ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2311



บทที่ 2311

ในเวลานี้ ที่เมืองจินหลิง

มีผู้ชายสวมแมสคนหนึ่ง ปรากฏตัวที่หน้าประตูทางออกของ รถไฟฟ้าใต้ดิน

หน้าประตูทางออกของรถไฟฟ้าใต้ดินมีกล้องวงจรปิดจำนวน มาก ส่วนหนึ่งเป็นกล้องวงจรปิดของรถไฟฟ้าใต้ดิน อีกส่วนหนึ่ง เป็นกล้องวงจรปิดของกรมตำรวจในเมืองจินหลิง และมีกล้อง วงจรปิดคุณภาพสูง มีฟังก์ชันจดจำใบหน้าด้วย

หลายปีมานี้ เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี จดจำใบหน้าไม่ได้มีเพียงแค่ในภาพยนตร์ เพราะตอนนี้มันกลาย เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีในชีวิตของคนธรรมดาทั่วไปแล้ว

ไม่เพียงแค่โทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบจดจำใบหน้า สิ่ง สำคัญที่สุดคือกรมตำรวจก็ใช้ระบบจดจำใบหน้าที่เชื่อมโยงเข้า กับระบบฐานข้อมูล

ความสามารถสูงสุดของระบบนี้ก็คือ สามารถคัดกรองใบหน้า ของผู้คนจากฐานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

อย่าง คนหลายร้อยคนที่เดินผ่านมา ถ้าในกลุ่มคนจำนวน นี้มีนักโทษอาชญากรปะปนอยู่ ถ้าต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อ ตรวจสอบทีละคน ประสิทธิภาพที่ได้จะน้อยมากๆ และมีแนวโน้ม จะหาตัวอาชญากรไม่เจอ
แต่ตอนนี้มีระบบจดจำใบหน้า เมื่อมีคนหลายร้อยเดินผ่าน อย่างรวดเร็ว ระบบจะสามารถระบุตัวตนของคนหลายร้อยคนได้ โดยผ่านระบบจดจําใบหน้า

ในเวลาเดียวกัน ระบบจะตรวจสอบตัวตนของคนหลายร้อย คนทันที ถ้าในนี้มีนักโทษหนีคดี ผู้ต้องสงสัย ทางกรมตำรวจก็จะ ได้ข้อมูลแจ้งเตือนจากระบบนี้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ นักร้องชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงมา จัดคอนเสิร์ตที่จีนแผ่นดินใหญ่ การจัดคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง ทางตำรวจสามารถจับนักโทษหนีคดีได้หลายคนจากจํานวนผู้ชม หลายหมื่นคน

ทำไมถึงมีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้?

ทั้งหมดเพราะอาศัยระบบจดจำใบหน้าที่มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนามากขึ้น อาชญากรที่ ทําผิดกฎหมายและต้องการหลบหนีจากการโดนดำเนินคดี หลบ หนีได้น้อยลงเรื่อยๆ

ในเวลานี้ ผู้ชายที่สวมแมสคนนี้ มองไปรอบๆ จากนั้นก็เอามือ ล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบซองบุหรี่ที่แบนๆและออกมา

เขาเปิดซองบุหรี่ออก พบว่าด้านในไม่มีบุหรี่เลยสักม้วน ดัง นั้นเขาก็เลยเดินไปที่ตู้กระจกขายบุหรี่แบบเคลื่อนที่ตรงทางเข้า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พูดด้วยน้ำเสียงต่ำกับคนขายบุหรี่ “เถ้าแก่ ขอบุหรี่จงฮัวซองหนึ่ง”
เถ้าแก่รีบถามทันที “เอาแบบอ่อนหรือแบบเข้ม?” ผู้ชายคนนั้นพูดทันที “เอาแบบอ่อน”

เถ้าแก่หยิบบุหรี่จงฮิวแบบอ่อนจากตู้กระจกออกมาและยื่น ไปให้เขา พูดว่า: “หกสิบห้าหยวน”

ชายคนนั้นหยิบร้อยหยวนให้เถ้าแก่และพูดเบาๆว่า “ไม่ต้อง ทอนเงิน”

เถ้าแก่ดีใจมากๆ และยิ้มออกมาทันที “โอ้โห ขอบคุณมากๆ!”

ชายคนนั้นหยิบซองบุหรี่ ในขณะที่เขาหันหลัง เขาได้แกะถุง พลาสติกใสที่อยู่ด้านนอกของซองบุหรี่ จากนั้นก็ฉีกซองบุหรี่ที่ ด้านขวา

หลังจากนั้น เขาก็ใช้นิ้วมือเคาะไปที่ซองบุหรี่ด้านซ้าย ด้าน ขวาที่มีรอยฉีดก็มีบุหรี่หนึ่งม้วนค่อยๆไหลออกมา

เขาหยิบบุหรี่ม้วนนี้ออกมา จากนั้นก็ถอดแมสปิดหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ดุร้ายป่าเถื่อน

เขาคาบบุหรี่ไว้ที่ปาก หลังจากจุดไฟก็สูบบุหรี่เข้าไปเต็มปอด หนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันซ้ายหันขวาเพื่อดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ

เมื่อเขาเหลือบไปมองเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าประตู ทางออกรถไฟฟ้าใต้ดิน และเขาก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมา ทันที

เขาหลบหนีคดีมาสามปีแล้ว
ในระยะเวลาสามปีมานี้ เขาใช้ชีวิตอย่างกับผู้ที่ไม่มีตัวตน หลบซ่อนตัวตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ

เขากําลังหาโอกาสที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าทําได้เขา คง โล่งใจอย่างแน่นอน แต่เขาไม่มีความสามารถที่จะหลบหนีไป อยู่ต่างประเทศ และเขาก็ไม่มีโอกาสแบบนี้ด้วย

ดังนั้นเขาทําได้เพียงอดมื้อกินมื้อและหลบซ่อนตัวตลอดเวลา

สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจก็คือ เขากับคนในครอบครัว มีวิธีติดต่อกันที่เป็นความลับ การติดต่อแบบนี้ แม้แต่ตำรวจ ไม่รู้

เพราะการติดต่อที่เป็นความลับแบบนี้ ทำให้คนในครอบครัว ของเขาติดต่อมาเมื่อสองวันก่อน บอกกับเขาว่ามีคนยอมจ่ายเงิน สิบล้านหยวน ให้เขาไปฆ่าคนๆหนึ่ง เมื่อทำเรื่องนี้สำเร็จ พวก เขาจะหาวิธีส่งเขาออกนอกประเทศ

เนื่องจากคนในครอบครัวได้รับเงินสิบล้านหยวนแล้ว ดังนั้น เขาก็เลยดีใจและรับงานนี้ทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ