ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2279



บทที่ 2279

เยเฉันคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ซุนฟางจะเชิญตนไปกินข้าวที่บ้านของ

เธอ

กำลังคิดจะหาข้ออ้างปฏิเสธ กลับกลายเป็นว่าซุนฟางไม่รอ ให้เขาเอ่ยปาก ก็รีบร้อนกล่าวอีกว่า “พรุ่งนี้วันเสาร์พอดี ตงเส วียนเองก็ไม่ได้ทำงาน สามารถช่วยน้าทำกับข้าวเพิ่มอีกหลาย อย่างที่บ้านได้”

หวังเฉิงหย่วนที่อยู่บนเตียงคนไข้ก็เอ่ยปากอย่างเห็นพ้องว่า “ใช่แล้วเสี่ยวเย่ มากินข้าวที่บ้านเถอะ ถือเสียว่ามาเที่ยวบ้านก็ แล้วกัน”

เพียงแต่หวังเฉิงหยวนไม่รู้ว่าอันที่จริงเเฉินเคยไปบ้านเขามา

แล้ว

เห็นซุนฟาง หวังเฉิงหย่วนทั้งสองคนพูดเช่นนี้แล้ว เย่เฉินจะ มากจะน้อยก็รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง

เขาไม่อยากรับปากทานข้าวมื้อนี้เท่าไหร่นัก แต่ในใจก็รู้สึกไม่ ดีที่จะหักหน้าผู้อื่น

ตอนที่เขากำลังขึ้นขี่หลังเสือยากจะลงอยู่นั้น หวังตงเสงี่ยนก็ รีบร้อนเอ่ยปากขึ้นว่า “แม่คะ พรุ่งนี้หนูมีธุระนิดหน่อย บริษัทมี งานล่วงเวลา ไว้เป็นวันอื่นดีไหมคะ?”

“หา? พรุ่งนี้ยังมีโอทีอีกเหรอ?” ซุนฟางพูดอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก “สุดสัปดาห์ยังจะมีโอทีอะไรอีก?

อันที่จริงหวังตงเสงี่ยนไม่ได้มีโอทีอย่างที่ว่าจริงๆ แต่เป็น เพราะเธอมองออกว่าพ่อกับแม่อาจมีความรู้สึกที่ดีต่อเย่เฉิน เดา ออกว่าพ่อกับแม่อาจจะคิดใช้โอกาสเชิญเย่เฉินมาทานข้าว เพื่อ ทำความรู้จักเข่เฉินมากขึ้น

ดังนั้นเธอเองก็เดาออกว่าพ่อกับแม่จะต้องไม่รู้ว่าตอนนี้เเฉิน แต่งงานแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกเขาไม่มีทางแสดงออกอย่าง ตรงไปตรงมาเช่นนี้แน่

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเตรียมปัดเรื่องที่เชิญเย่เฉินไปทานข้าวที่บ้าน ทิ้งไว้ด้านหลัง จากนั้นก็พูดกับพ่อแม่ให้ชัดเจน ต่อให้ไม่อาจบอก ฐานะที่แท้จริงของเยเฉินแก่พวกเขาได้ แต่อย่างน้อยก็ควรให้ พวกเขารู้ว่าเย่เฉินมีภรรยาแล้ว ทำให้พวกเขาอย่าคาดหวังอีก

คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็พูดอย่างจริงจังเป็นพิเศษ “แม่คะ พรุ่งนี้ หนูมีธุระจริงๆ ค่ะ ไม่เพียงแค่พรุ่งนี้ วันต่อมาก็ยังมีธุระอีก มากมาย พักนี้ค่อนข้างยุ่งมากจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นสัปดาห์นี้พวก เราก็อย่าเพิ่งนัดหมายกันเลยดีกว่าค่ะ สัปดาห์หน้าค่อยดูเวลา แล้วค่อยเจออีกดีไหมคะ?”

ซุนยูฟางได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ก็รู้ว่าไร้หนทางจะดื้อดึงต่อไป ที่ เธอต้องการคือการให้เย่เฉินมาทานข้าวพร้อมกับพวกเขาสาม คนครอบครัวที่บ้าน แต่หากลูกสาวมีธุระมาไม่ได้ ตนกับสามีเชิญ เย่เฉินมาทานข้าวที่บ้าน จะมากจะน้อยก็ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้แต่กล่าวว่า “งั้นก็ได้ งั้นสัปดาห์นี้ยังไม่นัดเสียวเย่มาทานข้าวที่บ้านก่อน สัปดาห์หน้าดูว่างานของลูกเป็น อย่างไร พวกเราก็นัดกันแต่เนิ่นๆ สุดสัปดาห์หน้าก็พยายามเชิญ เสี่ยวเย่มาทานข้าวที่บ้าน

กล่าวจบ เธอก็มองไปที่เเฉินอีก พูดด้วยสีหน้าลุแก่โทษ “เสี่ยวเย่จ๊ะ ขอโทษด้วยจริงๆ งั้นเราก็ค่อยนัดกันสัปดาห์หน้า เถอะ เธอว่าเป็นอย่างไร?”

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณน้า ผมได้หมดครับ” ซุนยูฟายจึงรีบร้อนกล่าวกับหวังตงเสวียนว่า “ตงเสงี่ยน สัปดาห์หน้าห้ามเอาวันหยุดมาทำโอทีอีกนะ!”

หวังตงเสงี่ยนพูดอย่างกระอักกระอ่วนใจว่า “ต้องทำโอทีหรือ ไม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหนูสักหน่อย หากสัปดาห์หน้ามีเรื่องสำคัญต้อง ให้หนูไปจัดการจริงๆ หนูก็ไม่อาจโยนทิ้งไปข้างหลังได้หรอก ค่ะ!”

ซุนฟางกล่าวอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง “ทุกวันนี้แกก็ลำบากมาก อยู่แล้ว เจ้านายพวกแกทำไมถึงต้องให้แกจัดการงานมากมาย ขนาดนั้นด้วย? นี่ไม่ใช่การทารุณพนักงานหรอกเหรอ?”

เย่เฉินที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนี้ ในใจมากน้อยก็รู้สึก กระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

เพราะอย่างไร ตนก็คือเจ้านายที่ทารุณพนักงานคนนั้นที่ซุน ฟางพูดถึง

เวลานี้เย่เฉินจึงเอ่ยปากกล่าวว่า “คุณลุงคุณน้า เวลาไม่เช้าแล้ว ผมไม่รบกวนแล้วครับ

ซุนฟางรู้ว่าตนทำเย่เฉินเสียเวลาไม่น้อย จึงรีบร้อนกล่าวว่า “ได้สิ เสี่ยวเย่ น้าจะออกไปส่งเธอนะ แล้วให้ตงเสงี่ยนไปส่งเธอที่ ลานจอดรถ”

เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับคุณน้า ผมไปเองได้”

หวังตงเสงี่ยนรีบพูดว่า “เย่เฉิน ถ้าไม่อย่างนั้น ให้ฉันไปส่ง คุณเถอะ!”

เย่เฉิน โบกมือ “พอแล้วตงเสงี่ยน เธอก็อย่าไปส่งฉันเลย อยู่ที่ นี่เป็นเพื่อนคุณลุงคุณน้าเถอะ นอกจากนี้หากเย็นนี้คุณลุงเตรียม ตัวออกจากโรงพยาบาลล่ะก็ เธอยังต้องรีบอุ่นทำเรื่องออกจาก โรงพยาบาลอีกนะ”

ได้ยินเช่นนี้ หวังตงเสงี่ยนก็ไม่ดื้อดึงอีก

เธอกล่าวขึ้นอย่างเต็มไปด้วยความขอบคุณว่า “เรื่องในวันนี้ ขอบคุณมากจริงๆ …

เย่เฉิน โบกมือ “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ เธอตั้งอยู่เถอะ ฉันไปก่อน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ