ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่1494



บทที่1494

ที่ค่อนข้างเจ็บปวดทรมานอยู่อย่างเดียว ก็คือการปั่นจักรยาน จากเย่นจิงไปจินหลัง

แต่ก็ยังถือว่าดี ปันจักรยานครึ่งเดือนก็ยังดีกว่าผ่าตัดนอนอยู่ บนเตียงครึ่งเดือน

ยิ่งไปกว่านั้น ตนเองผ่าตัดคราวก่อนก็ต้องทรมานแสนสาหัส ตอนนี้ยังไม่หายดีด้วยซ้ำ นี่ถ้าต้องมาผ่าตัดอีกครั้ง ความเจ็บ ปวดเกรงว่าจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

แต่เวลานี้เย่เฉินพูดว่า “ให้นายไปจินหลิงเพื่อปรับปรุงตัวดีๆ นายคิดว่าให้นายไปเสวยสุขหรือไง ฉันจะบอกให้นะ ไปจนหลัง ครั้งนี้ นายปั่นได้แค่จักรยานฟีนิกซ์28นิ้ววินเทจแบบธรรมดา ที่สุดเท่านั้น จักรยานแบบอื่นห้ามทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะ ให้นายใช้รถลากขนอิฐไปเต็มคันไปจินหลิงแทน!!

“นอกจากนี้หลังนายถึงจินหลิงแล้ว นอกจากเวลาที่ขับรถให้ นหลิงแล้ว เวลาอื่นนายต้องไปเช่าห้องเดี่ยวอยู่ในเขตสลัมของ หมู่บ้านชุมชน ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของนายห้ามเกินกว่าพัน หยวนรวมค่าเช่าบ้านในนั้น!

“นายวางใจ พอถึงจินหลิงแล้วฉันจะให้คนจับตาดูนายให้ดี กล้าใช้เงินเกินหนึ่งหยวน ก็จะปรับวันเพิ่มหนึ่งวัน หากนายใช้ หลายหมิ่นหยวน ก็อย่าคิดจากไปอีกเลยตลอดชีวิต!
พอขงเต๋อหลงได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมา

ให้คุณชายตระกูลขงอันมีเกียรติอย่างเขาไปพักอยู่ในหมู่บ้าน ชุมชน?! อีกทั้งในแต่ละเดือนก็ห้ามใช้เงินเกินพันหยวนรวมค่า เช่าบ้าน ในนั้นด้วย?!

นั่นไม่เท่ากับต้องการให้ตนเองกินดินแทนข้าวหรอกหรือ?!

เขาพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณเย่ เงินพันหยวนเกรงว่าแม้แต่ค่าเช่า บ้านก็ไม่พอแล้ว…”

เย่เฉินกล่าวเสียงเย็น “วางใจ ค่าใช้จ่ายในจินหลังไม่ได้สูง อย่างที่นายคิด เช่าห้องเดี่ยวห้องหนึ่ง ในหมู่บ้านชุมชน เดือน หนึ่งตกอยู่ที่สามร้อยหยวน ที่เหลือเจ็ดร้อยหยวน ใช้วันละยี่สิบ กว่าหยวนก็พอให้นายอยู่ได้แล้ว”

ตัวเย่เฉินเองก็ล้มลุกคลุกคลานอยู่ในชนชั้นล่างสุดของเมือง มาหลายปี เขาจึงรู้ดีถึงการใช้ชีวิตของคนจน

ค่าเช่าในหมู่บ้านชุมชนมีราคาถูกมาก ในตอนนั้นห้องเดี่ยว ชั้นเดียวราคาเพียงร้อยหยวนเท่านั้น ค่าข้าวก็ไม่แพง ร้านอาหาร ตึกแถวในซอยเล็กๆ กับข้าวจานหนึ่งก็ตกอยู่ที่สองสามร้อย หยวนเช่นกัน ตอนนั้นเงินหนึ่งหยวนสามารถซื้อหมั่นโถวได้ลูก พอกินไปหนึ่งวัน

ตอนนี้อย่างมากสุดก็แค่ปรับราคาขึ้นมาสองเท่าเท่านั้น เงิน หนึ่งพันหยวน ใช้คนเดียวหนึ่งเดือนก็เพียงพอแล้ว

แน่นอนว่าการใช้ชีวิตแบบนั้น ย่อมเป็นการใช้ชีวิตที่ไม่หนักหนาอะไร และสามารถกินข้าวอิ่มได้แค่นั้นเอง

แต่ชีวิตแบบนั้นสําหรับลูกคุณหนูอย่างขงเต๋อหลงแล้ว จึงเป็น วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด สามารถรักษาเขาหายจากโรคชอบอวดเบ่ง ได้อย่างแน่นอน

ขงเต๋อหลงฟังถึงตรงนี้ ทั้งตัวก็ล้มครืนลงมา

เงินพันหยวน บอกตามตรงยังไม่พอค่าบุหรี่มวนหนึ่งของเขา

ด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับต้องการให้เขาใช้ชีวิตเดือนหนึ่ง นี่ไม่เท่ากับ

ต้องการชีวิตเขาหรอกหรือ?

ตงซิ่วหัวเองก็ร้องไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บปวดใจเช่นกัน จาก นั้นก็มองต่งตั่งหลิน พูดเสียงสะอึกสะอื้นว่า “รั่งหลิน แกขอร้อง คุณเยอีก อย่าบีบให้พี่ชายแกตายระหว่างทางเลย!

เวลานี้ต่งรั่งหลินเองก็ลำบากใจมากเช่นกัน จะให้ตนเองพูด อะไรล่ะ? ตนเคยช่วยขอร้องให้ญาติผู้พี่ครั้งหนึ่งแล้ว เวลานี้ยังจะ ให้ตนเองเอ่ยปากอีก ตนเองก็กระดากใจเช่นกัน

เพราะอย่างไรเรื่องทั้งหมดล้วนเป็นญาติผู้พี่หาเรื่องเอง และ ตนก็ไม่อยากให้เย่เฉินไม่ถือสาเขาเลยทั้งหมด หากทำเช่นนั้นล่ะ ก็จะไม่เป็นการทำให้เยเฉินไม่ได้รับความเป็นธรรมหรอกเหรอ?

เยเฉันคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอมาหลายครั้ง เป็นชายใน ดวงใจที่เธอรักเพียงคนเดียว เธอยอมให้ญาติผู้พี่ผู้ดีที่น่าเกลียด ซึ่งผู้นี้ได้รับความอยุติธรรม ดีกว่าจะยอมให้เยเงินประนีประนอมเพื่อตัวเธอ

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า “คุณป้า คุณไม่อาจ ตามใจญาติผู้พี่เช่นนี้ไปเรื่อยๆ ได้ นานวันเข้าจะเป็นการทำร้าย เขาแทน!”

เวลานี้เย่เฉินเอ่ยขึ้นเสียงเย็นว่า “ขงเต๋อหลง ฉันแนะนำว่า ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ ให้รีบรับปากโดยเร็วจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น ล่ะก็ ฉันจะจัดให้นายไปแบกปูนอยู่ในไซต์งานก่อสร้างที่จินหลิง ก่อนหน้านี้ที่จินหลิงมีผู้จัดการใหญ่ของบริษัทGMEแก่งหนึ่ง ชื่อ ว่าจางเจี้ยน นายรู้ไหมว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไร?”

ขงเต๋อหลงส่ายหน้าอย่างงุนงงสับสน

เย่เฉินยิ้มเยาะว่า “ตอนนี้เขากำลังแบกปูนอยู่ในไซต์งาน ก่อสร้างที่จินหลิง แถมยังต้องแบกถึงยี่สิบปี นายอยากจะไปอยู่ เป็นเพื่อนเขาใช่ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ