ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1333



บทที่ 1333

ในกล่องสกินแคร์ ขนาดเหมือนกระเป๋าหนังทํางาน ใช้สีต่า ทองเป็นเบส ทั้งดูหรูหราแต่ก็คลาสสิก

เย่เฉินอดแปลกใจไม่ได้ว่า “ทั้งชุดใหญ่ขนาดนี้เลย?

เฉินจื้อขายรีบอธิบายว่า “คุณชาย ชุดสกินแคร์ที่ผมเลือก เป็นชุดที่แพงที่สุดของประเทศเขาแล้ว ราคา 388,888 หนึ่งชุด มีสินค้าทุกชนิดของพวกเขา รวมถึงครีมและครีมทาตาที่เป็นซิก เนเจอร์ของพวกเขาอีก เรียกได้ว่าเป็นชุดพิเศษสุดเลย

เย่เฉินพยักหน้า “ลำบากคุณแล้วนะ”

เฉินจือข่ายรีบอธิบายว่า “คุณชายครับ เป็นหน้าที่ของผมอยู่ แล้วครับ!”

เย่เฉินรับค่หนึ่งที่พลางว่า “จริงสีเหล่าเฉิน อาทิตย์หน้าผมจะ ไปเล่นจิงสักหน่อย เรื่องทางด้านจินหลงฝากคุณกับหงห้าดูแลละ กันนะ โดยเฉพาะด้านภรรยาผม ต้องให้คนแอบคอยคุ้มกันนะ จนถึงตอนนี้ตระกูลยังพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ผมเดาว่า พวกเขาไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่

เฉินอข่าวอุทานอย่างตกใจ “คุณชาย คุณจะไปเย่นจิง? กลับ ตระกูลเย่หรือครับ?”

เย่เฉินส่ายหัวพลางว่า “ตอนนี้ผมยังไม่คิดกลับไป
เงินจื่อข่าวถามอย่างสงสัยว่า “คุณชาย อย่าหาว่าผมปากมาก เลย ครั้งนี้คุณไปเช่นจึงทำไมหรือครับ? ถ้าคุณไม่กลับไปตระกูล เย่ งั้นคุณต้องระวังเจ้าคุณชายธงของตระกูลลงให้มากๆนะครับ ผมได้ยินมาว่า มันผ่าตัดเสร็จและพักรักษาตัวที่บ้านครึ่งเดือน แล้ว ตอนนี้เกลียดคุณเข้ากระดูกด่าเลย!

“เกลียดผมเข้ากระดูกดำ?” เย่เฉินยิ้มเย็นพลางว่า “แค่ คุณชายตระกูลขงเท่านั้น ก็กล้ามาทำปากกล้าต่อหน้าผม ผมไป เย่นจิงครั้งนี้มีเรื่องต้องไปทำ ถ้าเขายังตาไม่ดีและกล้ามาหาเรื่อง ผม ผมไม่ให้เขาอยู่สบายๆแน่

เฉินจื่อข่าวถามอีก “คุณชาย งั้นให้ผมแจ้งที่บ้านไหมครับ พวกเขาจะได้คอยต้อนรับคุณทางโน้นด้วย คุณจะได้สะดวก สบายหน่อย”

“ไม่ต้องหรอก” เย่เฉินบอก “ผมไปครั้งนี้ไม่อยากให้คนตระ

กุลเย่รู้ ดังนั้นคุณต้องช่วยผมเก็บเป็นความลับด้วยล่ะ

“ครับคุณชาย”

เยเฉันพยักหน้าพลางว่า “เหล่าเฉิน ผมถามคุณเรื่องหนึ่งสิ เฉินจื้อขายรีบตอบ “คุณชายถามได้เลยครับ

เย่เฉินถามว่า “คุณรู้เรื่องการตายของพ่อแม่ผมตอนนั้นไหมว่า มันเป็นยังไงกันแน่?

เฉินจือข่ายตอบอย่างกระดากว่า “คุณชาย ตอนพ่อแม่คุณเสีย ผมยังไม่ได้มาทำงานกับตระกูลเย่ครับ ตอนนั้นผมเรียนหนังสืออยู่ พอเรียนจบ ถึงได้มาทำงานในบริษัทหนึ่งของเครือตระกูลเข่ จากนั้นก็ได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์จินหลิง เรื่องพ่อแม่คุณ ตอน นั้นเป็นหัวข้อต้องห้ามที่ห้ามคนวิพากษ์วิจารณ์กันเลยของตระกูล เย ตอนนั้นพวกที่อยู่มานานกว่าผมยังปิดปากกันเงียบ ดังนั้นผม เลยไม่ได้สืบสาวราวเรื่องอะไรเลย”

เย่เฉินขมวดคิ้วแน่น พยักหน้าแผ่วเบา

เท่าที่ดู เรื่องพ่อกับแม่ตอนนั้นน่าจะต้องมีเงื่อนงำแน่ เพียงแต่ ว่ามันอาจจะเป็นความลับสุดยอดของตระกูลเย่ ด้วยฐานะอย่าง เฉินจือข่าย น่าจะยากที่จะได้รับรู้

ดังนั้นเขาเลยไม่รุกถามต่อ ได้แต่กำชับว่า “เหล่าเฉิน เรื่องที่ เราคุยกันเมื่อกี้ ห้ามไปคุยกับใครเด็ดขาด ถ้าคนตระกูลเยถาม ก็อย่าแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด”

เฉินจือข่ายสีหน้าขึงขังขึ้นมาทันที โพล่งออกไปว่า “คุณชาย

วางใจได้ครับ! ผมจะไม่พูดออกไปแม้แต่คำเดียวเลย!”

ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่เย่เฉินจะฆ่าล้างราชาทั้งแปดที่ใต้ เขาฉางไบ ในใจเฉินจือข่ายคงจะเอนเอียงไปทางตระกูลเ มากกว่า เพราะเย่เฉินเป็นแค่คุณชายคนหนึ่งที่เร่ร่อนนอกตระกูล เย่ ส่วนคนตระกูลเยถึงเป็นเจ้านายตนที่แท้จริง

แต่พอเขาเห็นกับตาถึงฝีมืออันน่ากลัวของเยเฉินที่ใต้ภูเขา ฉางไบ เขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า ชีวิตนี้จะตามติดเย่เฉิน

เรียกได้ว่า ในสายตาเฉินจือข่ายในตอนนี้ เขามีเจ้านายแค่คน เดียว นั่นก็คือเย่เฉิน
ถ้าวันไหนเเฉิน ให้เขาหันดาบเข้าหาคนตระกูลเย่ เขาก็จะ ทําตามอย่างไม่ลังเลเลย

พอบอกลาเฉินจ๋อข่าย เย่เฉินขับรถออกจากโรงยิมจินหลิง โดยลำพัง

เขาไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้าน แต่โทรหาเซียวฉางควนซึ่งเป็น พ่อตาตนก่อน พลางถามเขาว่า “พ่อครับ พ่ออยู่ไหนน่ะ?”

เชียวฉางควนหัวเราะร่าบอก “ลูกเขยที่รัก พ่ออยู่ที่ มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุแน่ะ งานอภิปรายที่พวกเราจัดประสบ ความสําเร็จมากเลย ตอนนี้ทุกคนกำลังโต้วาทีกันดุเดือด ลูกไม่รู้ อะไร บรรยากาศในงานดีมากเลยนะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ