ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1928



บทที่ 1928

แต่เดิม ในวันนี้นายหญิงใหญ่เชียวตกลงไว้ว่าจะไปทำงานใน เปอร์มาร์เก็ต

ทางซูเปอร์มาร์เก็ตก็ตกลงที่จะเพิ่มเงินค่าจ้างของเธอให้เป็น

สองเท่า ในวันนี้

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเงินที่หามาอย่างยากลำบากของ ตัวเองถูกขโมยไป และก็ถูกหม่าหลันเยาะเย้ยอย่างรุนแรง ความ ดันโลหิตของนายหญิงใหญ่เซียวก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และนั่ง ลงบนเก้าอี้ และก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย

แม้ว่าร่างกายของเธอจะไม่มีอาการที่ร้ายแรงอะไรเลย แต่ก็ เพราะความโกรธจัดที่ส่งผลกระทบต่อหัวใจ และทำให้ความดัน โลหิตของเธอพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นจึงทำได้เพียงต้องล้มเลิกความคิด ที่จะไปทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตไปเลย

เมื่อเห็นว่าเงินที่หามาอย่างยากลำบากหายไป และไม่มี โอกาสที่จะได้รับเงินค่าจ้างของในวันนี้แล้ว นายหญิงใหญ่เชียว จึงรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในใจอย่างมาก

เดิมทีเธออยากจะให้เซียวเวยเวยไปทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ต และไปเอาค่าจ้างสองเท่าของตัวเองนั่นกลับมา

แต่เมื่อคิดได้ว่าลูกชายและหลานชายทั้งสองได้รับบาดเจ็บ สาหัสนอนอยู่บนเตียง และความดันโลหิตของตัวเองก็พุ่งสูงขึ้นอีก ดูแลตัวเองยังไม่ได้เลย ยังจะมีความสามารถไปดูแลพวกเขา ได้อย่างไร ดังนั้นจึงไม่กล้าปล่อยให้เซียวเวยเวยออกไป

ทั้งครอบครัวสี่คนทำได้เพียง จ้องตากันอยู่ในวิลล่าสุดหรู

เท่านั้น

ในตอนนี้ทั้งครอบครัวสี่คนไม่มีเงินเลยแม้แต่สตางค์เดียว สิ่ง เดียวที่พวกเขามี ก็คืออาหารของเหลือที่ยังไม่ได้กินของเมื่อวาน

เดิมทีมันก็เป็นเพียงของเหลือ และหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน มัน ก็ได้กลายเป็นซุปผักที่เน่าเปื่อยอย่างสมบูรณ์แล้ว

เซียวเวยเวยเสนอว่าในตอนเที่ยงก็อุ่นอาหารที่เหลือเหล่านี้กิน ให้หมดกันไปก่อน แต่นายหญิงใหญ่เชียวไม่เห็นด้วย

เธอพูดกับเซียวเวยเวยว่า “อาหารที่เหลืออยู่พวกนั้น เป็น อาหารทั้งหมดที่เรามีอยู่ในตอนนี้แล้ว ถ้าเรากินไปทั้งหมดใน ตอนนี้ งั้นช่วงกลางคืนเราก็ต้องอยู่อย่างอดอยากแล้ว”

ในขณะที่พูด นายหญิงใหญ่เซียวก็ถอนหายใจ และกล่าวอีก ว่า “ในคืนนี้ก็จะเป็นคืนที่ส่งท้ายปีเก่าแล้ว ไม่ว่าจะยังไง พวกเรา ก็ไม่สามารถอดอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าอย่างแน่นอน ดังนั้น อาหารเหลือพวกนี้ก็เก็บไว้กินในตอนเย็นกันเถอะ”

เซียวเวยเวยร้องไห้และพูดว่า “คุณย่า อาหารเล็กน้อยที่เหลือ ไว้พวกนั้น ไม่พอให้พวกเราสี่คนกินอิ่มหรอก จะเก็บไว้ไปเพื่อ อะไร…..
นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างจริงจังว่า “แกไม่เข้าใจหรอก! มือ อาหารเย็นในวันส่งท้ายปีเก่าจะต้องมีกิน ถ้าไม่มีอาหารเย็นใน วันส่งท้ายปีเก่ากิน ปีหน้าก็จะมีชีวิตที่ยากได้มากขึ้น และไม่ สามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกเลย!”

เมื่อเชียวไห่หลงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ร้องไห้ทันที “คุณย่า คุณ ไม่ใช่บอกว่าคุณจะห่อเกี่ยวเนื้อให้ผมกินในคืนนี้เหรอ? ทำไมถึง ปล่อยให้ผมกินของเหลือพวกนี้อีกล่ะ?”

นายหญิงใหญ่เซียวก็หมดหนทางอย่างยิ่ง ไห่หลง คุณย่าก็ ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ เพราะยังไงตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงิน เลยแม้แต่บาทเดียว แล้วพวกเราจะเอาเงินมาจากไหนไปซื้อแป้ง และเนื้อได้ล่ะ?”

เซียวไห่หลงร้องไห้อย่างเศร้าใจเป็นพิเศษ “คุณย่า วันนี้เป็น วันส่งท้ายปีเก่า แม้ว่าจะไม่มีอาหารที่ดีให้กิน ยังไงก็มีเกี๊ยวให้ กินสักหน่อยก็ยังคงจะดี ผมไม่อยากจะกินซุปผักที่เหลือจากเมื่อ วานเลยจริงๆ ในซุปผักนั้นมีกลิ่นของน้ำล้างหม้อ ปนกับกลิ่นมีด ทำครัวที่ขึ้นสนิม มันไม่น่ากินเลยจริงๆ ……

เซียวฉางควนที่อยู่ข้างๆ ก็สำลักและพูดว่า “เอาเถอะไห่หลง มี อะไรให้กิน ก็ถือว่าบุญมากแล้ว……ยังไงก็ดีกว่าจะต้องทนหิวอยู่ ในวันส่งท้ายปีเก่า……..”

หลังพูดจบ เขาก็กัดฟันและพูดว่า “ในเรื่องนี้ ถ้าจะโทษก็ต้อง โทษแม่ไอ้สารเลวของคุณนั่น! ขโมยเงินที่หามาอย่างยากลำบาก ของคุณย่าไปทั้งหมด ไม่เช่นนั้น ยังไงพวกเราก็จะมีเกี๊ยวร้อนให้กินสักมือ……….

เซียวเวยเวยก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูดว่า “คุณแม่ก็ทำมาก เกินไป ตอนที่เธอขโมยเงินของคุณย่า เธอไม่ได้นึกถึงทั้ง ครอบครัวของเราบ้างเลยหรือ?”

นายหญิงใหญ่เซียวยิ่งรู้สึกโกรธมาก และพูดโพล่งออกมาว่า “เธอจะนึกถึงบ้าอะไร! ถ้าเธอมีครอบครัวของเราอยู่ในใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอก็จะไม่ขายร่างกายตัวเองอยู่ในเหมืองถ่านหินที่ ผิดกฎหมายนั่นแล้ว! ผู้หญิงเลวที่ไร้ยางอายแบบนี้ ถ้าพระเจ้ามี ตาจริงๆ ก็รีบมาเก็บเธอไปสักทีเถอะ!”

เมื่อพูดอย่างนั้น นายหญิงใหญ่เซียวก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ตบที่ต้นขาของเธอ และร้องไห้และพูดว่า “พระเจ้า ได้โปรดคุณ ลืมตาและมองดูครอบครัวของเราเถิด นี่กำลังใช้ชีวิตอยู่แบบ ไหนกันเหรอ!”

หลังจากที่นายหญิงใหญ่เชียวพูดจบ ก็กุมใบหน้าของเธอและ ร้องไห้อย่างขมขื่น

คนอื่นก็คร่ำครวญไปด้วยอย่างไม่หยุดยั้ง และทั้งครอบครัว คนก็ร้องไห้ไปด้วยกัน………


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ