ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1526



บทที่ 1526

พนักงานขมวดคิ้ว พร้อมกับพูดว่า “คุณผู้ชายคะ ราคาขาย ของกระเป๋าใบนี้อยู่ที่ 58,000 หมิ่นหยวนนะคะ”

เย่เฉินส่งเสียงอึมไปทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับ ผม

จะซื้ออันนี้แหละครับ”

พนักงานพูดอีกครั้งว่า “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้ชายซื้อ กระเป๋าใบนี้ต้องมีการประกอบการซื้อสินค้านะคะ”

เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจว่า “ประกอบการซื้อสินค้า หมายความว่ายังไง? กระเป๋าใบนี้ไม่สามารถจ่ายโดยตรงได้เห รอครับ?”

พนักงานหัวเราะด้วยความเหยียดหยาม “คุณผู้ชายคะ คุณ ผู้ชายมาที่แอร์เมสของพวกเราครั้งแรกเหรอคะ? คุณผู้ชายคง ไม่เคยซื้อสินค้าจากแอร์เมสมาก่อนเลยเหรอคะ?”

เยเฉันพยักหน้า “ใช่ครับ ทำไมเหรอครับ? มีปัญหาอะไร หรือเปล่าครับ?”

พนักงานส่งเสียงฮือพร้อมกับพูดว่า “กระเป๋าส่วนใหญ่ของ แอร์เมส ไม่ใช่ว่าคุณอยากซื้อก็จะซื้อได้ตามต้องการ ถ้าเป็น สินค้าราคาต่ำในราคา 3 แสนหยวนลงมาหรือสินค้าพื้นฐานคุณ สามารถคัดเลือก หรือซื้อได้ตามสบาย แต่สำหรับในราคา 3 แสนหยวนขึ้นไปนั้น มันเป็นสินค้ารุ่นจำนวนจำกัดค่ะ!”
“คุณอย่ามองนะคะว่าราคากระเป๋าใบนี้ในร้านจะแค่ 58,000 หมื่นหยวน และตราบใดที่ซื้อออกไป ก็จะสามารถขายใน ราคา 700,000 หยวนหรือ 800,000 หยวนทันทีได้เลย ดังนั้น ถ้าคุณต้องการซื้อกระเป๋าใบนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเป็นสมาชิก ระดับพรีเมียมของแอร์เมสแล้วค่ะ นอกจากนี้คุณยังต้องนัด หมายกับผู้จัดการร้านของเราล่วงหน้าให้ได้ก่อนถึงจะสามารถ ซื้อได้ หรือว่า คุณอาจต้องซื้อสินค้าแบบประกอบการสั่งซื้อใน จํานวนเงินที่แน่นอนอื่นๆ ซึ่งสินค้าอื่นๆ ก็ไม่สามารถเป็นสินค้า ยอดนิยมได้ด้วย ดังนั้นจะต้องซื้อกระเป๋าใบนี้ในราคา 500,000 หยวนถึงจะได้ค่ะ”

เย่เฉินขมวดคิ้วอย่างแน่นหนา “ตามที่คุณหมายถึงคือ ถ้าผม ต้องการซื้อกระเป๋าใบนี้ผมต้องซื้อสินค้าอย่างอื่น ในราคา 500,000 หยวนก่อนงั้นเหรอครับ?”

“ใช่แล้วค่ะ” พนักงานยิ้ม “แอร์เมสจากทั่วโลกล้วนปฏิบัติ ตามกฎข้อนี้ค่ะ คุณไม่รู้เหรอคะ? หรือว่าคุณอยากจะลองเสี่ยง โชคดูเพราะอยากหลอกซื้อกระเป๋าใบนี้จากร้านของเราไปเพื่อ หารายได้ทางลัดงั้นเหรอคะ?”

สำหรับสินค้าหรูหราชั้นนำอย่างนี้ กระเป๋าถือรุ่นจำนวน จำกัดของเขามันมีอัตราการเก็บรักษาที่สูงมากอย่างน่าตกใจ

แม้แต่หลายแบบที่วางขายในตลาดมือสองยังแพงมากกว่า ของมือหนึ่งเลย สาเหตุก็คือกลยุทธ์การกระตุ้นความอยากให้ ลูกค้าของแอร์เมส
แบรนด์อื่นๆ แค่จ่ายเงินก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่แอร์เมสนะ ทําไม่ได้ค่ะ

เพราะราคาภายนอกนั้นแพงกว่าในร้านค้ามาก ดังนั้นถ้าคุณ ต้องการซื้อของจากร้านตามราคาที่กำหนดคุณจะต้องซื้อสินค้า ประกอบการสั่งซื้ออื่นๆ ในราคาไม่กี่แสนหรือกระทั่งหลายล้าน หยวนค่ะ

ถ้าคิดตามแบบนี้ การที่คุณต้องการซื้อกระเป๋ารุ่นจำนวน จำกัด คุณจะต้องจ่ายล้านหยวนขึ้นไปค่ะ

แต่อย่างไรก็ตามแอร์เมส เฉลียวฉลาดเช่นกัน ถ้าเป็นการ ประกอบการสั่งซื้อ คงไม่สามารถซื้อสินค้ายอดนิยมของพวก เขาได้ซึ่งจะซื้อได้เฉพาะสินค้าที่ขายไม่ออกเท่านั้น

สินค้าที่ขายไม่ออกนั้นมันพูดจาเรื่อยเปื่อยอย่างมาก ตัวอย่างเช่น แหวนทองคำ 18K บางวง ราคาต้นทุนโดย ประมาณ ก็พันหยวนแล้ว แต่เนื่องจากทำเครื่องหมาย Hermès ลงไปก็จะสามารถขายได้ในราคา 5-6 หมื่น หรือ 1 แสนขึ้นไปนั่นเองค่ะ

แหวนแบบนี้ แม้ว่าจะซื้อมาและขายออกไป ก็ไม่มีใคร อยากซื้อหรอกค่ะ เว้นแต่จะได้รับโอนในส่วนลดที่ต่ำมากๆ

หลังจากที่เย่เฉินได้เข้าใจในกฎของ Hermes แล้ว เขาก็ไม่ โกรธแต่อย่างใด ในเมื่อคนอื่นเขามีกฎแบบนี้ ก็แค่ทำไปตาม กฎเท่านั้น

ดังนั้นเย่เฉินจึงพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ถ้าผมซื้อเลือกสินค้าอย่างอื่นด้วยราคา 5 แสนก็จะสามารถซื้อพร้อมกันได้ใช่ไหม ครับ?

เมื่อพนักงานได้ยินดังนั้นตาเป็นประกายทันที คิดไม่ถึงเลย ว่าเย่เฉินจะเป็นเศรษฐีที่ปกปิดฐานะตัวเองสินค้าในราคา 5แสน หยวน มันช่างขี้เกียจต่อรองราคาจังเลยนะคะ งั้นก็เตรียมห่อ เลยใช่ไหมคะ?

เมื่อได้ยินดังนั้น ความเฉยชาจากเมื่อครู่นี้ก็เปลี่ยนไปเธอรีบ ก้าวไปข้างหน้า และพูดด้วยความเคารพว่า “คุณผู้ชายคะ เดี๋ยวฉันจะพาไปดูสินค้าที่ใช้ในการจำหน่ายในร้านค่ะ คุณ ผู้ชายดูได้นะคะว่ายังอยากซื้ออะไรอีก

เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “เมื่อครู่ผมเห็นกระเป๋าถือแบบ ทั่วไปใบหนึ่ง ราคาขายน่าจะราวๆ แสนหกหยวนใบนั้น สามารถซื้อได้ไหมครับ?”

“ได้อยู่ค่ะ” พนักงานพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ราคาขายของ กระเป๋าใบนั้นคือ 158,888 หยวนค่ะ จากนั้นคุณแค่จ่ายกับ สินค้าอื่นอีกประมาณ 340,000 หยวน”

เยเฉันกำลังจะไปดูสินค้าอย่างอื่นแต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงของผู้ หญิงคนหนึ่งดังมาจากประตู “ทานากะซัง ฉันอยากเข้าไปดู Hermès สักหน่อย!”

จากนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น “ไม่ดูแล้ว เราจะต้อง ไปที่ประตูเช็กอินแล้วนะ”

ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างอ้อนวอนว่า “ยังเหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงค่อยเช็กอิน พาฉันไปช้อปปิ้งหน่อยนะ!”

ชายคนนั้นพูดอย่างจนปัญญาว่า “ได้ แต่ช้อปปิ้งได้แค่ 20 นาทีเองนะ!”

“ทานากะ งเ ย ใจดีมากเลย!”

จากนั้นชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งก็สาวเท้าเข้ามา

เย่เฉินมองแค่แวบเดียวก็จําชายคนนั้นได้แล้วเขาไม่ใช่ทานา กะซังคนนั้นที่ก่อนหน้านี้มักจะอยู่ข้างๆ อิโตะ นานาโกะเหรอ?

เขา มาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไงกัน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ