ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2457



บทที่ 2457

อู่ตงไห้ได้รับการติดต่อจาก อานน เขาดีใจเป็นอย่างมาก

ปัญหาของลูกชายคนเล็กอย่างดี ทำให้เขากังวลใจมาตลอด แต่เขารู้ดี เย่เฉินไม่สามารถรักษาลูกชายเขาให้หายในชั่วครู่ชั่ว ยาม ตอนนี้ตระกูลเชิญปรมาจารย์ชวนชวน ฮวงจุ้ยมา เขาหวัง ว่าปรมาจารย์ท่านนี้จะช่วยคลายความกังวลในใจเขาได้

ดังนั้น เขาจึงตอบซูอานสั้นว่า “ขอบคุณพ่อบ้านซูมากครับ กระผมจะพาลูกชายไปเดี๋ยวนี้ครับ! ให้อาจารย์ไหม้ดูอาการของ เขา!”

เมื่อซูอานสั้นได้ยิน เขารีบพูดว่า “อย่า อย่า อย่าเด็ดขาดนะ ลูกชายของคุณเป็นแบบนั้นทุกชั่วโมงไม่ใช่เหรอ ถ้าพามาให้คุณ ท่านไหม้เห็น เขาจะรู้สึกอย่างไร คุณมาคนเดียวเถอะ ค่อยมาบ อกเรื่องอาการของลูกชายคนเล็กให้เขาฟัง ให้คุณท่านไหม้ได้ เตรียมใจหน่อย”

ทันใดนั้น ตงไม่รู้สึกหน้าร้อนฉ่า

เขาคิดเพียงว่ามีโอกาสรักษาลูกชายคนเล็ก ให้หาย แต่กลับ ลืมไปว่า ตอนนี้ลูกชายคนเล็กของเขาน่ารังเกียจแค่ไหน

ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างนอบน้อม “ขอบคุณพ่อบ้านที่เตือนสติ ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปเองครับ!

เมื่ออู่ตงไห่เดินทางไปคฤหาสน์ริมน้ำของซูเฉิงเฟิง เฉินจือข่ายได้รับรายงานจากลูกน้อง

ห้องเพรสซิเดนสูทที่ว่างเกือบครึ่งปี ถูกตระกูลอิโตะจาก ประเทศญี่ปุ่นจองไปแล้ว!

อีกทั้งรายชื่อผู้เข้าพัก ที่ตระกูลอิโตะส่งมา มีชื่อของนางา

โกะ อิโตะด้วย!

ระหว่างที่เฉินจือข่ายกำลังตกใจ เขารีบโทรไปรายงานเเฉิน เย่เฉินตกใจกับเรื่องนี้เช่นกัน

ในรายชื่อที่เฉินจือข่ายส่งให้ไม่ได้มีแค่ชื่อนางาฮิโกะ อิโตะ ยังมีเอมิ อิโตะน้องสาวของเขา รวมไปถึงทานากะ โคอิจิลูกน้อง ของเขาด้วย

เย่เฉินงงไปหมด เขาไม่เข้าใจ ทำไมจู่ๆ นางาฮิโกะ อิโตะ ถึง มาเมืองจินหลิง แถมยังพาทานากะ โคอิจิมาด้วย

พวกเขาได้รับการผ่าตัดขา ตอนนี้พวกเขาเป็นคนพิการไร้ขา

เย่เฉินไม่ได้ดูถูกหรือเหยียดหยามคนพิการ แต่เขาแค่ไม่ เข้าใจ สองคนนั้นอยู่ในสภาพเช่นนั้น ทำไมยังดั้นด้นมาถึงเมืองจิ นหลิงอีก

ลองคิดย้อนกลับไป ตอนนั้นซึ่งหวั่นถึงเคยพูดแล้ว อิโตะ นา นาโกะ จะมาดูคอนเสิร์ตของชิวอี้ ที่เมืองจินหลิง เมื่อเป็นเช่นนี้ ครั้งนี้อิโตะ นานาโกะคงมาด้วย

การที่ไม่มีรายชื่อของอิโตะ นานาโกะในชื่อผู้เข้าพัก เป็นไปได้สูงว่าครั้งนี้ เธอจะพักที่บ้านซึ่งหวั่นถึง

แต่ทว่าเย่เฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำไมอิโตะ นานาโกะ มา เมืองจีนหลัง จึงไม่โทรบอกเขาล่วงหน้า

อีกด้านหนึ่ง อู่ตงไห้รีบมาที่คฤหาสน์ริมน้ำตระกูลซู

เมื่อมาถึง เขาไม่เจอซูเฉิงเฟิงกับซูโสเต้า คนที่มาต้อนรับเขา

คือ พ่อบ้าน อานน

ซูอาบนพาเขามาที่ห้องรับรอง และบอกว่า “อีกสักพักคุณ ท่านไหม้จะมาถึงที่นี่ คุณรอที่นี่ก่อน อย่าออกจากห้องนี้โดยไม่ได้ รับอนุญาต นั่งรอฟังข่าวอยู่ในห้องนี้ เข้าใจไหม

อู่ตงไห้ไม่พอใจกับท่าที่หยิ่งผยอง และวางมาดของซูอานน ซูอานสั้นไม่ใช่คนตระกูลซู เขาก็แค่สุนัขตัวหนึ่งของคุณท่าน ใหญ่ซูเท่านั้น

อีกอย่าง ได้ยินคนพูดกันปากต่อปาก เขาไม่ได้แซ่ซู ว่ากันว่า ชื่อจริงของเขาคือต่งงานช่น หลังจากอยู่ตระกูลซูมานาน เขา หอบหน้าไปหาคุณท่านใหญ่ ขอให้คุณท่านใหญ่ซูมอบแซ่ซูให้ แก่เขา

ตั้งแต่โบราณจนถึงตอนนี้ มีเพียงฮ่องเต้ในตอนนั้น ที่จะมอบ แซ่ให้กับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ไม่ก็พวกแม่ทัพ ยังไม่เคยได้ยินเจ้า นายตระกูลไหน มอบแซ่ให้ลูกน้องตัวเอง ยิ่งกว่านั้น ยังไม่เคย ได้ยินลูกน้องคนไหน ขอใช้แซ่ของเจ้านายตัวเอง ซูอานสั้นเป็น คนแรกที่ทำแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนโดนคนนอกดูถูก
แต่อานนไม่สนใจ สิ่งที่เขาอยากทำก็คือเป็นคนสนิทของ คุณท่านใหญ่ ให้คุณท่านใหญ่ซูเชื่อใจเขา แค่ให้หนทางใน ภายภาคหน้าสุขสบาย จะแซ่อะไรก็ไม่สำคัญ

ถึงอู่ตงไห่จะดูถูก อานสั้น ในใจนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่กล้า แสดงทีท่าไม่พอใจ ต่อหน้าซูอานสั้น จึงทำได้เพียงพูดอย่าง นอบน้อม “พ่อบ้านวางใจได้เลย ผมจะรออยู่ที่นี่

ซูอานนพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นจึงพูดทิ้งท้ายว่า “รอ แล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ