ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1983



บทที่ 1983

ซึ่งหวั่นถึงคิดไม่ออกจริงๆ ว่าใครกันแน่ที่ต้องการชีวิตของเธอ ถึงแม้ชื่อของซ่งตรงกับซ่งเทียนหมิงจะแว๊บเข้ามาในสมอง ของเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธความคิดนี้ทันที

เธอรู้สึกว่าซึ่งตรงกับเธอเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก เขา ปฏิบัติต่อเธอ เหมือนเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ เขาไม่คิดร้ายกับตัว เองอย่างแน่นอน

นี่ไม่ใช่เพราะซ่งหวั่นถึงเป็นคนไร้เดียงสาหรือโง่เขลา แต่เธอ คิดว่าความรักในครอบครัวนั้นประเมินค่าไม่ได้ ตัวเองไม่ควร สงสัยลูกพี่ลูกน้องและลุงของตัวเอง

เย่เฉินมองออกว่าเธอไม่ได้สงสัยซ่งหรงเลย ดังนั้นเรื่องนี้ เช่ เฉินแค่พูดพอเป็นพิธีและไม่ได้พูดต่อ

ตอนนี้เขาแค่สงสัยซ่งหรง ถ้ายังหาหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้ ไม่จําเป็นต้องบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ซึ่งหวั่นถึงทราบ

ดังนั้น เขาก็เลยพูดกับซ่งหวั่นถึง “หวั่นถึง สองสามวันนี้ คุณก็ พักอยู่ที่คฤหาสน์ของคุณอิโตะชั่วคราวก่อน คุณอย่าลืมที่ฉัน บอก ห้ามติดต่อกับใครเด็ดขาด และอย่าให้ใครรู้ว่าคุณยังมี ชีวิตอยู่ ใครเป็นคนคิดร้ายกับคุณ ฉันจะตรวจสอบให้กระจ่าง

ซึ่งหวั่นถึงพยักหน้าเบาๆและพูดด้วยความเคารพ:”อาจารย์เย่ หวั่นถึงจะทำตามทุกอย่างที่คุณพูด”
เย่เงินยิ้มเบาๆ “คุณไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว หลังจากทาน อาหารเสร็จ ฉันจะให้คุณอิโตะเตรียมห้องนอนให้คุณไปพัก ผ่อน”

อิโตะนานาโกะรีบพูดทันที “คุณซง คุณชอบห้องนอนสไตล์ แบบไหน? เสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นหรือเตียงนุ่มๆสไตล์ยุโรป? ฉัน จะให้แม่บ้านเตรียมเอาไว้ก่อน!”

ซ่งหวั่นถึงรีบพูดทันที “คุณนานาโกะเกรงใจมากเกินไปแล้ว ฉันนอนอะไรก็ได้”

อิโตะนานาโกะพูดด้วยรอยยิ้มหวานๆ “ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะ ให้คนเตรียมห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นให้คุณ เมื่อคุณมาถึงญี่ปุ่นก็ ต้องพักอาศัยแบบชาวญี่ปุ่น”

ซึ่งหวั่นถึงพูดอย่างสุภาพ:”ต้องขอบคุณ คุณนานาโกะมากๆ!” อิโตะนานาโกะพูดอย่างจริงจัง “คุณซึ่งเป็นเพื่อนของเเฉินซัง เมื่อมาถึงตระกูลอิโตะ ก็คิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณละกัน”

ขณะพูด อิโตะนานาโกะก็พูดอย่างน่าเสียดายว่า “คุณซ่งมาที่ โตเกียว โดยปกติฉันควรจะพาคุณออกไปเที่ยว แต่เยเฉันยังไม่ อยากให้คุณออกไปข้างนอก ครั้งนี้คุณคงต้องอยู่ในคฤหาสน์ เท่านั้น หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันค่อยพาคุณ ออกไปเที่ยว!”

ซ่งหวั่นถึงไม่คาดคิดจริงๆ อิโตะนานาโกะที่เป็นคุณหนูใหญ่ ของตระกูลอิโตะ ด้วยฐานะ ภูมิหลังของเธอนั้นสูงกว่าตัวเอ งมากๆ แต่เธอก็สุภาพกับตัวเองมากๆ ทำให้เธอรู้สึกปลาบปลื้มมากๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง

อย่างไรก็ตาม เธอก็ตระหนักได้ถึงปัญหาที่แท้จริงได้อย่าง รวดเร็ว และคิดในใจ “ฉันกับคุณนานาโกะไม่เคยรู้จักกัน ทำไม เธอต้องเกรงใจกับฉันขนาดนี้ ทั้งหมดเพราะเธอให้เกียรติอาจาร ย์เย? ยิ่งอาจารย์เย่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็มีคนให้เกียรติเขา มากเท่านั้น…”

ในขณะที่ยังหวั่นถึงกำลังถอนหายใจอยู่ใจ อิโตะนานาโกะก็ ใช้เครื่องมือต้มซาของญี่ปุ่นและชงชาเขียวมัทฉะเสร็จแล้ว เธอ ยกถ้วยชา ใบแรกไปไว้ด้านหน้าของเยเฉินด้วยความเคารพ และ พูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “เย่เฉินซัง เชิญชิมชา!”

เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนานา โกะ”

พูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปรับชาเขียวมัทฉะถ้วยนั้น

อิโตะนานาโกะก็ชงชาอีกครั้ง และยกแก้วน้ำชามาที่ด้านหน้า ของซงหวั่นถึง

ซึ่งหวั่นถึงพบว่าอิโตะนานาโกะยกถ้วยชาให้ตัวเองกับยกถ้วย ชาให้เย่เฉินด้วยความสุภาพเหมือนกัน ตอนที่เธอยกถ้วยชาให้ ตัวเอง ดวงตาของเธอเปล่งประกายน้อยกว่าตอนที่เธอยกถ้วยชา ให้เย่เฉิน

เป็นเพราะพวกเธอเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ซึ่งหวั่นถึงเข้าใจอย่าง ชัดเจน ขณะที่อิโตะนานาโกะเผชิญหน้ากับเเฉินนั้น ดวงตา เปล่งประกายของเธอนั้นมีความหมายอะไร
ถ้าผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะมองผู้ชายคนหนึ่ง ดวงตาของเธอเปล่ง ประกาย ถ้างั้นผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนที่เธอรักอย่างแน่นอน

เพราะดวงตาที่เปล่งประกายนั้น เป็นสัญญาลักษณ์ของความ

จู่ๆเธอก็รู้สึกโศกเศร้าทันที

เหตุผลที่โศกเศร้า เพราะข้างกายของเยเฉิน มักจะมีผู้หญิงที่ชอบเขาตลอด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ