ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 83 ซึ่งหวั่นถึงมารับด้วยตนเอง



บทที่ 83 ซึ่งหวั่นถึงมารับด้วยตนเอง

วันต่อมาตอนเช้าตรู่ฉินทางก็มาถึงชั้นล่างของบ้านเยเงินแล้ว เขารอจนกระทั่งเย่เฉินออกมาซื้อของ เขาถึงจะเข้ามาทักทาย ก่อนจะยื่นแบล็กการ์ดให้เย่เฉิน

จากที่เขาพูด ในบัตรใบนี้มีเงินอยู่หลายร้อยล้าน เพื่อที่จะช่วย ตระกูลฉินแล้ว ต่อให้เยเงินใช้เงินจนหมดเขาก็ไม่เสียใจ

ฉันเอาเสงี่ยนจอมร้ายกาจเองก็อยู่ด้วย แต่ครั้งนี้เป็นแค่ฉันเอ้ เสงี่ยน ไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนอย่างครั้งก่อนแล้ว

เมื่อเห็นเเงิน ใบหน้าของฉันเข้าเสงี่ยนก็เต็มไปด้วยความ นอบน้อม

ตั้งแต่ฉันเอาตงสร้างเรื่องวุ่นวาย ตระกูลฉันก็เจอเรื่องเลวร้าย มามาก ร่างกายของคุณท่านก็ทรุดโทรมลงอย่างไม่มีเหตุผลและ กำลังจะตาย เธอเพิ่งจะได้เข้าใจว่าที่แท้แล้วคนที่จะช่วยตระกูล ของเธอได้นั้น ก็มีแค่ปรมาจารย์เยเท่านั้น!

หลังจากที่ฉินการส่งการ์ดให้เเฉินแล้ว เขาก็คุกเข่าต่อหน้าเ เฉินพร้อมกับพูดขอร้องทั้งน้ำตาว่า “ปรมาจารย์เย่! ไม่ว่าจะยังไง ได้โปรดช่วยชีวิตตระกูลฉินของผมด้วยนะครับ ถ้าผมตายก็ไม่ไม่ เป็นไร แต่ลูกสาวของผมยังเล็ก….

ฉันเอ้าเสงี่ยนที่อยู่ข้างๆก็ดวงตาแดงคุกเข่าลงแล้วพูดทั้ง น้ำตาว่า “ปรมาจารย์เย่! ขอท่านได้โปรดช่วยชีวิตตระกูลฉิน ถ้าเป็นไปได้ ฉันยอม ใช้ชีวิตของฉันเพื่อแลกกับการให้พ่อมีอายุ ยืนยาวค่ะ!”

ฉินกางพูดอย่างโมโหว่า “แกพูดเหลวไหลอะไรกันฮะ!”

เยเงินส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขายื่นมือไปพยุงทั้งสองคนให้ ลุกขึ้น ตอนที่พยุงฉินเอาเสงี่ยนขึ้นมา มือขาวเนียนนุ่มของเธอมี สัมผัสที่ยอดเยี่ยมมาก ทำเอาเเฉินจิตใจฟุ้งซ่านขึ้นมาอย่าง ห้ามใจไม่อยู่

หลังจากพยุงทั้งสองคนขึ้น ฉันเข้าเสงี่ยนก็หน้าแดงเล็กน้อย เหมือนกับรู้สึกอายมาก

เย่เฉินพูดขึ้นว่า “พวกคุณวางใจเถอะครับ ผมจะทำสุดความ สามารถ พยายามหาทางให้ตระกูลฉินข้ามผ่านหายนะครั้งนี้ไป อย่างปลอดภัยครับ”

สองพ่อลูกประทับใจมาก พวกเขาตั้งท่าจะคุกเข่าลงอีก แต่ก็ ถูกเย่เฉินหยุดไว้ “พอแล้วครับ ลุกขึ้นลุกลงอยู่ที่นี่จะส่งผลกระทบ ไม่ดีนะครับ พวกคุณไปเถอะ มีข่าวแล้วผมจะบอกคุณเองครับ”

“ขอบคุณปรมาจารย์เย่!” สองพ่อลูกจากออกไปอย่างซาบซึ้ง

รอจนเยเงินซื้อของเสร็จกลับมาถึงบ้าน พ่อตาเซียวางควน รีบเดินมาดักหน้าแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เย่เฉิน เมื่อกี้พ่อเห็น ลูกคุยอยู่กับฉันทางอยู่ที่นอกชุมชน

“ครับ เขามาหาผมมีธุระนิดหน่อยน่ะ

เขียวฉาง วนอดไม่ได้พูดออกมาว่า “พ่อเห็นสีหน้าเขาดูแย่มาก เหมือนจะไม่ได้มีเรื่องดีนะ ครั้งก่อนที่ลูกดูดวงให้ตระกูลเขา นะ ดูจนเกิดปัญหาอะไรขึ้นใช่ไหม?

เรื่องนี้เชียวฉางควนรู้สึกเป็นกังวลมาตลอด เขามักรู้สึกว่าเป็ เฉินพูดจาส่งเดช

เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “พ่อครับ ฉันทางมาหาผม เพราะ อยากให้ผมไปปัดเป่า พิฆาตในบ้านของเขา ยังให้บัตรธนาคาร ผมมาใบหนึ่งด้วย ให้ผมช่วยดูหน่อยว่าที่งานประมูลวันพรุ่งนี้มี ของอะไรที่พอใช้ได้บ้างนะ

เขียวฉางควนอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบถามต่อว่า “เขาให้เงิน ลูกมาเท่าไร?”

เยเฉินพูดอย่างส่งๆไปว่า “หลายร้อยล้านมั้งครับ

“เท่าไรนะ?”

ดวงตาของเซียวฉางควนเบิกกว้าง เขาทิ้งจนเอามือกุมหน้าอก พูดจาไม่ออก ตกใจจนโรคหัวใจแทบกำเริบ

เขาคว้าตัวแย่เฉินไว้อย่างร้อนใจ “เย่เฉิน ลูกจะหลอกคนมั่วซั่ว ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ! ตระกูลฉินให้เงินมามากขนาดนั้น ถ้ามี ปัญหาตระกูลฉินจะไม่มาฆาตกรรมเราทั้งบ้านเหรอ? ลูกรีบเอา เงินคืนเขาไปเลยนะ

“พ่อสบายใจได้ครับ ผมมีขอบเขตอยู่ จะไม่เกิดปัญหาแน่นอน ครับ”

พูดอยู่ เย่เงินก็กล่าวเตือนสติอีกว่า “พ่อครับ เรื่องครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ให้ดีพ่ออย่าบอกชูหนกับแม่นะครับ ไม่อย่างนั้น คงควบคุมอะไรไว้ไม่อยู่แน่ครับ

“พอรู้ พ่อรู้…

เขียวฉางควนรู้จักภรรยาจอมล้างผลาญของตัวเองดีเกินไป ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนบ้าที่เพื่อเงินแล้วยอมทิ้งชีวิตได้ พูดอะไร จะให้เธอรู้ไม่ได้เด็ดขาด

ถ้าหากให้เธอรู้ว่าในบัตรนี้มีหลายร้อยล้านล่ะก็ เธอคงไม่สน ตระกูลฉินอะไรนั้นขอใช้เงินก่อนแล้วค่อยว่ากัน

แต่ว่าหลายร้อยล้านเลยนะ!

เขียวฉางควนแค่คิดถึงตัวเลขนั่นหัวใจก็เต้นตึกตัก แล้วจากเก ยกล่อมเย่เฉินอยู่อีกพักหนึ่ง พอเห็นว่าไม่สำเร็จ เขาก็ทำได้แค่ ไปนั่งถอนหายใจอยู่บนโซฟา

เดิมทีเขาก็ไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเเฉินจะมีความสามารถพอแก้ ปัญหาของตระกูลฉิน ตอนนี้ก็กลัวว่าเยเฉันจะเอาเงินของตระกูล ฉันไปใช้ ท้ายที่สุดก็ถูกตามคิดเงินคืนที่หลัง

เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เขาก็ทำได้แค่คอยจับตาดูเก๋เฉินที่งาน ประมูล จะให้เขาใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้เด็ดขาด

ถ้าหากหลอกเอาเงินตระกูลฉินมามากขนาดนี้ล่ะก็ อีกฝ่ายจะ ไม่มากวาดล้างเขาทั้งครอบครัวเหรอ?
เช้าวันถัดมา เยเงินกำลังเตรียมตัวจะไปงานประมูล

เพราะเรื่องของตระกูลฉิน เซียวจางหวนกังวลจนนอนไม่หลับ ทั้งคืน แล้วพูดเตือนสติเขาๆอยู่ในห้องนั่งเล่น

เย่เงินพูดอย่างขอไปที่สองสามประโยค แล้วถามเขาว่า “พ่อ ครบ ได้ยินมาว่าการประมูลของสำนักเป็นเป้าเก๋อครั้งนี้มีสมบัติ สุดพิเศษอยู่ด้วยอย่างหนึ่งใช่ไหมครับ?

“ใช่แล้วล่ะ” เซียวฉางควนตอบไปอย่างไม่รู้ว่า “ได้ยินมาว่า มันเป็นสมบัติที่มีมูลค่ามหาศาลและมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก”

เขาพูดจบแล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบพูดหยุดยเฉินพ ร้อมเดือนสติว่า “ลูกเขย ลูกอย่าไปสนใจสมบัติสุดพิเศษชิ้นนี้ เชียวนะ ราคาประมูลเริ่มต้นของมันก็ตั้งหลายสิบล้านแล้ว พวก เราแค่ดูก็พอ”

เยเฉันรู้ว่าพ่อตากลัวเขาจะใช้เงินของตระกูลฉิน เขายิ้มแล้ว ตอบไปว่า “พ่อพูดถูกแล้วครับ ผมแค่ดูก็พอ ไม่ประมูลมั่วชั่วแน่ ครับ”

“งั้นก็ดี” เซียวฉางควนกลัวเขาจะไม่ยอมแพ้ ก็เลยบอกเพิ่มไป อีกว่า “แต่ต่อให้ลูกอยากประมูล ก็คงจะไม่มีส่วนของลูกหรอก

“ทําไมเหรอครับ?”

“เมื่อวานนี้พ่อลองออกไปถามดูแล้ว ได้ยินมาว่าการประมูล ครั้งนี้ เถ้าแก่แห่งสำนักเสวียนเองก็มาด้วย เขามาก็เพื่อสมบัติ สุดพิเศษชิ้นนี้นั่นล่ะ”
เย่เฉินกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “สำนักเรียนมา ด้วยเหรอครับ?”

สำนักเรียนนั้นเป็นสำนักที่ทุกคนรู้จักและทราบกันดี

เถ้าแก่จิ้งไห่ของพวกเขา เป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยที่มีชื่อ เสียงของประเทศ!

ดาราหลายคนในเมืองต่างยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเข้าคิว ดูดวงดูโหงวเฮ้งกับเขา แถมยังเคยออกรายการโทรทัศน์เพื่อ อภิปรายเกี่ยวกับชวนชวนอีกด้วย เขามีชื่อเสียงมากจริงๆ

ถ้าจะเชิญปรมาจารย์คนนี้มาดูโหวงเฮ้งให้ล่ะก็ ค่าใช้จ่ายต่อ ครั้งก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ราคาเริ่มต้นเฉลี่ย เป็นเลขเจ็ดหลักขึ้น

ไป

หากดาราอยากจะซื้อเครื่องมือทางธรรมของสำนักเรียน

งั้นมันก็จะมีราคาแพงขึ้นไปอีก

แต่ถึงแม้ว่าสำนักเสวียนจีจะเก็บค่าใช้จ่ายแพง แต่ก็กล่าวกัน ว่ามีแต่ของจริงของแท้

ปรมาจารย์จึงให้คนนี้ปากเหล็กฟันทองแดง ดูดวงดูโหวงเฮ้ง แม่นเป็นพิเศษ

ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำนายดวงต่อนักข่าวเมืองต่าง ว่ามีดาราชื่อ ทั้งสองคนที่แต่งงานกันสายฟ้าแลบ ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้จะ ต้องหย่าขาดจากกันแน่นอน

ตอนนั้นดาราดังทั้งสองคนเพิ่งจะเสร็จสิ้นงานแต่งงาน รักใคร่กันผิดกว่าปกติ คนทั้งประเทศ โห่ร้องไห้กับคำทำนายของเขา

คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้าเดือนพฤศจิกายน ดาราทั้งสองต่างคน ต่างโพสต์เว่ยป๋อ ประกาศเรื่องการหย่าร้าง

ตั้งแต่นั้นมา ชื่อเสียงของสำนักเรียนก็แพร่สะพัดไปทั่ว ประเทศ ทำให้คนที่ต้องการมาพบปรมาจารย์ที่มีเยอะเหมือนฝูง ปลาข้ามแม่น้ำ

เมื่อพูดถึงปรมาจารย์วีแล้ว คนในแวดวงบันเทิงต่างเกิดความ รู้สึกนับถือ

บริษัทใหญ่ของสำนักเสวียนตั้งอยู่ในเซ็นทรัลพลาซาที่อุดม สมบูรณ์ของเมืองอ่าง เถ้าแก่ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อตึก เห็นได้ว่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

คาดไม่ถึงว่างานประมูลนี้เถ้าแกก็จะมาร่วมด้วย ดูท่าว่า

สมบัติชิ้นนี้เขาจะต้องคว้ามาให้ได้

ดังนั้น เย่เฉินจึงถามอย่างสงสัย “สมบัติสุดพิเศษชิ้นนี้มันคือ อะไรเหรอครับ?”

“นั่นก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงยังไงเราก็แค่ดูไม่ได้ซื้อ

เชียวฉางควนยังพูดเป็นต่อยหอยอยู่ โทรศัพท์ของเยเฉินก็ดัง

หลังจากเขารับโทรศัพท์แล้ว เสียงของซึ่งหวั่นถึงก็ดังขึ้น

“คุณชายเย รถของฉันจอดอยู่หน้าบ้านคุณค่ะ แวะกลางทางรับคุณไปด้วยกันเถอะ”

ซึ่งหวั่นถึงเองก็กลัวว่าการต้อนรับครั้งนี้จะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก เธอก็เลยถือโอกาสวางแผนรับตัวเเฉิน แล้วไปพร้อมกันกับเธอ ก็เสียเลย

เย่เงินเดินออกไปก็เห็นรถเบนท์ลีย์สีแดงคันใหญ่จอดอยู่ริม ถนน รถคันใหม่เอี่ยมเปล่งประกายอยู่ใต้แสงแดด

ซึ่งหวั่นถึงยืนฟังอยู่ด้านข้างรถ เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปสีแดง กระชับให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้างดงาม ผมหยักศกยาวปะปาสวย หยาดเยิ้มดึงดูดผู้คน บนใบหน้ายังใส่แว่นกันแดดไว้อีกด้วย

เมื่อซึ่งหวั่นถึงเห็นคนทั้งสองเดินออกมาแล้ว เธอก็ลดแว่นตา ต่ำลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ลุงเชียว คุณชายเย่ ฉันกำลังจะไปงาน ประมูลของสำนักเงินเป่าเจ๋อ เลยแวะรับพวกคุณไปด้วยกันเลย

“โอ้ เป็นคุณส่งเองเหรอครับ” เซียวฉางควนก็จำเธอขึ้นมาได้ แล้ว เขาพูดอย่างปลื้มใจว่า “คุณซึ่งท่านเกรงใจเกินไปแล้วครับ”

“เหมาะสมแล้วค่ะ ท่านสองท่านเชิญขึ้นรถ” ซึ่งหวั่นถึงพยัก หน้าอย่างมีมารยาทแล้วเปิดประตูรถ

ใครจะกล้าเชื่อกันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลซึ่งอย่างซึ่งหวั่นถึงจะ ยอมมาเปิดประตูรถคนเป็นลูกเขยแต่งเข้าด้วยตัวเองแบบนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ