเช่นนี้ ดังนั้น เขาคงจะไม่ทำผิดเพราะความเลอะเลือน ถ้าหากว่าซ่งหวั่นถึงไปรักผู้ชายธรรมดาๆ จริงละก็ เขาคงจะไม่ยอมรับแน่ ยิ่งไม่พูดถึงการให้กำลังใจเลย ดังนั้นพ่อ สงสัยว่าฝั่งตรงข้ามคงจะมีความสามารถไม่น้อยเหมือนกัน”

อู๋ซินก็ตาเป็นประกาย แล้วพูดว่า “พ่อครับ ผมไม่เคยได้ยินใน ตระกูลแถบเจียงหนาน มีวัยรุ่นคนไหนที่มีความสามารถโดดเด่น เลย แล้วอีกอย่าง ทั้งเจียงหนานนี้ ก็เคารพตระกูลเราเป็น หลัก…..

อู่ตงไห่ก็ครุ่นคิด แล้วพูดว่า “แกก็พูดเอง ว่าตระกูลเป็นที่ เคารพในเจียงหนาน แต่ในระดับประเทศ เรายังห่างอีก มาก พวกตระกูลใหญ่ที่หลบซ่อนตัว ส่วนมากจะอยู่ที่เป็นจิง ดัง นั้น พ่อสงสัย ที่คุณท่านซึ่งบอกว่า ชายที่ซึ่งหวั่นถึงถูกใจ ไม่แน่ ว่าอาจจะเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ในเมืองเช่นจิง

อู๋ซินก็ร้อนใจ แล้วรีบถามว่า “พ่อครับ พ่อหมายความว่า ”

อู่ตงไห่พูดเสียงเย็น “คืนนี้ พ่อเตรียมจัดงานเลี้ยงที่เทียนเชียง ฝูของเมืองจินหลิง เชิญพวกคนดูแลตระกูลใหญ่ๆ ของเมืองจีน หลิง

มาพบพ่อ เชื่อว่า พวกเขาคงจะได้รับรู้ชื่อเสียงของตระกูลมา บ้าง คงมาร่วมงานแน่

ในตอนนี้ ลุงก็เข้ามาเคาะประตู แล้วพูดอยู่ด้านนอกว่า “คุณ อู๋ คุณชายครับ คุณท่านให้มาเชิญพวกคุณทั้งสองไปที่ห้อง อาหารครับ”

“ได้” อู๋ตงไห่ตอบรับไป แล้วพูดว่า “รบกวนไปบอกคุณอางด้วย เดี๋ยวสักครู่พวกเราจะรีบตามไป

พูดไป อู่ตงไห้ก็พูดเสียงกับอู๋ซินว่า “พ่อจัดงานครั้งนี้ มีจุด ประสงค์สองอย่าง หนึ่ง ให้คนตระกูลใหญ่ๆ พวกนั้น ช่วยเรา สืบหาเบาะแสเรื่องน้องชายแก สองไปสืบว่าคนที่ยังหวั่นถึงชอบ นั้น มันเป็นใครกันแน่ ถ้าหากว่าเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ พวก เราก็หาทางจัดการเสีย ถ้าเป็นคนธรรมดาจริง ก็ทำให้มันหายไป จากโลกนี้เสีย!

อู๋ซินก็ดีใจ แล้วรีบตอบว่า “พ่อครับ ผมเข้าใจแล้ว! ”

ส่วนเย่เฉิน ในตอนนี้ ก็ทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว กำลังกิน ข้าวกับเซียวซูหน และพ่อตาแม่ยาย

ตอนที่กินข้าว เขียวฉางควนก็ดูครึกครื้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าก็ยิ้มแย้มด้วยความหวังออกมา เหมือนว่าจะมีข่าวดีอะไร สักอย่าง

หม่าหลันผู้เป็นแม่ยายก็ขมวดคิ้ว แล้วก็จ้องมองเซียวฉางควน แล้วถามว่า “ตาแก่ แกยิ้มอะไรหะ ไปทำเรื่องไม่ดีอะไรมาอีก?”

“เปล่า! ” เซียวฉางควนรีบตอบ “เพื่อนเก่าสมัยเรียน นัดเจอ กันที่โรงเรียนเก่าตอนบ่าย พอถึงตอนนั้น จะเชิญอาจารย์ประจำ ชั้นสมัยนั้นมาด้วย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ