ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1440



บทที่ 1440

ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่ลดทอนคะแนนของ ผู้ชายมากที่สุด คือการที่ไปมีลูกนอกกฎหมาย

การแต่งงานกับตระกูลใหญ่ ไม่ว่าชายหรือ หญิง ล้วนเป็นลูกที่พ่อแม่ตามใจมาตั้งแต่เด็ก จะมีคุณ หนูคนไหนที่เต็มใจแต่งงานเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงให้กับ ลูกนอกกฎหมายบ้าง? ไม่มีทาง

แม้แต่กู้ชิวอี๋ตอนแรกที่ได้พบเย่เฉิน เธอก็ให้ ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก อายุยังน้อย แถมยังสวย สง่า จะให้เต็มใจเป็นแม่เลี้ยงได้อย่างไร?

กู้เย้นเจิ้งยังหวังว่าลูกชายของเขาจะยังรักษา ความแข็งแกร่งเอาไว้ได้ ดังนั้นจึงเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำ เล่าว่า สามารถไปมีนอกบ้านได้ แต่จะให้มีลูกไม่ได้

ในเวลานั้นเขาไม่เคยคิดว่าลูกชายจะสูญเสีย ความสามารถในการมีลูก!

ตอนนี้อัตราการรอดตายของอสุจิเป็นศูนย์ มี ลูกนอกสมรสก็ทำแท้งไปแล้ว หรือว่าในอนาคตเขาจะ

ไม่มีทายาทจริงๆ เหรอ?

เหว่ยเลี่ยงรู้สึกทั้งเศร้าทั้งขุ่นเคือง

ตัวเองก็ไร้ประโยชน์แล้ว เมล็ดพันธุ์ก็ไม่มี โอกาสรอดอีก ในอนาคตไม่เพียงแต่จะไม่มีโอกาสได้ ใกล้ชิดกับความงามเท่านั้น แต่ยังไม่มีโอกาสได้เป็น พ่อคนด้วย คงไม่ได้เป็นได้แค่ขันทีไปตลอดชีวิต หรอกนะ?!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขามองไปที่กู้เย้นเจิ้งด้วยความหวาดกลัว แล้วโพล่งออกมาว่า “พ่อครับ! เรื่องนี้ ต้องเป็นฝีมือของไอ้เวรในบ้านลุงใหญ่นั่นแน่ๆ ที่ทำ อะไรกับพวกเรา เราไปขอร้องเขาเถอะ! ยังไงจะไม่มี ทายาทไม่ได้นะ ผมยังเด็กอยู่ ยังไม่อยากเป็นขันทีไป ตลอดชีวิต…”

กู้เหว่ยกวงที่อยู่ข้างๆ ก็กลัวแทบตายเช่นกัน เขาสะอื้นไห้พูดว่า “ลุงรอง พ่อ ผมก็ไม่อยากเป็นขันที ไปตลอดชีวิตเหมือนกัน…”

กู้เย้นเจิ้งหน้าบึ้ง “ถ้าไปขอร้องเขาตอนนี้ แล้ว เรื่องประชุมคณะกรรมการวันพรุ่งนี้ล่ะ? วันนี้ตอนที่ ฉันอยู่ที่บ้านของลุงใหญ่ของแก ฉันได้พูดเอาไว้แล้ว ว่า จะพบเขาที่การประชุมคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้เราไปขอร้องเจ้าเด็กนั่น พวกเขาจะเอาเรื่อง ประชุมคณะกรรมการมาข่มขู่เราอย่างแน่นอน!”

“ยิ่งไปกว่านั้น บางทีลุงใหญ่ของแกจะบังคับให้ ฉันและอาสามของแกสละสิทธิ์ในการออกเสียง ทั้งหมด ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะไม่สามารถล้มลุงใหญ่ ของแกได้ตลอดไป!”

ในกู้ซื่อกรุ๊ป หุ้นและสิทธิในการออกเสียงนั้น สอดคล้องกัน

พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าเป็นเจ้าของหุ้น 51% ก็จะมี สิทธิ์ออกเสียง 51%

ตราบใดที่อำนาจในการออกเสียงคือ 51% ก็ สามารถตัดสินใจเรื่องทั้งหมดของบริษัทได้ แต่ในกรณีนี้มีข้อยกเว้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากู้เย้นเจิ้งยินดีถูกบังคับให้ ยกสิทธิ์ในการออกเสียงทั้งหมดที่สอดคล้องกับหุ้นที่เขามีไปให้กู้เย้นจงทั้งหมด กู้เย้นจงก็จะได้สิทธิ์ในการ ออกเสียงของเขาทั้งหมด

ส่วนกู้เย็นเจิ้ง แม้ว่าจะยังมีหุ้นอยู่ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ ในการออกเสียงแล้ว อำนาจในการพูดก็ไม่มีเช่นกัน

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ถึงแม้ว่าหม่าหยุ่นแห่งอะหลั่ จะถือหุ้นอยู่น้อย แต่เขาก็มีอำนาจในการพูดสูง

หากผู้ถือหุ้นรายอื่นไว้วางใจเขา หรือไม่ สามารถเอาชนะเขาได้ โอนสิทธิ์ในการออกเสียงให้ กับเขา เขาก็จะมีอำนาจในการพูดอย่างเด็ดขาด

นั่นคือสิ่งที่กู้เย้นเจิ้งเป็นกังวล

เขากลัดกลุ้มมากจนอดคิดไม่ได้ว่า “ให้ตายสิ ปากฉันไม่ดีเอง พูดถึงเรื่องการประชุมคณะกรรมการ ขึ้นมาก่อน แล้วพูดแสดงอำนาจกับพี่ใหญ่ ถ้าตอนนี้ ไปอ้อนวอนพี่ใหญ่ จะต้องถูกพี่ใหญ่ตอบโต้กลับมา อย่างแน่นอน!”

“ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องอดทนรอ จนถึงพรุ่งนี้หลังจากที่เรายึดอำนาจได้สำเร็จ!

“ถ้าทำไม่ได้จริงๆ หลังจากที่เรื่องราวเรียบร้อย แล้ว ก็สามารถใช้เงินซื้อเจ้าเด็กหนุ่มในครอบครัวของ พี่ใหญ่มาได้เช่นกัน!”

“สิบล้านไม่พอก็ร้อยล้าน ร้อยล้านไม่พอก็หนึ่ง พันล้าน อย่างไรบนโลกนี้ ไม่จ่ายเงินก็ไม่มีวันได้คน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ